เดิมทีแล้ว หากองค์ชายสอง หรือจวินโม่เซี่ยได้ฟังวาจานี้ … พวกเขาจักเข้าใจมันทันทีว่าเหตุใดองค์ชายสองขอให้ หอกระบี่เลือดจัดการภารกิจนี้  คนกลุ่มนี้จักล้มเหลวก่อนที่จักได้รับชัยชนะเพียงหนึ่งก้าว

หอกระบี่เลือดเป็นที่พำนักของเหล่ามือสังหารที่มีชื่อที่สุดใน อาณาจักรเทียนเชียง หรืออาจจะทั่วทั้งดินแดนเชวียนเชวียน  แต่ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังพวกเขานั้น … เป็นสิ่งที่น่าตกใจยิ่ง !

 

อย่างไรก็ตาม หากครุ่นคิดให้ดี … จักเห็นว่าเป็นสิ่งปกติ  ความจริง มันอาจมีเหตุผลมากมาย

 

หรือมันจัก ?

 

ผู้มีตำแหน่งสูงส่งในอาณาจักรเทียนเชียงรู้จักสำนักมือสังหารนี้ได้อย่างไร ?  และสำนักนี้สามารถกระทำการไร้ศีลธรรมต่างๆอย่างเปิดเผิยได้อย่างไรกัน ?  ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาจักมีความเกี่ยวของกับราชวงศ์ ..​. หรือชนรุ่นหลังในราชวงศ์ ?

 

การมีอยู่ของสำนักเช่นนี้เป็นเรื่องปกติในเมืองเล็กๆ เนื่องจากอาณาจักรเล็กๆนั้นมีกองกำลังทหารที่อ่อนแอ  แต่ ความแข็งแกร่งของกองกำลังทหารแห่งอาณาจักรเทียนเชียงนั้นยิ่งใหญ่ และสูงส่งยิ่ง  องค์จักรพรรดิเป็นผู้ที่มีความสามารถยิ่งกว่าทุกผู้  เช่นนั้น พระองค์จักปล่อยให้สำนักมือสังหารมากกระทำการอุกอาจเช่นนี้ในดินแดนของพระองค์ได้อย่างไร ?  ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขากล้าแม้กระทั่งลอบสังหารเชื้อพระวงศ์ .. ราวกับเด็กเล่น … ?

 

เรื่องนี้ยังมีอีกมากมาย  ตัวอย่างเช่นการลอบสังหารองค์หญิงหลิงเมิ่ง สำนักสังหารที่มีชื่อเช่นนี้น่าจะมีการข่าวที่ดีเลิศ  และ แม้นว่าการมีอยู่ของ อยี่กู้ฮั่น นั้นจักเป็นความลับ .. แต่สำนักอย่าง หอกระบี่เลือดจักไม่รู้เลยหรือว่าอยี่กู้ฮั่นคุ้มครองนางอยู่ ?  อย่างไรก็ตาม พวกเขาส่งมือหารเชวียนทองเพียงสองเพื่อลอบสังหาร องค์หญิงหลิงเมิง…

 

การเผชิญหน้ากับผู้คุ้มครองเป้าหมายที่เป็นสวรรค์เชวียน ด้วยยอดฝีมือเชวียนทองสองคนนั้นเพียงพอหรือ ?  มันสมเหตุผลหรือไม่ ?

 

น่าเสียหายที่องค์ชขายสองมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทั้งหมด  โดยเฉพาะประโยคที่กล่าวว่า ความฉลาดของเจ้านั้นน่าผิดหวัง นั้นเหมาะสมกับเขา  องค์ชายสองอาจไม่เข้าพระทัยในความจริงนี้จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต … นั้น .. เพราะ บิดาของพระองค์ใช้การพระองค์เพื่อชำระและจัดการแก้ไขโครงสร้างของอาณาจักรใหม่  ความจริง พระองค์จักใช้เหตุการณ์นี้เพื่อชำระล้าง แหล่งซ่องสุมโสเภณีของพระองค์ด้วย

 

หากเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยออกไป มือสังหารจวินจักไม่ยอดมรับแล้วว่าเขาเป็นผุ้เล่นที่น่าเกรงขามที่สุดในโลก  ชื่อนั้น สงวนไว้สำหรับองค์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรเทียนเชียงเท่านั้น

