SD:บทที่ 59  มีบางอย่างร้ายแรงเกิดขึ้น

 

เสียงของ เฉา ตั้วเฟย ดังมากจนคนในห้องพักต่างรู้สึกประหลาดใจ  ซู ฉิวไป่ ส่งสัญญาณว่าพวกเขาควรออกไปคุยกันข้างนอกดังนั้น เฉา ตั้วเฟย จึงกลืนคำพูดของตัวเองเอาไว้

ด้านนอกห้องพัก ซู ฉิวไป่ และ เฉา ตั้วเฟย นั่งอยู่บนม้านั่งตรงทางเดินและพูดคุยกัน

“ สมาคมรถแข่งเกิดอุบัติเหตุ!”

เฉา ตั้วเฟย พูดตรงประเด็น ในขณะที่ ซู ฉิวไป่ กับมองว่าเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา

เมื่อ เฉา ตั้วเฟย เห็นการแสดงออกของ ซู ฉิวไป่ ก็ตระหนักได้ทันทีว่า เจ้านายของเขาไม่สนใจเรื่องนี้ นอกจากนี้นักแข่งจากสมาคมรถแข่งนั้นยังเคยแทง ซู ฉิวไป่ อีกด้วย  เฉา ตั้วเฟย สันนิษฐานได้ว่า ซู ฉิวไป่ ยังคงอารมณ์เสียเกี่ยวกับเรื่องนี้

“บอส ถ้าสถานการณ์นี้ไม่ดีขึ้นมันจะเป็นจุดสิ้นสุดของการแข่งขันรถแข่งที่จะเข้าสู่การแข่งขันกับนานาชาติ”

เฉา ตั้วเฟย พยายามอธิบายอย่างละเอียดโดยหวังว่า ซู ฉิวไป่ จะเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้ แต่การแสดงออกของ ซู ฉิวไป่ ยังแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่สนใจ  เฉา ตั้วเฟย รู้สึกเสียใจเล็กน้อยแต่เขาพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองและเริ่มคุยกับ ซู ฉิวไป่ อีกครั้ง

“เรื่องมันเกิดจากงานแถลงข่าววันนี้ มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อคาร์ล…”

เฉา ตั้วเฟย เล่าเหตุการณ์ราวกับถ่ายทอดสดทั้งหมดให้ ซู ฉิวไป่ ฟัง และตบท้ายด้วยคำขุ่นเคืองของเขา

“ชาวต่างชาติงี่เง่า เขาจะต้องแพ้อย่างแน่นอน ความเย่อหยิ่งของเขาจะหมดไปเมื่อ กู่ ชิงเทียน กลับมาในเย็นวันนี้!”

โดยไม่คาดคิดหลังจากจบประโยคนี้  ซู ฉิวไป่ ก็กล่าวอย่างง่ายๆว่า

“เขากลับมาไม่ได้..การแข่งขันจบลงแล้ว”

เฉา ตั้วเฟย ตกตะลึงทันทีด้วยความงงงวยๆของเขายังคงจ้องมอง ซู ฉิวไป่ อย่างตกตะลึง

ฉันเพิ่งอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดให้คุณฟังอย่างชัดเจน แต่คุณไม่รู้อะไรเลยแต่กลับสรุปว่าเขามาไม่ได้

“นั่น…เป็นไปไม่ได้ กู่ ชิงเทียน จะต้องกลับมาอย่างแน่นอน บางทีอีก 2 คนที่อยู่ต่างประเทศก็จะกลับมาเช่นเดียวกันเมื่อถึงเวลานั้นชาวต่างชาติคนนี้จะต้องถูกทุบตีอย่างแน่นอน นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญของสมาคมรถแข่ง ..พวกเขาจะไม่ยอมแพ้”

ซู ฉิวไป่ ยังคงเงียบและมองดู เฉา ตั้วเฟย  ผ่านจากการฟังคำบอกเล่าของ เฉา ตั้วเฟย เขารู้แล้วว่าทำไมผู้หญิงในรถแท็กซี่ของเขาจึงแสดงออกอย่างนั้น เห็นได้ชัดว่า เธอต้องเป็น กู่ ชิงเหมย อย่างแน่นอน

ไม่แปลกใจที่เขารู้สึกคุ้น ก่อนหน้านี้มีโปสเตอร์ขนาดใหญ่แขวนอยู่บนกำแพง เขาน่าจะจำเธอได้ตั้งแต่เห็นแว๊บแรก แต่เขากลับจําเธอไม่ได้ และที่เขารู้ว่าเธอคือ กู่ ชิงเหมย เนื่องจากได้ยินคำพูดจากโทรศัพท์ของเธอ เห็นได้ชัดว่า กู่ ชิงเทียน ได้รับบาดเจ็บจากใครบางคนดังนั้นเขาจึงขอให้ กู่ ชิงเหมย ยอมรับความพ่ายแพ้นี้..

“ทำไมคุณไม่พูดอะไรเลย? บอส..แล้วคุณจะเข้าร่วมการแข่งขันไหม?”

