ตอนที่ 2007 ตบหน้าด้วยอุ้งเท้าหมี (1

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 2007 ตบหน้าด้วยอุ้งเท้าหมี (1)
  พวกของแรดตัวนั้นมีจำนวนน้อยกว่าพวกเจียงอวิ๋นหลงมาก พวกมันถูกโจมตีอย่างรุนแรงและโหดร้าย เหล่าวิญญาณสัตว์อสูรได้รับบาดเจ็บบนร่างหลายแห่ง พลังวิญญาณของพวกมันกระจายออกมา ทำให้พวกมันยิ่งต่อสู้อย่างยากลำบาก
  วิญญาณสัตว์อสูรจำนวนมากอยากเข้าไปช่วย แต่ตามกฎของโลกวิญญาณ วิญญาณสัตว์อสูรที่ยังมีสัญชาตญาณสัตว์ร้ายอยู่จะต้องถูกคุมขัง ดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะอยากเข้าไปช่วยอยู่หลายครั้ง แต่พวกเขาก็ถูกเจียงอวิ๋นหลงใช้กฎของโลกวิญญาณมายับยั้งเอาไว้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถก้าวออกมาได้
  จงจงยังคงคำรามไม่หยุด พวกแรดร่วมกันต่อต้านศัตรู แต่เนื่องจากจำนวนแตกต่างกันมากเกินไป พวกวิญญาณสัตว์อสูรไม่กี่ตัวที่ปกป้องจงจงจึงได้รับบาดเจ็บหนักกันหมด เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่สามารถต้านได้มากกว่านี้แล้ว
  ดวงตาของเจียงอวิ๋นหลงฉายแววยินดี ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นลำแสงพุ่งตรงเข้าใส่จงจงท่ามกลางการต่อสู้ที่สับสนวุ่นวาย
  “อย่าคิดแม้แต่จะแตะต้องเขา!” เจ้าแรดไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองและเอาตัวกระแทกใส่เจียงอวิ๋นหลง แต่แรดที่บาดเจ็บสาหัสจะเป็นคู่ต่อสู้ของเจียงอวิ๋นหลงได้อย่างไร? เจียงอวิ๋นหลงจับนอแรดไว้ด้วยมือเดียว ส่วนอีกมือก็ชกเข้าไปที่หัวของแรดตัวนั้น!
  ทันใดนั้น ร่างของเจ้าแรดก็ล้มครืน ร่างที่รวมพลังวิญญาณก็สลายกลายเป็นผงธุลี
  นี่เป็นสัญญาณบอกว่าร่างวิญญาณกำลังจะดับสูญ เหล่าวิญญาณสัตว์อสูรที่อยู่บนถนนเห็นวิญญาณของแรดตัวนั้นแตกสลายไปต่อหน้าต่อตา พวกมันไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและพุ่งเข้าใส่พร้อมเสียงคำราม
  “ข้าอยากเห็นนักว่าหน้าไหนมันกล้าลงมือ?” เมิ่งอีเหลียงนำวิญญาณมนุษย์เข้าขวางทางเหล่าวิญญาณสัตว์อสูรทันที
  “หมีสีน้ำตาลตัวนั้นทำร้ายวิญญาณเผ่าอื่นบาดเจ็บ มันก็ควรถูกลงโทษแล้ว วิญญาณสสัตว์อสูรพวกนั้นพยายามปกปิดความผิดของเจ้าหมีสีน้ำตาล พวกเจ้าก็กำลังจะทำเช่นเดียวกันงั้นหรือ? พวกเจ้าจะเพิกเฉยกฎที่ท่านจ้าววิญญาณตั้งไว้งั้นหรือ?” เมิ่งอีเหลียงอ้างชื่อจ้าววิญญาณทันที ทำให้วิญญาณสัตว์อสูรพวกนั้นต้องคิดใหม่อีกครั้ง
  ในสนามรบ การที่วิญญาณของแรดตัวนั้นแตกสลายไปทำให้จงจงส่งเสียงคำรามออกมาด้วยความโกรธ
  ในขณะเดียวกัน พวกจวินอู๋เสียก็มาถึงที่เกิดเหตุ และได้เห็นฉากที่เจียงอวิ๋นหลงกำลังก้าวเข้าใกล้จงจงไปทีละก้าว!
  น่าหลานเยว่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ สถานการณ์ที่เห็นเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้มาก
  “บัดซบ! เจ้าพวกนั้นพยายามจะทำอะไรกันแน่?” เฉียวฉู่กัดฟันจ้องเจียงอวิ๋นหลง อยากจะพุ่งเข้าไปช่วยจงจงออกจากที่นั่นจนแทบรั้งตัวเองไว้ไม่ได้
  เฟยเหยียนและคนอื่นๆก็โกรธไม่ต่างกัน
  “พวกเจ้าออกไปไม่ได้” เสียงของจวินอู๋เสียดังขึ้น ทำให้พวกเฉียวฉู่มองนางด้วยความประหลาดใจ
  [ไปไม่ได้หรือ?]novel-lucky
  นั่นฟังไม่เหมือนสิ่งที่จวินอู๋เสียจะพูดเลยนี่
  จวินอู๋เสียขมวดคิ้วมองจงจงที่ถูกล้อมกรอบอย่างแน่นหนา ดวงตาทอประกายเย็นชา
  “พลังของพวกเจ้าตอนนี้ ออกไปแล้วคิดว่าจะทำอะไรได้งั้นหรือ?” จวินอู๋เสียไม่ได้มองพวกเฉียวฉู่ แต่พวกเขารู้ว่านางกำลังพูดถึงพวกเขา
  คำพูดของจวินอู๋เสียเป็นเหมือนน้ำเย็นจัดที่ราดลงบนหัวพวกเขา
  พวกผู้เยาว์ก้มหน้ามองมือตัวเองที่ยังไม่ได้เป็นร่างสมบูรณ์เต็มที่
  แม้ว่าพวกเขาจะฝึกฝนในป่าโยวเมิ่งมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะได้รับพลังที่เทียบเท่ากับพลังวิญญาณขั้นสีม่วง พลังในโลกวิญญาณตอนนี้ของพวกเขาไม่ได้แตกต่างจากวิญญาณใหม่ เทียบกับเจียงอวิ๋นหลงและคนของเขาที่ฝึกในหอคอยโยวหลิงมานาน ต่อให้พวกเขาพุ่งเข้าไปร่วมต่อสู้ ก็มีแต่จะกระเด็นออกมาเท่านั้น
  “งั้นเราจะยืนมองพวกนั้นเอาตัวจงจงไปเฉยๆอย่างนั้นหรือ?” เฉียวฉู่กำหมัดแน่น ตั้งแต่มาที่โลกวิญญาณ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเกลียดตัวเองที่ไร้ความสามารถเช่นนี้