ตอนที่ 228 ชิงช้า / ตอนที่ 229 น่าสงสาร

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 228 ชิงช้า 

 

 

 

 

 

คำว่าขู่ นับว่าใช้ได้เหมาะ เพราะอย่างไรถังเฉียนก็ไม่คิดจะพูดเอาใจนาง 

 

 

“เมื่อครู่ข้าถามพี่เถิงอวิ๋น เขาบอกว่าผู้หญิงคนก่อนของเถิงเฟิงก็ชื่ออาหรูน่า เจ้ารู้จักนางหรือไม่” 

 

 

เดิมทีคิดว่าถังเฉียนจะรู้สึกลำบากใจ แต่นางกลับถามออกมาตรงๆ เลย ทำให้เหวินเยียนไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่ และไม่รู้ว่าควรจะพูดตามความจริงหรือไม่ 

 

 

“คุณหนูอาหรูน่า คุณชายใหญ่บอกสิ่งใดแก่ท่าน” 

 

 

ถังเฉียนนั่งลง ปล่อยเสี่ยวจินออกไปเฝ้าประตู ป้องกันไม่ไห้นางหนีไป แล้วพูดว่า 

 

 

“เขาเล่าคร่าวๆ แต่เขาบอกว่าเขาเป็นผู้ชาย บางเรื่องก็ไม่รู้ นี่เป็นเรื่องในเรือนของน้องชายเขา เขารู้เรื่องพวกนี้น้อยกว่าเจ้า นั่งลง…” 

 

 

เหวินเยียนดูที่นั่งที่ถังเฉียนชี้บอก แต่ไม่กล้านั่งลง นางยืนตรงหน้าถังเฉียน สอบถามดูว่าเถิงอวิ๋นเผยอะไรไปบ้าง 

 

 

“คุณชายใญ่…” 

 

 

“เล่าเรื่องชิงช้านั่นก่อน” 

 

 

เมื่อเหวินเยียนได้ฟังที่นางพูดก็รู้ว่านางรู้แล้วจริง จึงพูดอย่างระวังตัวว่า 

 

 

“แม่นางข้าจะบอกท่าน แต่ท่านอย่าบอกคุณชายรองเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นข้า…” 

 

 

“เจ้าต้องการอะไร วันหลังไม่ต้องขอจากเขา เจ้ามาหาข้า บ้านข้าอยู่ข้างนอก ส่งของมาให้เจ้าได้ เอาของมาให้เจ้าสะดวกกว่าเขามากจริงหรือไม่ ข้าไม่ใช่คนโง่ ถ้ามีคนบอกความจริงกับข้า ข้าจะขายคนผู้นั้นหรือ ข้าจะรับประกันให้เจ้าสูงศักดิ์ร่ำรวย วันหน้าเราจึงจะพึ่งพากันได้” 

 

 

เหวินเยียนพยักหน้าทันที แล้วพูดว่า 

 

 

“ขอบคุณคุณหนูอาหรูน่า ท่านวางใจเถอะ เหวินเยียนย่อมเล่าทุกอย่างที่รู้ อย่างไรก็เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ผู้ใดก็ย่อมมองออกว่าเวลานี้ท่านเป็นคนในหัวใจของคุณชายรอง” 

 

 

ถังเฉียนฟังที่นางเยินยอ ก็รู้สึกอึกอัดใจ 

 

 

“ผู้หญิงคนนั้นชื่ออาหรูน่าจริง แต่เป็นชื่อที่คุณชายรองเปลี่ยนให้นางภายหลัง เดิมนางเป็นสาวใช้ที่คอยรับใช้คุณชายรอง เนื่องจากคุณชายรองสุขภาพไม่แข็งแรง นางคอยต้มยาให้คุณชายรองทุกวัน คุณชายรองจึงประทับใจในตัวนาง ต่อมานางฉลองวันเกิด รู้สึกว่าชื่อตัวเองไม่เพราะ จึงขอให้คุณชายรองตั้งชื่อให้นาง คุณชายรองจึงเรียกนางว่าอาหรูน่า” 

 

 

ถังเฉียนฟังแล้วรู้สึกว่าเถิงเฟิงน่าจะมีความรู้สึกพิเศษต่อชื่ออาหรูน่านี้ เดิมนางคิดว่าเขาตั้งชื่อนี้เพื่อตัวนางโดยเฉพาะ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะชอบชื่ออาหรูน่านี้ นางรู้สึกเสียใจบ้าง แต่ว่าวันนี้ยังเสียใจน้อยไปอีกหรือ 

 

 

“คุณชายรองได้ชื่อว่าเข้ากับผู้หญิงได้ดี ปกติชอบพูดคุยและเล่นกับพวกเรา เพราะเขากับคุณชายใหญ่อายุต่างกันมาก จึงมีความผูกพันกับคุณชายใหญ่อย่างพื้นๆ ได้ยินว่าตอนนั้นฮูหยินรักและเอ็นดูอาหรูน่า ถือว่านางเป็นว่าที่ฮูหยิน แต่ไม่รู้ว่าภายหลังเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ อาหรูน่าก็ป่วย จากนั้นก็หายไป น่าสงสารมาก” 

 

 

ถังเฉียนได้ฟังเช่นนี้รู้สึกว่าอาหรูน่าคนก่อนเป็นคนที่น่าสงสาร แล้วดูท่าทางเหวินเยียน คงต้องปิดบังบางอย่างไว้ ถังเฉียนจึงยิ้มแล้วว่า  

 

 

“นางถูกฝังอยู่หลังเขาใช่หรือไม่ รู้หรือไม่ว่านางตายเพราะเหตุใด” 

 

 

เหวินเยียนตอบว่า 

 

 

“ป่วยตายเจ้าค่ะ แต่ไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไร แต่หลังจากนั้นนิสัยคุณชายรองก็เปลี่ยนไป ไม่ชอบเล่นสนุกกับพวกเราแล้ว บางครั้งพูดกับข้าแค่สองสามคำ มักคอยเลี่ยงผู้คน เหมือนกลัวถูกคนอื่นพบเห็น” 

 

 

ถังเฉียนยิ้มหยัน นางกลับรู้สึกว่าไม่ใช่เถิงเฟิงกลัวคนพบเห็น เกรงว่าเหวินเยียนจงใจพูดออกมาเพื่อให้ตนไม่คิดมาก แววตาเหวินเยียนเจิดจ้าเล็กน้อย น่าจะเป็นคำพูดโกหกที่แต่งขึ้นต่อหน้านาง 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 229 น่าสงสาร 

 

 

 

 

 

“อย่างนั้นหรือ คิดว่าเหวินเยียนเองก็น่าจะเป็นคนพิเศษ สรุปแล้วเขาคงไม่ปฏิบัติต่อสาวใช้สองสามคนในเรือนเช่นนี้ เจ้าถึงหยิ่งจองหองอย่างร้ายกาจ ข้าเองจะอย่างไรก็ได้ แต่ไม่ชอบให้ใครโกหก” 

 

 

ใบหูเหวินเยียนสั่นเล็กน้อย จากนั้นก็คุกเข่าลงทันที 

 

 

“คุณหนูอาหรูน่า ข้าแค่คุยกับคุณชายรองสองสามคำ ท่านอย่าเข้าใจข้าผิดเด็ดขาด ข้าไม่ได้ยั่วยวนคุณชายรองจริงๆ บ่าวไม่มีวาสนาเช่นนั้น” 

 

 

เหวินเยียนคุกเข่าอยู่กับพื้น ดึงชายกระโปรงถังเฉียนไว้ ทำให้นางรู้สึกอึดอัด พอออกแรงเพียงเล็กน้อย นางก็ซวนเซล้มลงบนพื้น แล้วร้องครวญครางทันที 

 

 

“คุณหนูอาหรูน่า ปกติท่านดูเป็นคนมีเมตตา เหตุใดถึงไม่เชื่อข้า ข้าไม่มีความคิดในแง่อื่นกับคุณชายรองจริงๆ ข้าเป็นคนของคุณชายใหญ่ ท่านอย่าทำร้ายข้าเลย…” 

 

 

คำพูดที่เปลี่ยนไปมีความหมาย นางลงมือทำร้ายแล้วหรือ 

 

 

เดิมทีไม่รู้ว่าเหตในางจึงพูดเช่นนี้ แต่ถัดมาเถิงเฟิงก็มาเคาะประตูห้อง กระแอมแล้วพูดว่า 

 

 

“อาหรูน่า สะดวกจะเปิดประตูให้ข้าเข้าไปได้หรือไม่” 

 

 

ถังเฉียนเดินมาเปิดประตู เหวินเยียนนอนหมอบอยู่กับพื้น ท่าทางน่าสงสาร พอเห็นเถิงเฟิงก็ไม่กล้าพูดอะไร เพียงแต่เม้มปากแน่น น้ำตาคลอ 

