บทที่ 624 อดใจรอร่วมฝึกไม่ไหว

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

บทที่ 624 อดใจรอร่วมฝึกไม่ไหว

 

“เจ้า… เจ้าช่างเป็นคนที่หน้าด้านที่สุดที่ข้าเคยพานพบมา…” ไป่ลี่ฮัวกล่าวกับเขาด้วยสีหน้าท่าทางที่พูดไม่ออก

 

“ถ้าข้ามหน้าด่าน ข้าก็คงมีสําเร็จการฝึกวิชาคู่” เขาหัวเราะคิกคักไปกับคําพูดของเธอ

 

“ข้ามิอยากเชื่อว่าเจ้าจักขอข้าให้ทําเช่นนั้นจริงๆ…” ไป่ลี่ฮัวนวดขมับในขณะที่ถอนหายใจ

 

“ถ้านั่นมันมากเกินไปสําหรับเจ้า เจ้าก็สามารถเลิกใส่ใจมันก็ได้ มิว่าอย่างไรข้าก็เพียงขอร้องเจ้า” เขากล่าวกับเธอด้วยสีหน้าเยือกเย็น

 

“…..”

 

หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะเธอก็กล่าวว่า “แม้ว่านั่นอาจจะเป็นคําขอร้องที่วิตถารอยู่บ้าง แต่ขาก็ยังจําเป็นที่จะต้องขอบคุณเจ้าที่ช่วยข้าในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ ดังนั้นข้าก็จักช่วยเจ้าในเรื่องของการรับสมัครนี้”

 

“ขอบคุณ” ซูหยางพูด

 

“เจ้าควรจะไปเสียก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ” เธอรีบกล่าวกับเขา

 

ซูหยางพยักหน้าแล้วก็บินจากไปบนยานบิน

 

“ฮาาาา…”

 

ไป่ลี่ฮัวส่งเสียงถอนหายใจยาวหลังจากนั้น พึมพัมกับตัวเองด้วยเสียงเบาหวิว “เจ้าขอร้องข้าให้ช่วยหาหญิงไปหลับนอนด้วยได้ยังไงกันในเมื่อเจ้ายังมิได้ให้ค่าตอบในเรื่องความรู้สึกของข้า ท่าไมเจ้ามิขอให้ข้าช่วยแทนล่ะ”

 

หลังจากที่ยืนอยู่ที่นั่นเป็นเวลาสองสามนาทีด้วยสีหน้าสับสนบนหน้าสวยนั้น ไป่ลี่ฮัวก็เรียกศิษย์ทุกคนที่มีพลังการฝึกปรือตั้งแต่ระดับหกเขตคัมภีร์วิญญาณขึ้นไปภายในสํานัก และเพราะว่าสานักหงส์สวรรค์นั้นมีแต่ศิษย์ หญิงคนหนึ่งในสามของสํานักจึงได้มารวมตัวกันที่ตรงหน้าไป่ลี่ฮัวในเวลาไม่นานหลังจากนั้น

 

ไป่ลี่ฮัวมองไปยังศิษย์หลายพันคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเธอด้วยใบหน้าซับซ้อน คิดในใจว่าชื่อเสียงของเธอ แน่นอนว่าคงได้รับความเสียหายจากสิ่งที่เธอกําลังจะท่า

 

ศิษย์ส่วนใหญ่ของสํานักหงส์สวรรค์นั้นล้วนเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ไม่รู้ความ ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายมาก่อน อย่าว่าแต่จะมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นโอกาสที่พวกเธอจะมอบครั้งแรกให้กับคนแปลกหน้าที่พวกเธอไม่เคยพบมาก่อนนั้นมีน้อยจนแทบเป็นศูนย์

 

“ขอบคุณพวกเจ้าทุกคนที่มารวมตัวกันที่แห่งนี้ ข้ามีประกาศพิเศษสําหรับพวกเจ้าทุกคนในวันนี้ และปกติแล้วข้าก็จะมพูดอะไรแบบนี้ แต่เพราะว่าข้าเป็นหนี้บุญคุณคนนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นข้าจักประกาศเรื่องนี้ในนามของเขา”

 

หลังจากที่สูดลมหายใจลึกแล้ว เธอก็เริ่มพูดด้วยเสียงที่กระอักกระอ่วนและแข็งทื่อว่า “เนื่องจากเหตุการณ์บางอย่าง ผู้นํานิกายกุสุมาลย์พันพิสัยผู้ที่อยู่ในเขตอัมพรวิญญาณซูหยาง ตอนนี้ได้มองหาคู่ฝึกที่มีระดับหกเขตคัมภีร์วิญญาณขึ้นไปมาร่วมฝึกด้วย”

 

“ท่านเพิ่งพูดอะไรออกมานะ”

 

เสียงร้องอย่างแตกตื่นพลันดังขึ้นหลังจากที่ไป่ลี่ฮัวจบประโยคของเธอ จนเป็นเหตุให้ผู้คนที่อยู่ที่นั่นต่างพากันหันหน้าไปมองยังต้นเสียงนั้น

 

“ซูหยิน…” ไป่ลี่ฮัวแสดงรอยยิ้มขึ้นขมหลังจากที่เห็นใบหน้าของเธอ

 

“พี่ชายพูดอย่างนั้นจริงๆรึ” เธอถามหลังจากนั้นชั่วขณะ

 

ไป่ลี่ฮัวพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ซูหยางจักกลืนกินสมบัติที่ทรงพลังมหาศาล และเขาจักจําเป็นต้องมีคู่ฝึกร่วมจํานวนมากเพื่อที่จะบําบัดตัวเขาเองหลังจากนั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องหาคู่ครองจํานวนมาก เขายังกล่าวอีกด้วยว่าถ้าหากว่าพวกเจ้าร่วมฝึกกับเขา พลังการฝึกปรือของพวกเจ้าจักพัฒนาขึ้นเพราะว่าพลังจากสมบัตินั้น”

 

“พวกเจ้ายังมีค่าถามอื่นอีกไหม” เธอถามเหล่าหญิงสาวหลังจากนั้น

 

“ท่านเจ้าสํานัก ท่านหมายความว่าอย่างไรกับการร่วมฝึกกับเขา” หนึ่งในหญิงสาวอ่อนวัยไร้เดียงสาถาม

 

“…..”

