EG บทที่ 715 จ้าวเหยียนผู้น่าสมเพช

 

ในระหว่างที่สอน ลีน่าคอยมองออกไปที่นอกหน้าต่าง เธอรู้ว่าสิ่งที่บอดี้การ์ดของเฝิงหยู่พูดนั้นหมายถึงอะไรและรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

 

เธอสงสัยว่าจะเกิดเรื่องขึ้นข้างนอกและกังวลว่าเฝิงหยู่จะได้รับบาดเจ็บ

 

หลังจากสอนเสร็จ ลีน่าก็รีบวิ่งออกไปที่ประตูโรงเรียน แต่ถนนข้างนอกนั้นว่างเปล่า มีแค่คนเดินถนนเท่านั้นที่เดินผ่านไปมา และเธอก็ไม่เห็นเฝิงหยู่อยู่แถวนั้นแล้ว

 

“คุณคะ มีอะไรเกิดขึ้นที่หน้าโรงเรียนหรือเปล่าคะ?” ลีน่าถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

 

“อาจารย์ลี? จะมีอะไรเกิดขึ้นนอกโรงเรียนได้ยังไงล่ะครับ? มีแค่การต่อสู้ในตอนเช้าเท่านั้นและตำรวจก็มาจัดการไปเรียบร้อยแล้ว”

 

ลีน่ารู้สึกโล่งใจเมื่อเธอได้ยินแบบนั้น พ่อของจางฮั่นเป็นหัวหน้าตำรวจที่นั่น จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นถ้าพวกเขาถูกพาไปที่สถานีตำรวจ

 

ลีน่ากลับไปที่ห้องทำงานของเธอ เธออยากโทรหาเฝิงหยู่ แต่ก็ไม่ได้โทร เธอรู้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเฝิงหยู่และไม่อยากรบกวนเขาแพราะเขาอาจจะกำลังยุ่งอยู่

 

ตอนนี้เฝิงหยู่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่ที่สถานีตำรวจของเขต เขาอยู่ในห้องและค่อยๆ จิบชา จ้าวเหยียนซึ่งถูกทุบตีอย่างหนักนั่งอยู่ตรงข้ามเขา

 

“ผมพูดไปตั้งกี่รอบแล้วว่าพ่อของผมคือจ้าวซวงกัง ไอ้อันธพาลคนนี้สั่งให้คนมารุมทำร้ายผม ทำไมมันถึงไม่ถูกจับล่ะ?” จ้าวเหยียนตะโกนและทุบโต๊ะ

 

“ที่นี่ไม่ใช่บ้านของคุณนะ! ลองกล้าทุบโต๊ะอีกสักรอบสิ” หัวหน้าทีมตำรวจกล่าว

 

ให้ตายสิ ถ้าพ่อของคุณไม่ใช่จ้าวซวงกัง ป่านนี้คุณจะยังได้นั่งอยู่ตรงนี้มั้ย? คุณเป็นคนพาคนพวกนั้นมาทำร้ายคุณเฝิง แต่สุดท้ายพวกคุณก็ถูกบอดี้การ์ดของเขาเล่นงานจนน่วมทุกคน

 

นอกจากนี้ คนที่สามารถพาอดีตทหารจำนวนมากมาเป็นบอดี้การ์ดให้ได้ยังถือว่าเป็นคนธรรมดาอีกหรอ? นับตั้งแต่วินาทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในสถานีตำรวจ คนๆ นี้พูดเพียงคำเดียวว่า “รอก่อน” เขาสงบมากและขนาดจ้าวเหยียนพูดว่าพ่อของเขาเป็นใคร เขาก็ไม่สะทกสะท้านอะไรเลย

 

มีความเป็นไปได้เพียง 2 อย่างเท่านั้น อย่างแรกคือสมองของคนนี้ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ๆ ซึ่งก็ไม่น่าจะเป็นไปไม่ได้ อย่างที่สองคือพ่อของคุณถือว่าเป็นคนไร้ตัวตนต่อหน้าเขานั่นเอง

 

คุณเห็นรถของคนๆ นี้มั้ย? ผมไม่เคยเห็นรุ่นนี้ในปักกิ่งเลย! คุณยังกล้าตะโกนขู่เขาอย่างโง่ๆ ที่นี่อีกหรอ? ผมจะรอดูว่าคุณจะพูดว่าไงเมื่อเส้นสายของชายคนนี้มาถึงที่นี่

 

หากไม่ใช่เพราะว่าคุณคอยพล่ามอยู่นั่นแหละว่าพ่อของคุณเป็นใคร ป่านนี้เรื่องนี้คงได้รับการจัดการไปนานแล้ว ผมก็คงไม่ต้องอยู่ที่นี่เพื่อจัดการกับคดีเล็กๆ แบบนี้หรอก

 

หลังจากนั้นไม่นาน รถยนต์จากกรมศึกษาธิการก็มาหยุดจอดอยู่ด้านนอก คนที่ดูเหมือนผู้นำเดินลงมาจากรถ เขาดูโมโหมาก หัวหน้าตำรวจประจำเขตกำลังยืนอยู่ที่หน้าต่างชั้นบนและมองเห็นรถคันนี้ เขาหันไปหาเลขาและบอกเขาว่าไม่ว่าใครก็ตามที่ถามหาเขา ให้บอกไปว่าเขาไม่ได้อยู่ในออฟฟิศ!

 

ในแง่ของตำแหน่ง ทั้งจ้าวซวงกังและหัวหน้าตำรวจประจำเขตอยู่ในระดับเดียวกัน ทั้งสองต่างมีอำนาจสูงในแผนกของตน แต่ทั้งคู่ไม่เคยติดต่อกันมาก่อน ดูท่าทางคุณเฝิงคนนั้นก็ไม่น่าจะใช่คนที่จะมาล้อเล่นได้ง่ายๆ หัวหน้าตำรวจประจำเขตตัดสินใจรอดูก่อน หากคุณเฝิงเป็นเพียงนักธุรกิจธรรมดาคนหนึ่ง เขาก็จะออกมาช่วยจ้าวซวงกัง

 

จ้าวซวงกังเข้าไปในสถานีตำรวจประจำเขต และเห็นรองหัวหน้าออกมายืนต้อนรับเขา เขาขมวดคิ้วและไม่พูดอะไรเลย พวกเขามาจากแผนกต่างกัน และกรมตำรวจเป็นแผนกที่มีอำนาจมาก เป็นเรื่องปกติที่หัวหน้าจะหลีกเลี่ยงเขา

 

จ้าวซวงกังโทรหาสถานีตำรวจประจำเขตและพวกเขาก็ไม่ได้ไว้หน้าเขาเลย เขาไม่พอใจมาก ลูกชายของผมถูกทำร้าย และทุกคนก็อ้างว่าลูกชายผมเป็นผู้บงการพร้อมด้วยข้อหาทำร้ายร่างกายงั้นหรอ? ผมรู้จักลูกชายผมดี เขาเป็นเด็กดี

 

เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก จ้าวซวงกังและรองหัวหน้าตำรวจก็เดินเข้ามา หัวหน้าทีมรีบลุกขึ้นยืนและทักทายรองหัวหน้าทันที เมื่อเห็นว่ารองหัวหน้าไม่แนะนำจ้าวซวงกังให้รู้จัก หัวหน้าทีมก็ไม่ทักทายเขา

 

“พ่อ!” จ้าวเหยียนยืนขึ้นเมื่อพ่อของเขาเดินเข้ามา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาทำหน้าตาดุร้ายตลอด และเขาก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่น่าสงสารอย่างรวดเร็ว เสียงของเขาก็สั่นเครือ

 

เฝิงหยู่มองไปที่เขา เจ้าบ้านี้แสดงได้น่าสงสารจริงๆ แต่ไม่ว่าการแสดงของคุณจะดีแค่ไหนก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติของพ่อคุณ หากเขาตัดสินใจผิด อย่ามาโทษผมก็แล้วกัน!

 

จ้าวซวงกังมองลูกชายของเขาแล้วหันไปหารองหัวหน้า เขากำลังรอฟังคำอธิบายอยู่ ตอนที่ผมโทรหา พวกคุณหาข้อแก้ตัวโน่นนี่นั่น ตอนนี้ผมมาอยู่ที่นี่ต่อหน้าแล้ว คุณยังไม่ไว้หน้าผมอีกหรอ?