ต้องบอกว่า เฉา ตั้วเฟย กำลังพูดกระตุ้น ซู ฉิวไป่ เล็กน้อยมันเป็นความจริงที่เขามีความคาดหวังตั้งแต่เริ่มพูดแม้ว่าความแข็งแกร่งของ กู่ ชิงเทียน จะแข็งแกร่ง แต่ในความเห็นของ เฉา ตั้วเฟย แล้วเจ้านายของเขาทรงพลังยิ่งกว่า และแน่นอนว่า ซู ฉิวไป่ จะต้องเป็นที่หนึ่งในการแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นการแข่งขันกับชาวต่างชาติดังนั้นพวกเขาต้องการความมั่นใจมากขึ้น!

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาพูดจบ ซู ฉิวไป่ กรอกตาและพูดว่า

“ไม่สนใจ”

เขาไม่ได้ล้อเล่น เขาไม่มีความสนใจในการช่วยสมาคมรถแข่งเพื่อการแข่งขันนี้ จุนเสี่ยวเตา เคยแทงเขาทำให้เขารู้สึกไม่ดีกับสมาคมรถแข่ง ดังนั้นเรื่องนี้ ซู ฉิวไป่ ไม่ต้องการมีส่วนร่วม

สุดท้ายแล้ว…ระบบนำทางยังคงอัพเกรดอยู่..แม้ว่าฉันต้องการช่วยเหลือฉันก็ทำไม่ได้

ด้วยความคิดนี้ ซู ฉิวไป่ ลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย  เฉา ตั้วเฟย พยายามที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาต้องกลืนคำพูดของตัวเองและเดินตามไปอย่างเงียบๆ อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถนั่งนิ่งๆได้หลังจากผ่านไป 2-3 นาที

“บอส ผมจะไปที่นั่นเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น หากมีข่าวเพิ่มเติมผมจะรายงานคุณทันที”

หลังจากนั้น เฉา ตั้วเฟย ก็ออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ความวิตกกังวลของเขาแสดงออกอย่างชัดเจน    ซู ฉิวไป่  แอบส่าย หัวอย่างไร้ประโยชน์  เขาไม่สามารถใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

“พี่..ทำไมพี่สาวหรงหรงถึงไม่มาด้วย”

ซูเซี่ยวเซี่ยวมองไปที่ ซู ฉิวไป่ และถามคำถามขึ้นความจริงเธอต้องการถามคำถามนี้มานานแล้ว

“เอ่อ..บางทีเธออาจจะยุ่งอยู่?” ซู ฉิวไป่ ตกตะลึงแต่เขายังคงยิ้มและหันไปตอบน้องสาวของเขา

“หนูรู้ว่าพี่ไม่ได้โทรหาเธอ โทรไปหาเธอเร็วเข้าและถามว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ นี่เป็นสิ่งที่พี่ต้องทำ!” ซูเซี่ยวเซี่ยว ทำท่าทางประกอบด้วยมือขวาของเธอเธอต้องการกระตุ้นพี่ชายของเธอให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว

ซู ฉิวไป่ พยักหน้ารับและโทรไปหา เซี่ย หรงหรง  เมื่อวานเหมือนเธอจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง ตอนนี้มีโอกาสแล้วก็ควรที่จะโทรถามเธอเกี่ยวกับมัน หลังจากที่เขาก้าวเท้าออกไปจากห้องพักเด็กหญิงทั้ง 3 คนที่อยู่ในห้องผู้ป่วยก็เริ่มพูดคุยกัน

“เซี่ยวเซี่ยว พี่ชายของเธอเป็นคนขับรถแท็กซี่จริงๆหรอ”

จางเหวินหันหน้าไปหา ซูเซี่ยวเซี่ยวและถามด้วยเสียงเบาๆ

ซูเซี่ยวเซี่ยวมองหน้าเพื่อนของเธอและตอบยังไม่สนใจว่า

“ไม่ว่าเธอจะถามฉันกี่ครั้งพี่ชายของฉันก็เป็นเพียงคนขับรถแท็กซี่ธรรมดาในเมือง ชิงเหอ..ทำไมล่ะพวกเธอไม่เชื่ออย่างนั้นหรอ?”

“แต่..” เสี่ยวหลี่ต้องการที่จะเถียง

“ฉันเข้าใจในสิ่งที่พวกเธอพยายามจะบอก แต่เขาคงยืมเงินมาจากเพื่อนของเขาไม่งั้นเขาจะมีเงินมากมายได้ยังไง”

ซู้เซี่ยวเซี่ยวอธิบาย

“ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น พี่ชายของเธอต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน…ทำไมเธอไม่ถามเขาล่ะบางทีมันอาจจะดีกับเธอก็ได้ เพราะเธอควรที่จะใช้เงินเพื่อ….” จางเหวินหยุดพูดในขณะที่เธอเห็นซูเซี่ยวเซี่ยวเงียบ

“ไม่เป็นไร ฉันจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง ฉันไม่ต้องการให้พี่ชายของฉันเดือดร้อน..เขาต้องหาวิธีคืนเงินที่โอนมายังบัตรของฉันอย่างแน่นอน เธอสองคนอย่าพูดเรื่องนี้กับเขาล่ะ”