 

ไป่ลี่ฮัวกระแอมก่อนที่จะตอบด้วยใบหน้าที่ค่อนข้างแดงเล็กน้อย “มันหมายความว่าเจ้าจักไปมีเพศสัมพันธ์กับเขา”

 

“มีเพศสัมพันธ์รี”

 

ศิษย์ที่ไร้เดียงสาที่นั่นพากันส่งเสียงอื้ออึงขึ้นมาในทันใด ไม่มีใครในหมู่พวกเธอนั้นจะได้แม้แต่จะจินตนาการว่าเจ้าสํานักของพวกเธอจะขอให้พวกเธอนั้นไปมีเพศสัมพันธ์กับชายโดยไม่ได้เป็นไปตามความปรารถนาของพวกเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจ้าสํานักเองมักแสดงท่าที่ในทางตรงกันข้าม

 

และเหล่าศิษย์ต่างเริ่มกระซิบกระซาบกัน

 

“ซูหยาง… เขาเป็นชายหนุ่มรูปงามที่การแข่งขันระดับภูมิภาคใช่ไหม”

 

“ใช่ และเขาก็เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่ง”

 

“ข้าได้แต่คิดถึงเขาอย่างจริงจังนับตั้งแต่ข้าได้ประจักษ์ถึงพลังอํานาจของเขาที่การแข่งขันระดับภูมิภาค ข้ามิคิดว่าข้าจักสามารถได้โอบกอดคนแบบเขา”

 

หนึ่งในเหล่าศิษย์พลันยกมือขึ้นแล้วถามไป่ลี่ฮัวว่า “ท่านเจ้าสํานัก เราจะได้อะไรจากการร่วมฝึกกับซูหยางอีก”

 

“ข้ามิรู้ ในเมื่อเขาเพียงแต่พูดถึงการเพิ่มพูนพลังการฝึกปรือของผู้คนจากปราณหยางของเขา” เธอตอบ

 

“ท่านคิดว่าเขาจักยอมให้พวกเราอุ้มท้องลูกของเขาหรือไม่ถ้าเราช่วยเขา” ศิษย์อีกคนพลันถามขึ้น สร้างความตระหนกให้กับไป่ลี่ฮัวกับคําถามบ้าบอคอแตกเช่นนี้

 

“จ-เจ้าต้องถามซูหยางเอง…” เธอกล่าวหลังจากที่เงียบไปชั่วขณะ

 

“มันคงจะดีถ้าเขายอมให้พวกเราอุ้มท้องลูกของเขา มิว่าอย่างไร ลูกของเขาจักต้องมีพรสวรรค์อย่างแน่นอน” ศิษย์อีกคนกล่าว

 

ในยุทธภพนี้ ผู้ฝึกยุทธหญิงปกติแล้วมักจะเลือกคู่ครองเป็นชายที่มีพรสวรรค์มาก่อนหน้าตา ในเมื่อพวกเธอจะได้มีลูกที่อาจจะประสบความสําเร็จยิ่งใหญ่ในชีวิตมากกว่าเด็กหน้าตาดีที่มีความสามารถต่ําต้อยหรือไร้พรสวรรค์โดยสิ้นเชิง

 

“ตอนนี้ทุกคนจะได้รับโอกาสที่จะลิ้มลองพี่ชายสุดที่รักของข้า…” ซูหยินถอนหายใจเสียงดัง

 

เมื่อไป่ลี่ฮัวสังเกตเห็นว่ามีศิษย์หลายคนที่นั่นที่มีท่าทางตื่นเต้นหลังจากที่ได้ยินค่าประกาศของเธอ เธอก็เริ่มคิดสงสัยในชีวิต

 

“บางทีซูหยางจะโด่งดังจริงๆในหมู่ผู้หญิงมากกว่าที่ข้าได้เคยคิด” เธอครุ่นคิดอยู่ในใจขณะที่ศิษย์หญิงกว่าครึ่งกําลังคุยกันอยู่ด้วยสีหน้าเป็นสุขและมีความหวัง

 

“ท่านเจ้าสานัก เมื่อไหร่ที่ซูหยางต้องการให้พวกเราไปร่วมฝึกกับเขา” หนึ่งในบรรดาศิษย์ที่นั่นพลันถามเธอ

 

“เขากล่าวว่า ส่วนใหญ่จะขึ้นกับสถานการณ์ของเขา แต่มันควรจะเกิดขึ้นหนึ่งปีนับจากนี้หรือไม่ก็เร็วกว่านี้…” เธอรีบตอบ

 

“หนึ่งปีนับจากนี้ รึ ข้าอดใจรอที่จะมีเพศสัมพันธ์กับซูหยางไม่ไหวแล้ว หวังว่าเขาจะยอมให้ข้าอุ้มท้องลูกของเขาด้วย” หนึ่งในบรรดาศิษย์กล่าวด้วยสีหน้าลามก สร้างความงงงันให้กับไป่ลี่ฮัวผู้ที่ไม่มีความคิดว่าศิษย์ของเธอจะมีความคิดบิดเบือนแบบนี้มาโดยตลอด กระทั่งยังรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างกับผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด”