AST
บทที่1796 – ทัณฑ์สวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่ 2 ของชิงสุ่ย
ทันทีที่ชิงสุ่ยเข้าสู่ดินแดนหยกยุพราชอมตะเขาสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากแต่ก่อนแม้เพียงเล็กน้อย ส่วนที่แตกต่างเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัด แต่มันทำให้เขารู้สึกถึงพลังงานที่ผิดปกติกำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา
เขาสังเกตภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะอย่างละเอียดก่อนจะค้นพบกลิ่นหอมในอากาศที่มีเสน่ห์มาก มันล้อมรอบไปด้วยกลิ่นหอมของชีวิต สมุนไพรสีสันต่างๆกำลังเปล่งพลังแข่งขันกัน
ผึ้งหยกจักรพรรดิและผีเสื้อทองเงินกำลังบินลอยละล่องท่องเที่ยวไปตามท้องฟ้าพวกมันถือเป็นตัวสร้างวงเวียนวัฏจักรภายในดินแดนแห่งนี้ และเป็นบ่อยครั้งที่สัตว์ทั้ง 2 ชนิดเดินทางไปไหนมาไหนด้วยกัน ชิงสุ่ยไม่ได้ปล่อยให้พวกมันออกมาสู้อีกแล้วสัตว์พวกมันก็สามารถเดินทางเข้าออกดินแดนหยกยุพราชอมตะได้ตามที่พวกหมันพึงพอใจ ตัวอย่างเช่นเมื่อพวกมันอยู่ภายในตระกูลชิง พวกมันจะออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะ และออกมาวิ่งเล่นภายในสวนของตระกูลชิง แม้ว่าพวกมันจะไม่ได้แข็งแกร่งมากมายขนาดนั้นแต่ก็มีพลังมากพอจะปกป้องตนเองโดยไม่ให้ใครมารุกราน
และเพราะพวกมันเป็นสัตว์ที่ดูน่ารักจึงไม่มีใครอยากจะทำร้ายพวกมันชิงสุ่ยจึงไม่มีความกังวลใดๆ ถึงแม้พวกมันจะตกอยู่ในอันตรายพวกมันก็สามารถส่งกระแสจิตมาขอความช่วยเหลือจากชิงสุ่ยโดยตรงได้
ส่วนมังกรไอยราเกล็ดทองคำวิหคอัคคีทมิฬ และแมงมุมอสูรเศียรมังกร ถูกทิ้งเอาไว้ที่พระราชวังอาทิตย์อัสดง ชิงสุ่ยทิ้งพวกมันเอาไว้เพราะเชื่อว่าพวกมันจะช่วยเหลือคนที่อยู่ที่นั่นได้
ชิงสุ่ยกำลังเดินไปรอบๆดินแดนหยกยุพราชอมตะเขากำลังจ้องมองทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเขา ที่นี่เป็นอย่างรากฐาน เป็นดังห้องสมบัติ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ใช้ในการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์อันล้ำค่า
ด้วยเวลาที่เดินช้ากว่าโลกภายนอกพลังปราณที่อัดแน่นในอากาศ ผสมกับสมุนไพรทุกอย่างที่สามารถเติบโตได้ หากปราศจากที่แห่งนี้ เพลงหมัด เพลงกระบี่ ทุกสิ่งอย่างก็คงไม่สามารถพัฒนามาถึงจุดนี้ได้อย่างแน่นอน
นี่ก็เป็นเวลาเนิ่นนานมากแล้วตั้งแต่ที่เขาเริ่มฝึกฝนเพลงหมัดไทเก๊กปัจจุบันความสามารถของมันเกินขีดจำกัดที่มนุษย์จะไปถึงได้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันอยู่ขอบเขตดินแดนใด
ร่างกายทุกส่วนของเขาสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่มีจังหวะติดขัดทุกกระบวนท่าเป็นไปอย่างราบรื่นและอ่อนโยน
หรือจะกล่าวอีกนัยหนึ่งคือการเคลื่อนไหวของเขาเกิดจากส่วนผสมระหว่างความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่น หลังจากสำรวจดินแดนหยกยุพราชอมตะเป็นเวลาประมาณกว่า2 ชั่วโมง ขณะที่ชิงสุ่ยกำลังจะหยุดการกระทำร่างกายของเขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่รุนแรงอย่างมาก ทันใดนั้นท้องฟ้าทั้งหมดก็แปรเปลี่ยนเป็นเมฆสีม่วง
ทัณฑ์สวรรค์!!
ชิงสุ่ยเงยหน้ามองดูชั้นเมฆหนาที่ยังคงทับถมกันอย่างต่อเนื่องเมฆจำนวนมากปรากฏพร้อมกับเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเมฆ ภาพที่เกิดขึ้นกระทบกระเทือนไปถึงจิตใจ จนทำให้ชิงสุ่ยมึนงงเล็กน้อย
แต่แทนที่เขาจะรู้สึกประหม่าเขากลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะวิธีการในการทำให้ร่างกายแข็งแรงอย่างรวดเร็ว คือการที่เขาจะต้องเอาร่างกายทะลวงผ่านสายฟ้าฟาดที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า
”สิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าเหมือนกับทัณฑ์สวรรค์พินาศที่ใช้สำหรับทะลวงผ่านพลังขั้นบัญชาสวรรค์พินาศบางทีมันอาจจะเป็นตัวนำพลังของข้าให้ก้าวขึ้นสู่ระดับพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2″ชิงสุ่ยนึกคิด
ชิงสุ่ยเชื่อมั่นในความรู้สึกบางทีทัณฑ์สวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ อาจจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาจะทะลวงผ่านระดับพลังขั้นสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์
มันจะไม่มีวันรู้จนกว่าสายฟ้าจะฟาดฟันลงมาที่ตัวเขา
ครึ้นนนนนนน!!
แสงสีขาวจากสายฟ้าผ่ากลางร่างกายของชิงสุ่ยจนทำให้พื้นดินของดินแดนหยกยุพราชอมตะเกิดหลุมขนาดใหญ่ทันที
สายฟ้าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดเลยแต่มันกลับทำให้เขารู้สึกสนุก ในช่วงพริบตาสายฟ้าที่มีความกว้างขนาด1 นิ้วก็กระแทกเข้ากับร่างกายชิงสุ่ย และสายฟ้าขนาดเล็กจำนวนมากก็ถูกดูดเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
ร่างกายภายนอกกำลังพัฒนา!!
ผิวหนังชั้นนอกของเขาแข็งแกร่งขนาดที่ดาบและหอบไม่สามารถเจาะทะลุไปได้สิ่งต่างๆที่เคลือบผิวหนังภายนอกของเขานั้นเกิดจากเส้นเลือดกระดูกและกล้ามเนื้อที่ถูกพัฒนามาเป็นพิเศษ สายฟ้าเหล่านี้จึงไม่สามารถเผาผลาญผิวหนังให้แหลกลาญไปได้
สายฟ้ายังคงผ่าลงมากลางร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่องในขณะเดียวกันขนาดของสายฟ้าก็หนาขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน ปัจจุบันความกว้างของสายฟ้าใหญ่โตประมาณแขนของชิงสุ่ย เมื่อเวลาผ่านพ้นไปฟ้าร้องก็เริ่มลดลง ชิงสุ่ยยังคงขะมักเขม้นในการโคจรพลังเพื่อดูดซับสายฟ้าให้ได้มากที่สุด
ร่างกายของเขาแข็งแกร่งพร้อมจะรองรับปริมาณพลังจำนวนมากเขามั่นใจว่าหลังจากที่ดูดซับพลังสายฟ้า เขาจะพัฒนาก้าวข้ามระดับพลังปราณสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 2 ไปได้ สายฟ้าช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและเส้นลมปราณได้อย่างดี ในที่สุดเขาก็ใกล้จะก้าวข้ามช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างระดับพลังสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2
เปล้งงงงเปล้งงงง!!
สายฟ้า2 เส้นขนาดใหญ่เท่าแขนฟาดลงมากลางท้องฟ้า ก่อนจะขยายกลายเป็นสายฟ้าสามเส้นในชั่วพริบตา ชิงสุ่ยรู้ได้ทันทีว่านี่คือเส้นสายฟ้าที่ทรงพลังมากที่สุด
ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาไม่เกิน15 นาที และที่สำคัญสายฟ้าที่ฟาดฟันลงมาเป็นชุดสุดท้ายไม่ได้มีสีขาวเหมือนสายฟ้าทั่วไปแต่มีสีม่วง
ชิงสุ่ยยังคงนั่งอยู่นิ่งๆพร้อมกับผมกระเส่อร่างกายของเขาแสดงออกถึงความเหน็ดเหนื่อยเพียงแค่เล็กน้อย สายฟ้าเล็กๆเหล่านี้คงไม่อาจทำให้ร่างกายของเขาบาดเจ็บได้
แต่แล้วสายฟ้าก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในครั้งนี้มันมีขนาดใหญ่เท่ากับขนาดต้นขา มันอาจจะดูเหมือนคลื่นลูกหลง แต่ชิงสุ่ยก็เชื่อว่านี่คือระลอกสายฟ้าเคลื่อนที่ 2 นึกในใจของชิงสุ่ยเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแม้ว่านี่คือสิ่งที่เขาคาดหวังเอาไว้ แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ปล่อยให้เขาได้พักหรือรวบรวมพลังที่หลงเหลือ
ในที่สุดชิงสุ่ยก็ได้เรียนรู้ถึงอาการบาดเจ็บอันโหดร้ายว่าเป็นอย่างไร
สายฟ้าที่เกิดขึ้นสามารถอธิบายได้ถึงความน่าหวาดกลัวคลื่นพลังที่ถาโถมเข้าใส่ร่างกายของเขานั้นเปรียบดังมหาสมุทรขนาดยักษ์ที่เจาะรู และเกิดแรงอัดอากาศจากมหาสมุทรทั้งหมดพุ่งตรงสู่ร่างกายของเขา มันรุนแรงอย่างมากจนเขาหายใจแทบไม่ไหว
ชิงสุ่ยได้แต่สบถในใจ”มันเกิดบัดซบอะไรขึ้น” ตอนแรกทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่ทำไมจู่ๆพลังถึงได้ทวีคูณอย่างน่าเหลือเชื่อจนร่างกายของเขากำลังอึดอัด แม้ว่าเขาจะรู้สึกถึงความเหนื่อย แต่ความทุกข์ทรมานของเขากำลังจะเริ่มขึ้น
หลักการของชีวิตคือการนำตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงหากไม่มีความลำบากพลังก็ไม่มีวันพัฒนา เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นกับทุกคน
ชิงสุ่ยที่รู้สึกประหม่าพยายามรักษาสงบสติเพื่อเพิ่มพูนความสามารถในการฟื้นตัว
”บัดซบบบบบ!!?”
พลังที่เขาได้รับตอนนี้ใกล้ถึงขีดจำกัดแล้วเขาจึงเริ่มสบถคำพูดต่างๆนานาออกไป…… ในที่สุดสายฟ้าอันเข้มข้นขนาดใหญ่เท่าต้นขาก็หยุดลง ตอนนี้ชิงสุ่ยไม่เหลือความรู้สึกสนุกอีกต่อไปแล้ว เขารู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาถึงขีดจำกัด ทุกอย่างเกิดขึ้นเหนือความคาดหมาย ร่างกายที่เคยเป็นแหล่งน้ำอันไร้ก้นบึ้งตอนนี้กลับถูกเติมเต็มด้วยน้ำปริมาณมหาศาล
ชิงสุ่ยได้เพียงแค่หวังว่าสายฟ้าจะไม่ฟาดลงมาอีกถ้าหากนี้ไม่ใช่คลื่นสายฟ้าแล้วรอบสุดท้าย เขาคงต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก
สองสาม สี่…………… ปริมาณสายฟ้ากำลังเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันทุกครั้งที่มันกระแทกร่างกายชิงสุ่ย จิตวิญญาณของเขาถึงกับสั่นคลอน แต่โชคดีที่เขาสามารถทนแบกรับความเจ็บปวดเหล่านี้ได้ แน่นอนว่าสายฟ้าที่มีความเข้มข้นสูงผ่ากลางร่างกายของเขา เสื้อผ้าย่อมต้องสูญสลายหายไปตั้งแต่เริ่มต้น
ส่วนศาสตราวุธหรือเครื่องสวมใส่อื่นๆไม่ว่าจะเป็นชุดเกราะบางรองเท้า 9 เทวา ล้วนยังคงสมบูรณ์ไร้รอยขีดข่วน เพราะถ้าหากพวกมันถูกทำลายร่างกายชิงสุ่ยคงไม่เหลือซาก