 

“เรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว จ้าวเหยียนกลับไปได้” หัวหน้าทีมเห็นการแสดงออกของรองหัวหน้าและกล่าวในทันที

 

จ้าวเหยียนยังคงอยากจะพูดว่าเขาจะสั่งสอนเฝิงหยู่ แต่พ่อของเขาจ้องมองเขาและเขาก็นิ่งเงียบ แต่เมื่อเขาเดินผ่านเฝิงหยู่เขาพูดว่า “แกตายแน่!”

 

เฝิงหยู่วางถ้วยน้ำชาที่เขาถืออยู่และจู่ๆ ก็พูดว่า “ผมบอกตอนไหนให้ว่าพวกคุณทุกคนสามารถกลับไปได้?”

 

ทั้งห้องเงียบทันทีเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่เฝิงหยู่พูด รองหัวหน้าและสีหน้าของจ้าวซวงกังเปลี่ยนไป จ้าวซวงกังมองหน้าเฝิงหยู่ รองหัวหน้าแต่งตัวอยู่ในเครื่องแบบของเขาและเฝิงหยู่ก็น่าจะรู้ว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้นำในเขตนี้ เขายังกล้าพูดคำพวกนี้อีกหรอ?

 

เขาคิดว่าเขาเป็นใคร?

 

“ให้ตายสิ! ฉันยังไม่ได้สั่งสอนแกเลย! แกยังกล้าทำตัวอวดดีอีกหรอ?” จ้าวเหยียนตะโกน พ่อของเขาอยู่ที่นั่นกับรองหัวหน้า คนๆ นี้ยังกล้าพูดกับเขาแบบนี้อีกหรอ?!

 

“หุบปาก!” จ้าวซวงกังดุ

 

จ้าวเหยียนไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อของเขาจึงไม่ขอให้คนที่นั่นจัดการกับเฝิงหยู่ ทำไมพ่อถึงไม่ช่วยเขา?

 

“คุณเป็นพ่อของเขาที่มาจากกรมศึกษาธิการหรอ? ผมคิดว่าคุณน่าจะเคยได้ยินชื่อผม ผมคือฝิงหยู่” เฝิงหยู่ยังคงนั่งอยู่ในขณะที่เขาพูดขึ้นมาลอยๆ

 

เฝิงหยู่? ทำไมชื่อนี้ถึงคุ้นจัง? แต่จ้าวซวงกังจำเขาไม่ได้ คนๆ นี้ดูนิ่งมากและมันก็ไม่ใช่การแสดง เขาเคยรับราชการมาหลายปีและรู้วิธีตัดสินคนจากภาพลักษณ์ภายนอกของพวกเขา

 

จ้าวเหยียนโกรธมาก เขาขยับเข้ามาใกล้กับพ่อ และต้องการให้พ่อของเขาดูอาการบาดเจ็บของเขา เขาต้องการให้พ่อของเขาโกรธและสั่งสอนเจ้าคนอวดดีคนนั้น จะยิ่งดีมากขึ้นไปอีกถ้าพ่อของเขาสามารถทำให้คนๆ นี้หายตัวไปจากปักกิ่งได้ ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้จริง อาจารย์ลีจะต้องกลายเป็นแฟนสาวของเขาอย่างแน่นอน

 

พอถึงตอนนี้ หัวหน้าตำรวจประจำเขตก็เดินเข้ามาในห้อง

 

รองหัวหน้ารู้สึกประหลาดใจ หัวหน้าเป็นคนขอให้เขาจัดการเรื่องนี้เองไม่ใช่หรอ? ทำไมเขาถึงเข้ามายุ่งเรื่องนี้ด้วยตัวเองล่ะ?

 

ที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือหลังจากที่หัวหน้าเข้าห้องมาแล้ว เขาไม่ทักทายจ้าวซวงกังเลย แต่กลับยื่นมือทั้งสองออกมาและเดินไปหาเฝิงหยู่อย่างรวดเร็ว

 

“คุณเฝิงครับ ขอโทษนะครับที่ผมมาสาย ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ”

 

จ้าวซวงกังอ้าปากจนขากรรไกรแทบค้าง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมหัวหน้าหลิวจึงเคารพคนๆ นี้มากขนาดนี้? ดูเหมือนว่าเขาจะ……กลัวคนๆ นี้ด้วยงั้นหรอ?