 

สถานพำนักนางสนมราชวงศ์

 

” เมิ่งน้อย บอกแม่ของเจ้าตามความจริงเสีย มีปัญหาอันใด ?  เจ้าไม่สบายหรือ ? “

หญิงสาวผู้สง่างามเอ่ยถามด้วยที่น่าอ่อนโยน  นางสวมชุดเสื้อคลุมยาว และมงกุฏเก่าแก่บนศรีษะ  นางคือองค์ราชินี และเป็นมารดาขององค์หญิงหลิงเมิ่ง มูล่งฉิวฉิ้ว

 

 

” ข้า …. ไม่มีอันใด  ลูกสบายดี  ไม่มีปัญหาอันใด  ข้าไม่รู้ว่าเหตุใด ท่าแม่เอ่ยถามเช่นนี้ ”

หลิงเมิ่งมิยอมเอ่ยสิ่งใด  หลิงเมิ่งมิรู้ว่าจักเกิดสิ่งใดขึ้นหากนางบอกแม่ของนางถึงความทรมาณที่อยี่กู้ฮั่นต้องประสบ  เช่นนั้น นางจึงโกหกต่อไป

 

” สบายดี ?  เด็กน้อย เจ้ามิอาจโป้ปดได้ดีเลย  เจ้าจักตะกุกตะกักนั้นเมื่อโป้ปด “

องค์ราชินีแย้มสลวงอ่อนโยนขณะมองไปยังลูกสาวของพระองค์ด้วยควารัก

” บางครั้ง เจ้าดูเหมือนกำลังเป็นกังวล  และบางครั้ง เจ้าก็ดูเหมือนมีความสุข  นอกจากนั้น เจ้ายังร้องไห้ยามค่ำคืน  น้ำตาทำให้หมอนของเจ้าเปียก  นี่…. เจ้ายังบอกว่าไม่เป็นอันใดอีหรือ ? “

 

” ท่านแม่ … ”

องค์หญิงหลิงเมิงปลดปลดเปลื้องความน่ารักของนาง

” ลูกผู้นี้เคยโป้ปดท่านหรือ ?  ข้าไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนไป ”

 

” หรือว่า … ”

องค์ราชินี้แย้มสลวง  พระองค์แหย่งจมูกเล็กๆของลูกสาว

” หรือว่า เจ้าคิดถึงบุรุษ ? “

 

” ท่านแม่ … ท่านพูดสิ่งใด ? “

องค์หญิงหลิงเมิงโพล่งเสียงดัง  นางเริ่มอาย และใบหน้าแดงก่ำ  แต่ นานยังคงลังเล

หรือข้าจักใช้โอกาสนี้บอกท่านแม่เรื่องจวินโม่เซี่ย ?

องค์หญิงหลิงเมิงอดหน้าแดงเนื่องจากคิดถึงคนรักมิได้

 

องค์ราชินีเห็นสีหน้าของลูกสาว  พระองค์จักมิรู้ได้อย่างไร ?

ลูกสาวข้ามิใช่เด็กอีกแล้ว  เมื่อนางมีอายุเพียงพอ นางก็ต้องเติบโต !

 

” เด็กน้อย … แม้แต่ข้า ก็มีอาาจบอกได้ว่าบุรุษในสกุลใดที่รวบรวมความรักของลูกสาวข้าไปได้หรือ …. ? “

องค์ราชินี้มองยังลูกสาวน้อยอย่างเย้าแหย่

 

” ท่านแม่ … ”

องค์หญิงหลิงเมิงหันหลังไปและส่ายเอว  นางลังเลชั่วขณะ แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจจักเก็บความรู้สึกนั้นไว้กับตัวเอง  องค์หญิงมิได้โง่  นางจักมิรู้ได้อย่างไร่ว่าความรู้สึกของจวินโม่เซี่ยอาจมิได้เหมือนกัน ?  นางกลัวว่าเขาอาจมิได้ชอบนาง  ดังนั้น นางอาจโดนปฏิเสธหากนางเอ่ยความรู้สึกของนางอย่างหุนหัน

 

อย่างไรก็ตาม หัวใจขององค์หญิงก็ถูกปฏิเสธ

เจ้าพยายามขอความรักข้ามาหลายปี แต่ข้ามิได้ประทับใจ  และไม่สนใจถึงความเอาใจใส่ที่เจ้ามีต่อข้า !  และตอนนี้ องค์หญิงผู้นี้ก็ไม่ได้คัดค้าน … ความเจ้าเล่ห์ของบุรุษผู้นี้ต่อข้า … อืม !

