EG บทที่ 714 ใครสั่งสอนใครกันแน่?

 

เฝิงหยู่กอดเอวลีน่าบนรถจักรยานยนต์และถามเสียงดังว่า “เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมากี่ครั้งแล้ว? ทำไมเธอไม่เห็นเล่าให้ฉันฟังเลย?”

 

“ไม่กี่วันมานี้เอง ตอนแรกก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่คนก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น พวกเขาเป็นคนในครอบครัวและญาติของนักเรียน ฉันบอกไปแล้วว่ามีแฟนแล้ว แต่พวกเขาก็ยังมาหาฉัน”

 

“เธอน่าจะบอกฉันก่อนหน้านี้ ฉันจะได้สั่งสอนพวกนั้นให้หลาบจำ และจะได้ไม่มากวนเธออีก พวกเขาควรส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองซะบ้าง กล้าดียังไงมาจีบแฟนฉัน?! อีกอย่าง เธอห้ามไปยุ่งกับพวกนั้นเด็ดขาดนะ!” เฝิงหยู่พูด

 

“เธออยากกินอะไรเป็นอาหารเย็น? เราไปซื้อของกันก่อนเถอะ” เฝิงหยู่อาจไม่มีเหตุผลบ้าง แต่ลีน่าก็ยังดีใจที่เห็นเขาเป็นห่วงเธอ

 

เฝิงหยู่กอดเอวของลีน่าแน่นขึ้นแล้วพูดว่า “กินเธอนั่นแหละ!”

 

“บ้า พอเถอะ!” ลีน่าพูดอย่างอาย ๆ

 

พวกเขาไปที่ตลาดใกล้เคียงเพื่อซื้อของแล้วกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ใหม่ นี่คืออพาร์ตเมนต์ที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนของลีน่า นอกจากนี้ ยังใกล้กับโรงเรียนมัธยมตอนที่เธอฝึกงานด้วย ตอนแรกเจ้าของอพาร์ทเมนท์แห่งนี้ไม่เต็มใจที่จะขายให้กับพวกเขาเพราะพวกเขาเพิ่งปรับปรุงบ้านไป แต่ข้อเสนอของเฝิงหยู่ทำให้พวกเขามีเงินพอที่จะซื้ออพาร์ตเมนต์สองห้องเลย พวกเขารีบตกลงและย้ายออกในวันถัดไปทันที

 

เฝิงหยู่หาคนมาทำความสะอาดที่อพาร์ตเมนต์และมันกลายเป็นรังรักหลังใหม่ล่าสุดของพวกเขา

 

ลีน่ากำลังยุ่งอยู่ในครัวและเฝิงหยู่ก็ดูทีวีอยู่บนโซฟา ผ้าม่านถูกปิดหมด เฝิงหยู่ชอบไลฟ์สไตล์ผ่อนคลายแบบนี้จริงๆ

 

หลังอาหารเย็น ลีน่ากำลังทำความสะอาดและเฝิงหยู่ก็กอดเธอจากด้านหลัง “เอาไว้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะทำความสะอาดให้ ฉันอยากถามอะไรเธอหน่อย มีคนมาตามจีบเธอกี่คนกัน?”

 

ลีน่าดันเฝิงหยู่เบาๆ “เลิกพูดเล่นได้แล้ว เดี๋ยวไม่ถึงนาทีฉันก็ทำความสะอาดเสร็จแล้ว”

 

“ใครพูดเล่นกัน? ดูเหมือนว่าช่วงนี้จะมีเด็กบางคนซุกซนไม่เชื่อฟัง จะต้องถูกทำโทษด้วยการตีก้น นี่แหนะ!” เฝิงหยู่พูดแล้วตีก้นของลีน่า

 

“อ่า…….”

 

“บอกหน่อย! ตอนนี้มีคนมาตามจีบเธอกี่คน? ทำไมเธอไม่ยอมเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง?”

 

“ฉันไม่ได้นับ ฉันจะไปรู้ได้ยังไง?”

 

“อา……เธอไม่ซื่อสัตย์กับฉันนิหน่า แบบนี้อยากโดนทำโทษใช่มั้ย?!” เฝิงหยู่ยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าในขณะที่เขาอุ้มลีน่าขึ้นบนไหล่

 

“เธอจะบอกไม่บอก? บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ! “เฝิงหยู่ถามขณะที่โน้มตัวเข้าใกล้เธอ

 

ร่างกายทั้งหมดของลีน่าอ่อนปวกเปียกกลายเป็นเยลลี่ หากเธอไม่ได้นั่งอยู่บนโซฟา ป่านนี้เธอคงจะร่วงหล่นพื้นไปแล้ว

 

หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น ลีน่าก็ทรุดฮวบลงบนตัวเฝิงหยู่ ทั้งคู่อยู่บนโซฟา เฝิงหยู่หยิบเสื้อขึ้นมาจากพื้นหนึ่งชิ้นและคลุมหลังของลีน่า

 

ลีน่าขยับตัวเล็กน้อยและเฝิงหยู่ก็นึกออกทันที เขารีบกอดลีน่า “เธอจะไปไหน เธอยังไม่ได้บอกเรื่องที่ถามเลย เรายังต้องสอบสวนกันต่อนะ!”