 

 

“ช่างเป็นสาวงามที่น่าสงสารจริงๆ เจ้ามาพอดี จะมาชื่นชมด้วยกันหรือไม่” 

 

 

เถิงเฟิงเดินเข้ามาในห้อง เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เพียงแต่โบกมือให้เหวินเยียนออกไป แต่ถังเฉียนกลับปิดประตูดังปัง ทำให้เหวินเยียนตกใจคุกเข่าลงบนพื้น พอเป็นเช่นนี้ก็ต่างจากสภาพเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง ที่แท้สาวใช้คนนี้รู้จักตีสองหน้า 

 

 

ถังเฉียนใช้เท้าเตะใส่ร่างเหวินเยียนทีหนึ่ง เตะไม่หนักไม่เบา แค่ทำให้นางลุกขึ้นไม่ได้ ฟุบอยู่บนพื้นร้องโอดโอย คราวนี้ดูน่าสงสารจริงๆ แล้ว 

 

 

“ข้าอาหรูน่าไม่ชอบให้ใครใส่ร้าย ในเมื่อเจ้าอยากทำตัวน่าสงสาร ข้าเลยทำให้เจ้าน่าสงสารจริงๆ ไม่เสียทีที่ให้คุณชายรองของเจ้ามาดูเรื่องสนุกด้วยกัน” 

 

 

เถิงเฟิงฟังเช่นนี้ก็หัวเราะ เดิมสีหน้าที่เหมือนสงสารหญิงงามที่ตกทุกข์ก็ผ่อนคลายลง 

 

 

“ใครบอกว่าอาหรูน่าของข้ารังแกได้ง่ายๆ ข้ายังกลัวว่าเจ้าจะใจอ่อนเกินไป วันหน้าบ่าวพวกนี้อาจข่มเหงเจ้าได้” 

 

 

ถังเฉียนเหลือบมองเหวินเยียนซึ่งยังแสร้งทำตัวน่าสงสาร แล้วพูดว่า 

 

 

“ก่อนเจ้าจะมาถึง ยังอวดดีกับข้า นางยังบอกว่าข้าจะรุ่งโรจน์ได้เพียงไม่กี่วัน ไม่นานหรอกข้าจะย่อยยับเช่นเดียวกับอาหรูน่าคนก่อน เวลานี้ควรจะดีต่อนางบ้าง ไม่เช่นนั้นเมื่อถึงตอนนั้นจะไม่มีแม้แต่คนช่วยเก็บศพ” ถังเฉียนรู้แต่แรกแล้วว่านางย่อมไม่ยอมบอก แต่นางอยากรู้ ต้องถามออกมาให้ได้ พอถังเฉียนพูดเช่นนี้ สีหน้าเถิงเฟิงเปลี่ยนไปทันที 

 

 

“เจ้ามาพูดจาเหลวไหลสิ่งใดที่นี่” 

 

 

เถิงเฟิงเตะใส่หน้าอกเหวินเยียน ที่เขาเตะหนักกว่าที่ถังเฉียนเตะหลายเท่า ถังเฉียนมองนางพลางพูดว่า 

 

 

“นางเป็นคนของพี่ใหญ่ เจ้าทำร้ายนางไม่กลัวพี่ใหญ่จะเอาเรื่องหรือ เหตุใดต้องเตะแรงขนาดนั้นด้วย” 

 

 

เถิงเฟิงจ้องเหวินเยียนตาเขม็ง เหวินเยียนกุมหน้าอกตัวเองแล้วกระอักเลือดสีดำออกมา นั่นแสดงให้เห็นว่าถูกเตะแรงมาก 

 

 

“คุณชายรอง เหวินเยียนไม่ได้พูดอะไรเลย อาหรูน่าใส่ร้ายข้า นางทำร้ายข้า” 

 

 

ที่ผ่านมาเหวินเยียนหยิ่งผยอง เพราะรับใช้ข้างตัวคุณชายใหญ่มาหลายปี จึงมีฐานะสูงกว่าสาวใช้คนอื่นขั้นหนึ่ง ไหนเลยจะเคยเจอเรื่องเช่นนี้ นางอ้าปากแต่กลับพูดไม่ออก ลำบากแทบแย่กว่าจะพูดออกมาได้ แต่กลับถูกคุณชายรองระแวง