 

” เด็กน้อยของข้าเหมือนขี้อาย  มิต้องบอกข้า หากเจ้ามิต้องการ  แม่มิบังคับเจ้า  ฮี่ ฮี่ … เมิ่งน้อย บอกแม่เรื่องคนรักของเจ้าเมื่อถึงเวลา  เจ้ามิได้เป็นเด็กแล้ว  มันจักกลายเป็นปัญหา หากพ่อของเจ้า องค์จักพรรดิ หุนหันตัดสินพระทัยให้เจ้าแต่งงานในวันหนึ่ง … ”

องค์ราชินีเอ่ยขณะลูบผมของลูกสาวด้วยความรัก

 

” ลูกเข้าใจ ”

องค์หญิงกอดแม่ของนางด้วยความรักใคร่  ทันใดนนั้น นางก็นึกถึงการดูแลของน้าอยี่มานานหลายปี …และความทรมาณที่เขาได้รับในตอนนี้  นางรู้สึกปวดใจ และต้องการร้องไห้

 

” ข้ามิรู้เหตุใด … แต่หัวใจของข้ารู้สึกหวาดกลัวอย่างประหลาดมาหลายวัน …. ราวกับเรื่องแย่ๆเกิดขึ้น … ”

รอยิ้มจางๆปรากฏบนพระพักต์  สีหระพักต์ครุ่นคิดปรากฏขึ้นขณะพระองค์พึมพัม

” หรือจักเป็น …. ?  สิ่งใดเกิดขึ้นกัน ?  ข้ารู้สึกปวดร้าวในหัวใจ …”

 

หัวใจองค์หญิงหลิงเมิ่งกระวนกระวาย แต่นางมิกล้าเอ่ย

ข้ามิรู้อาการของน้าอยี่  และข้ามิรู้ว่าเขามีศัตรูมากมายเพียงใดในราชวังนี้ …

 

สกุลจวิน

 

หน้าผากจวินโม่เซี่ยเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ  เขายังคงเผชิญกับเขี้ยวของสาวน้อย

 

เขายังคงเงียบ เนื่องจาก …

 

” ข้าประสงค์จักไปเช่นกัน ! ”

ตู่กู้เซี่ยวอี้ วางท่าทางอย่าเปิดเผย ขณะที่นางอุ้มเจ้าขาวน้อยในอ้อมแขน

 

” เจ้ากำลังเอ่ยสิ่งใดน้อยสาว ?  เจ้าต้องการเข้าไปอยู่ในท้องของสัตว์เชวียนหรือ ?  เจ้าต้องการจักช่วยข้าหรือสัตว์เชวียน ? “

จวินโม่เซี่ยกรอกตา

พระเจ้า !  ได้โปรดเถิด ?  เจ้าเด็กน้อยนี่ทำให้ข้ารำคาญทั้งเช้า …

 

” อืม !  เจ้าอาจจะจบลงด้วยการเข้าไปอยู่ในท้องของสัตว์เชวียน แต่ข้านั้นโหดร้ายและทรงพลัง !  แม้แต่พี่ชายทั้งเจ็ดของเข้าก็มิอาจเทียบได้ หากข้าใช้เคล็ดมีดบิน  ไม่มีเชวียนทองผู้ใดเทียบเทียมข้าได้ !  นอกจากนี้ สัตวก์เชวียนจักทำอันใดกับสาวน้อยผู็นี้ได้ ? “

ตู่กู้เซี่ยวอี้ ยังคงท่าทีสูงส่ง

” เพียงแค่มองไปที่การกระทำของเจ้าขาวน้อย … เขามิได้ทำตัวดั่งลูกสุนัขหรือแม้นว่าเขาจักเป็นสัตว์เชวียนขั้นเก้าแล้ว ?  เช่นนั้น ข้าจักกลัวสิ่งใดหากพวกเขาเป็นเช่นนี้ ?  ข้าสามารถสังหารพวกมันได้นับพัน !  และ ข้าก็จักได้หาเพื่อนเล่นให้แก่เจ้าขาวน้อยด้วย ! ”

 

เจ้าขาวน้อยร้องครวญอย่างไม่พอใจ

เจ้าคิดว่ามันง่ายหรือที่จักหาสัตว์ระดับสูงได้ ?

เขาเงยขึ้นมองนาง  อย่างไรก็ตาม เขายังรู้ถึงเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังจากของนายหญิงของเขา  เขารู้ว่ามิฉลาดอันใดที่จักเคลื่อนไหว  เช่นนี้ เขาจึงมิสนใจนาง และกลับไปหลับ

 

จวินโม่เซี่ยรู้สึกไร้ทางเลือก

“เจ้าเปรียบเทียบเช่นนี้ได้อย่างไร ?  เจ้าขาวน้อยเป็นสัตว์เชวียนระดับสูง  แต่ เขามิได้เติบโต้ใช่หรือไม่ ?  ไม่ พวกเรามิควรเอ่ยเช่นนี้ .. เราควรบอกว่าเขายังเป็นทารก !  เช่นนั้น เจ้าจักเทียบเขากับพวกนั้นได้อย่างไร ?  เจ้าไม่เคยเห็นสัตว์เชวียนตัวอื่นหรือ ?  เจ้าไม่รู้อันใดเลยหรือ ? “

 

” เจ้าเอ่ยเรื่องไร้สาระอันใดกัน ?  เจ้าคิดว่าข้ามิรู้เรื่องจริงหรือ ?  และ สัตว์เชวียนหรือ ?  แล้วพวกเขาละ ?  สัตว์เชวียนอื่นๆจักสิ้นหวังเมื่อพวกเขาได้พบสาวน้อยผู้นี้  พกวเขามิกล้าแม้แต่จักเงยหน้า ! ”

สาวน้อยหยิ่งทะนงอย่างเปิดเผย

 

น้ำตาหลั่งไหลลงแก้มของจวินโม่เซี่ย

จริงหรือ ?  เด็กสาวเอาแต่ใจจากสกุลทรงพลังจักรู้ถึงความอันตรายนี้ได้อย่างไรกัน ?  เจ้าได้เห็นเพียงสัตว์เชวียนชั้นต่ำ ผผู้ที๋โดดเด่นจากผู้อื่น !

 

” เจ้าต้องเล่นตลกเป็นแน่ !  เจ้าน้ำพาเจ้าขาวน้อยไปกับเจ้าเสมอ  และ นครหลวงมีเพียงสัตว์เชวียนทั่วไปเท่านั้น  เช่นนั้น พวกเขาจึงสิ้นหวังเมื่อเห็นเจ้าขาวน้อย  เหตุผลนั้นเพียงพอสำหรับเจ้าหรือไม่ ?  เจ้าขาวน้อยนั้นน่าเกรงกลัวจริงๆที่นี่ … แต่เขานั้นไม่มีค่าอันใดในป่าเถียรฟา ! ”

จวินโม่เซี่ยอธิบายความน่ากลัว

 

เจ้าคิดว่าเจ้าจัดกลอกข้าได้ราวกับเด็กหรือ ?!  เจ้าขาวน้อยดุร้ายยิ่งนัก !  และเจ้ายังบอกว่ามันไร้ค่า ? อย่างไรก็ตามข้าจักไป !  และ เมื่อข้าต้องการจักไป ข้าจักต้องได้ไป ! ”

ตู่กู้เซี่ยวอี้ เอ่อยย่างไร้เหตุผล

ในอีกสองเดือนจักเป็นวันเกิดครอบรอบเจ็ดสิบปีของท่านปู่  เขาได้รับบากเจ็บที่เอวจากการต่อสู้เมื่อนานมาแล้ว  เขามิอาจโดดนลมได้นาน เขาจักหนาวเนื่องจากการบาดเจ็บนั้น  ข้าได้ยินว่าขนของเฟอร์เรนหิมะสามารถช่วยเขาจากการหนาวจับได้  เช่นนั้น ข้าจึงวางแผนจักล่า ฟอร์เรนหิมะในการเดินทางนี้  ข้าต้องการมอบมันให้แก่ท่านปู่ในวันเกิดเพื่อแสดงถึงความรักของข้า ”

 

เจ้าเด็กสาวผู้นี้คิดว่า ฟอร์เรนหิมะจักรอเขาอยู่เฉยๆหรือ  นางคิดว่านางสามารุไปจับมันได้หรือ …

 

จวินโม่เซี่ยเกือบอ่อนแรง

” น้องสาว คนดี … เจ้าคิดว่า ฟอร์เรนหิมะ เป็นแมวน้อยอย่างนั้นหรือ ?  … เจ้าเพียงแค่ไปคว้าตัวมันมาหรือ ?  สิ่งนี้นั้นขั้นสูงกว่า เสือดาวปีกเหล็กของเจ้า  พวกมันเป็นสัตวเชวียนขั้นแปดเป็นอย่างน้อย  และไม่เพียงแค่ในชื่อเท่านั้น  ความจริง ระดับแปดเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น … หรือจักบอกได้ว่า มันสามารถพัฒนาได้  เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? “

 

วันก่อนนั้นนางอ่อนโยน  เช่นนั้น จวินโม่เซี่ยจึงลืมความเอาแต่ใจของนาง  แต่ ดูเหมือนน่าจักกลับไปเป็นนิสัยเดิม  … บางคนอทาจจะพูดได้ว่า เป็นการง่ายที่จักย้ายเมือง แต่เป็นการยากที่จักเปลี่ยนนิสัย !

 

” มันจักยากขนาดนั้นหรือ ?  มันเป็นเพียง ฟอร์เรนหิมะตัวน้อยมิใช่หรือ ?  จักเป็นเรื่องใหญ่อันใดกัน ? “

เด็กสาวน้อยโบกมือและร้องออกมา  นางไม่ต้องการทำให้จวินโม่เซี่ยจริงจัง  จากนั้น นางจึงละสายตาขณะที่ก้มหัวและอ้อนวอน

“ท่านพี่โม่เซี่ย เจ้าสำรองม้าให้ข้าสักตัวได้ ?  ใช่ไหม ? “

 

” ข้ามิอาจ !  ข้ามิต้องการสนทนาเรื่องนี้ ! ”

จวินโม่เซี่ยแน่วแน่ขณะที่ปฏิเสธนาง

เจ้าคิดว่าข้าไม่มีม้าสำรอง ?  สกลุตู่กู้ผู้น่ารำคาญจักทำอันใดกับข้าไหมหากเจ้าเป็นอันใดไป ?  ข้ามิใช่สุภาพบุรุษ  มันจักเป็นปัญหาหากบางสิ่งเกิดขึ้นในระหว่างการเดินทาง

 

” พี่โม่เซี่ย ข้าขอร้องเจ้า ! ”

ตู่กู้เซี่ยวอี้ จับแขนเขา และมองไปยังเขาด้วยท่าที่อ่อนแอและน่ารัก

 

“ไม่มีทาง !  ไร้ประโยชน์ที่จักหลอกล่อข้า ! ”

จวินโม่เซี่ยคำรามทางจมูก  จากนั้นเขาคิดถึงบางสิ่งและเอ่ยต่อ

“ล่อลวงบุรุษสกุลจวินนั้นไร้ประโยชน์ ”

 

” เจ้าคิดว่าเจ้าพอใจในตัวเองหรือ ? “

ตู่กู้เซี่ยวอี้ คำรามทางจมูก กระทืบเท้าและแลบลิ้น

” อืม !  ข้าจักไปกับเหล่าพี่ชายของข้า หากเจ้าไม่พาข้าไป !  เจ้าคิดว่าข้าต้องการความใจบุญของเจ้าหรือ ?  เจ้าคิดว่าข้ามิสามารถไปยังเถียรฟาได้หากจ้าปฏิเสธที่จักพาข้าไปด้วย ? “

 

” ตามใจเจ้า ! ”

จวินโม่เซี่ยผายมือ

” ทุกสิ่งจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย ตราบใดที่ข้าไม่พาเจ้าไปด้วย !  หากพี่ชายทั้งสามของเจ้าจักพาเจ้าไป พวกเขาจักช่วยชีวิตข้า !  พวกเขาจักได้รับการขอบคุณจากข้าสำหรับการแบ่งเบาภาระ ! “