เมื่อเห็นความแน่วแน่ในสายตาของ ซู เซี่ยวเซี่ยว เด็กหญิงทั้งสองคนพยักหน้า

ด้านนอกห้องพักผู้ป่วย ซู ฉิวไป่ โทรหา เซี่ย หรงหรง อยู่สองครั้งก่อนที่จะโทรติด ดูเหมือนคนที่อยู่ปลายสายรับโทรศัพท์ในจังหวะสุดท้าย

“คุณยุ่งอยู่หรือเปล่า?คุณต้องการวางสายก่อนไหม?ผมจะโทรหาคุณในภายหลัง”

“ไม่มีอะไร เซี่ยวเซี่ยวดีขึ้นหรือยัง”  เซี่ย หรงหรง ยิ้มเธอค่อนข้างประหลาดใจที่ซู ฉิวไป่ โทรหา มันเป็นครั้งที่ 2 ที่เขาโทรหาเธอ

ครั้งแรกคือการยืมเงิน

“เธอค่อนข้างดีขึ้นแล้ว เธอถามผมว่าทำไมคุณถึงไม่มาที่นี่และต้องการให้ผมโทรหาคุณ”

ซู ฉิวไป่ ไม่รู้จะพูดอะไรดังนั้นเขาจึงพูดความจริง

ผู้หญิงเป็นสิ่งค่อนข้างเข้าใจยากเมื่อได้ยินคำพูดของ ซู ฉิวไป่ เซี่ย หรงหรง รู้สึกดีใจและมีความสุข

“ฉันจะกลับไปเยี่ยมอีกครั้งเมื่อฉันทำงานเสร็จแล้ว”

จากนั้นพวกเขาคุยกันอีกสักพักก่อนจะวางสาย

“ประธานเซี่ย ไม่มีข่าวเลย ผมควรทำยังไงดี”

ทันทีที่ เซี่ย หรงหรง วางสายคนขับรถก็วิ่งเหงื่อแตกมาหาแล้วพูดอย่างกับวนกระวายใจ

“ค้นหาต่อไป!หากไม่มีข่าวก่อนเที่ยงโทรแจ้งตำรวจได้เลย..อย่าเคลื่อนย้ายสินค้าชุดนั้น!” เซี่ย หรงหรง สั่งการโดยไม่ลังเล

ชายคนนั้นพยักหน้าและออกไปจากสำนักงาน ดวงตาของ เซี่ย หรงหรงส่องประกายความกังวลใจ

หากเราไม่เจอคนเหล่านั้น..มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่

—–

ซู ฉิวไป่ กลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยและอยู่ที่นั่นจนถึงเย็น จากนั้น เฉา ตั้วเฟย ก็เข้ามา  ซู ฉิวไป่ คิดว่าในที่สุดเด็กคนนั้นก็ต้องยอมแพ้เกมท้าทายในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อ เฉา ตั้วเฟย พูดมันทำให้เขารู้สึกตกตะลึง

“บอส  สมาคมรถแข่งประกาศอย่างเป็นทางการว่า ในวันพรุ่งนี้พวกเขาจะสอนบทเรียนให้กับ คาร์ล!”

ซู ฉิวไป่ รู้สึกงงๆเมื่อได้ยินคำพูดของ เฉา ตั้วเฟย

มันจะเป็นไปได้อย่างไร

“ใครคือคนเข้าร่วมการแข่งขัน? กู่ ชิงเหมย อย่างนั้นหรอ?”

ซู ฉิวไป่ คิดว่านักแข่งควรที่จะเป็นเธอเพราะในรถแท็กซี่ กู่ ชิงเทียน ดูเหมือนจะให้คำแนะนำเธออย่างรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ไม่ใช่ กู่ ชิงเหมย หรือ กู่ ชิงเทียน แต่เป็นเจ้าของอีกคนหนึ่งที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ”

ในที่สุด ซู ฉิวไป่ ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ฮ่าฮ่า ผมบอกคุณแล้วว่ายังไงสมาคมรถแข่งก็จะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม บอสคุณเดาผิดแล้ว”

เฉา ตั้วเฟย รู้สึกภาคภูมิใจ แก๊งรถซิ่งของเขาค่อนข้างที่จะใส่ใจเรื่องนี้

เฉา ตั้วเฟย ยิ้มแน่นอนว่าเขาไม่สนใจว่าเดาผิดหรือเดาถูกเขาเพียงพอให้คนเหล่านั้นปลอดภัยจากการแข่งขันก็พอ

เมื่อใกล้ถึงเวลาอาหารเย็นเขาวางแผนที่จะลงไปซื้ออาหารอย่างไรก็ตามเมื่อเขาก้าวขาออกมา 2 ก้าว ก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น อันที่จริงมันมาจาก เฉา ตั้วเฟย  ซู ฉิวไป่ รู้สึกแปลกใจ ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งคุยกับฉันอย่างนั้นหรอ

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“บอส มีบางอย่างร้ายแรงเกิดขึ้น!”

บัดซบ …แม้แต่คำพูดยังเหมือนกับครั้งก่อน!