 

“อ๊ะ? ยังไม่เสร็จอีกหรอ?” ลีน่าถาม

 

“ยังไม่จบ ฮึ่ม! ตอนนี้ได้เวลาของการทรมานในน้ำแล้ว! “เฝิงหยู่ยืนขึ้นและอุ้มลีน่าเข้าห้องน้ำไป

……

 

วันรุ่งขึ้นเมื่อเฝิงหยู่ตื่นขึ้นมา ลีน่ากำลังเตรียมอาหารเช้า เธอล้างจานที่สกปรกจากอาหารเย็นเมื่อคืน

 

เฝิงหยู่เดินเข้ามากอดเอวของลีน่า “หลังอาหารเช้า ฉันจะไปส่งเธอที่ทำงาน”

 

“เธอไม่ไปเรียนหรอ?”

 

“ตอนนี้ฉันกำลังฝึกงานด้วย แต่ฉันฝึกงานอยู่ที่บริษัทของฉันเองนะ” เฝิงหยู่ตอบอย่างมีความสุข

 

“ไปอาบน้ำได้แล้ว ถึงเวลาอาหารเช้าแล้ว” ลีน่าผลักมือของเฝิงหยู่ออกซึ่งกำลังลูบไล้ไปทั่ว เมื่อคืนพวกเขาทำภารกิจไป 4 รอบ เฝิงหยู่ยังไม่เหนื่อยอีกหรอ?

 

เมื่อพวกเขาลงมาชั้นล่าง เหม่ยจื้อเกากำลังรอรถของพวกเขาอยู่ นี่คือประโยชน์ของการมีคนขับรถ

 

“เจ้านายครับ เราควรโทรเรียกลูกน้องมาเพิ่มอีกสองสามดีมั้ยครับ?” เหม่ยจื้อเกาถาม

 

ลีน่ามองหน้าเฝิงหยู่อย่างงงๆ ทำไมต้องโทรเรียกคนมาเพิ่มด้วย?

 

เฝิงหยู่พยักหน้า “อืม โทรเรียกพวกเด็กฝึกมาให้หมด ถ้าพวกนั้นไม่หาเรื่องทะเลาะ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าใครกล้าชูนิ้ว ก็จัดการเลย!”

 

ไม่มีผู้ชายคนไหนทนได้หรอกถ้าเกิดเรื่องแบบนี้กับแฟนสาวตัวเอง นอกจากนี้ เฝิงหยู่ไม่ใช่คนที่มีความอดทนด้วย เขารู้เลยว่าจ้าวเหยียนจะต้องมาแก้แค้นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้แน่นอน

 

รถเคลื่อนตัวช้าๆ ผ่านเข้าประตูโรงเรียนไป และเฝิงหยู่ก็เห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งเดินไปมาอยู่ด้านนอก พวกเขาทั้งหมดมองไปที่ประตู นอกจากนี้ ยังมีรถคันนึงจอดที่ริมถนนด้วย

 

ลีน่ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอหันไปหาเฝิงหยู่ “เธอลงไปก่อน ฉันจะโทรหาจางฮั่น”

 

เฝิงหยู่จับมือลีน่าแล้วยิ้ม “เชื่อใจฉันนะ ฉันไม่ใช่คนใจร้อน ถ้าฉันไม่สามารถยุติปัญหานี้ได้ ฉันจะไม่มาที่นี่กับคุณอีก เธอไปสอนเถอะ อย่าปล่อยให้นักเรียนต้องรอนาน”

 

ลีน่าลงจากรถ แต่เธอก็หันไปรอบๆ ขณะที่เธอเดินไปที่ห้องเรียน เฝิงหยู่โบกมือลาเธอ

 

หลังจากนักเรียนมาถึงและพ่อแม่ของพวกเขาก็กลับไปหลังจากที่ส่งลูกเข้าเรียนแล้ว จำนวนผู้คนด้านนอกโรงเรียนก็ลดน้อยลง

 

กลุ่มคนพวกนั้นล้อมรอบรถของเฝิงหยู่และเหม่ยจื้อเกาทันที

 

“เฮ้! แกคือคนที่ทำร้ายพี่ชายของฉันเมื่อวานใช่มั้ย?” ชายคนหนึ่งสวมชุดยีนส์ถามด้วยท่าทีหยิ่งผยอง

 

“ใช่ ฉันเอง ทำไมหรอ?”

 

ให้ตายสิ! คนๆ นี้กล้ายอมรับด้วยหรอ?!

 

“อ๋อ แกนี่เองหรอ? งั้นก็อย่ามาโทษพวกเรานะ! แล้วก็บอกคนในรถให้ออกมาด้วยและมาขอโทษพี่ชายฉัน แล้วต่อไปก็เลิกยุ่งกับอาจารย์ลีซะ!”

 

เฝิงหยู่หลับตาและผ่อนคลายอยู่ในรถราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา เมื่อคืนเขาเหนื่อยมากจากการออกกำลังกายหนักมาก

 

ผู้ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตยีนส์พยายามที่จะเปิดประตูผู้โดยสารและเหม่ยจื้อเกาก็คว้ามือของเขา “หยุดนะ!”

 

“บ้าเอ้ย! ลุยมันเลย!”

 

ปัง!

 

ร่างของผู้ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตยีนส์คนนั้นกระเด็นไปไกลหลายเมตรและเหม่ยจื้อเกาก็ลดขาของเขาลง จากนั้นเขาก็หันหลังกลับและคว้ากำปั้นของชายคนหนึ่งแล้วบิด แม้ว่าเขาจะมีพวกน้อยกว่า เขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัว อีกอย่างเขามองเห็นรถซงเจียงอ๊อฟโรดสองสามคันกำลังแล่นมาทางนี้ด้วยความเร็วสูงด้วย

 

จ้าวเหยียนแอบยิ้ม คุณคิดว่าคุณเก่งมากโดยการพาบอดี้การ์ดมาด้วยใช่มั้ย? คุณมันก็แค่นักธุรกิจขนาดเล็กและยังกล้าที่จะอวดดีต่อหน้าผมอีกหรอ? ที่นี่คือปักกิ่ง! คุณกล้าที่จะมีเรื่องกับฉันหรอ? วันนี้ฉันจะสั่งสอนบทเรียนให้หลาบจำ!

 

ห้ะ? เกิดอะไรขึ้น? 7 คนยังเอาชนะคนๆ เดียวไม่ได้หรอ? โชคดีที่จ้าวเหยียนยังมีลูกน้องคอยสแตนด์บายอยู่ หลังจากได้ยินคำสั่งของเขา คนที่เหลือก็ลงจากรถและกำลังจะสั่งสอนคนอวดดีพวกนี้ให้หลาบจำ!

 

สองสามคนวิ่งไปที่รถของเฝิงหยู่และหนึ่งในนั้นก็ดึงประตูผู้โดยสารเปิดออก เขาโผล่หน้าเข้าไปในรถและก็ถูกถีบที่หน้าทันที

 

คนที่สองพยายามเข้าไปในรถ แต่เขาก็ถูกดึงคอเสื้อกลับออกไป ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร เขาก็ถูกชกเต็มหมัดเข้าที่หน้าของเขา!

 

“คุณคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่? การปกป้องลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของเรา คุณไม่รู้หรอว่าคุณควรปิดประตูรถยนต์ก่อน!” หลิวจี้ฉวนด่า

 

หลิวจี้ฉวนปฏิบัติราวกับว่านี่คือการฝึกอบรม!

 

จ้าวเหยียนเห็นชายกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นและทุกคนก็ต่อสู้ได้ดี ลูกน้องของเขาสู้พวกนั้นไม่ได้เลย

 

จ้าวเหยียนเปิดประตูรถทันที เขาอยากขับรถหนีออกไปทันที แต่ก็ถูกเตะเข้าที่เอว และเขาก็ล้มหน้าคว่ำลงบนถนน

 

เฝิงหยู่นั่งอยู่ในรถของเขาและหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาพ่อของจางฮั่น “อาจางครับ ผมอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนมัธยมต้นที่ 4 มีคนอยากทำร้ายผมครับ……แต่ตอนนี้ผมปลอดภัยดี ผมมีบอดี้การ์ดมาด้วย.…โอ้ ตอนนี้คนพวกนั้นอาจจะสภาพดูไม่ค่อยดีนะครับ คุณอาช่วยแจ้งตำรวจให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ? ขอขอบคุณ”

 

มีหลายคนที่สามารถช่วยเฝิงหยู่จัดการเรื่องนี้ได้ แต่เฝิงหยู่ยังคงเลือกที่จะโทรหาพ่อของจางฮั่น แบบนี้พวกเขาจะได้สนิทกันมากขึ้น ถ้าเขาไปหาคนอื่นมาช่วย พ่อของจางฮั่นอาจจะไม่พอใจก็ได้

 

เฝิงหยู่ส่ายหน้าในขณะที่เขามองคนพวกนั้นนอกรถ พวกเขาวอนหาเรื่องเอง จะไปว่าใครได้?