 

เฝิงหยู่? เฝิงหยู่!

 

ในที่สุดจ้าวซวงกังก็จำได้ว่าคนๆ นี้เป็นใคร ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอาคารไท่หัวจำนวนมากถูกสร้างขึ้นในโรงเรียนของปักกิ่ง ซึ่งผู้บริจาคอาคารพวกนั้นก็คือเฝิงหยู่นั่นเอง! ไม่ว่าเฝิงหยู่จะมีความสามารถมากแค่ไหนก็ตาม แต่ผู้นำระดับสูงจะต้องอยากรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาไว้อย่างแน่นอน หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป จะต้องเกิดกระแสแน่ๆ

 

จ้าวเหยียนไปทำให้คนๆ นี้ไม่พอใจได้ยังไง? จากพฤติกรรมของหัวหน้าหลิว เขาจะต้องได้รับคำสั่งจากผู้ที่อยู่ในระดับสูงกว่ามาอย่างแน่นอน ตำแหน่งของจ้าวซวงกังและหัวหน้าหลัวอยู่ในระดับเดียวกัน หัวหน้าระดับสูงของหัวหน้าหลิวก็ต้องเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงกว่าเช่นกัน!

 

เผี๊ยะ!

 

จ้าวซวงกังตบลูกชายเขาอย่างแรงทันทีจนจ้าวเหยียนมองเห็นดาวลอยเต็มไปหมด และถอยห่างออกไปสองก้าวจากแรงกระแทกจากการตบก่อนที่จะล้มลงไปนั่ง

 

เขาแทบไม่เชื่อว่าพ่อจะตบเขา

 

“คุณเฝิงครับ ผมขอโทษที่ลูกชายของผมก่อเรื่อง เขาขาดวินัย มีการเปิดให้แลกเปลี่ยนตำแหน่งงานในที่ทำงานของเขา ผมจะให้เขาเข้าร่วมและส่งเขาไปยังจังหวัดทางตะวันตกเพื่อรับการฝึกอบรม เร็วเข้า รีบขอโทษคุณเฝิงเดี๋ยวนี้!”

 

จ้าวเหยียนถึงกับอึ้ง ไปภาคตะวันตกหรอ? พื้นที่ภูเขาที่กันดารพวกนั้นอ่ะนะ?

 

แต่เมื่อเขาเห็นท่าทางจริงจังของพ่อเขา เขาก็ก้มหัวลงและขอโทษอย่างไม่เต็มใจ “ ผมขอโทษครับคุณเฝิง”

 

เฝิงหยู่ค่อยๆ ลุกขึ้น “คุณมีชื่อเสียงดี แต่คุณไม่ควรตามใจลูกชายจนเสียคน ส่วนเรื่องให้เขาเดินทางไปทำงานที่ภาคตะวันตกเพื่อรับการฝึกฝนก็เป็นความคิดที่ดี ผมจะไม่เอาเรื่องละกัน”

 

เฝิงหยู่เดินออกจากห้องไปและบอดี้การ์ดของเขาก็รออยู่ข้างนอกแล้ว พวกเขาเดินเรียงแถวตามท้ายเฝิงหยู่ ออกจากสถานีตำรวจประจำเขตอย่างเรียบร้อย ขนาดหลังจากที่พวกเขาขึ้นรถขับออกไปแล้ว ทุกคนที่สถานีก็ยังมองตามออกไปนอกหน้าต่าง

 

คนๆ นี้คือใครกัน?

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเฝิงหยู่ ยังมีธุระที่ต้องจัดการอีกมากมาย ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวซวงกังมีชื่อเสียงที่ดี ถ้าไม่ใช่เพราะจ้าวเหยียนยังไม่ได้ทำอะไรกับลีน่า… ป่านนี้เฝิงหยู่ไม่มีทางปล่อยเขาไปอย่างง่ายดายแบบนี้แน่นอน

 

เฝิงหยู่โทรหาพ่อของจางฮั่นเพื่อขอบคุณเขา จากนั้นกดโทรออกหมายเลขอื่นต่อ “คุณมาถึงแล้วหรอ? ผมใกล้จะไปถึงที่นั่นแล้ว”