ส่วนที่ 4 ตอนที่ 136 ตำรวจอาชญากรรมกับงู

ความลับแห่งจินเหลียน

หลังจากส่งจ่านป๋ายไปได้สองวัน จู่ๆ ซีเหมินจินเหลียนก็รู้สึกว่าภายในคฤหาสน์ช่างว่างเปล่า เดิมทีตอนที่อยู่คนเดียวเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้พอมีคนคนหนึ่งเพิ่มเข้ามา หลังจากที่เขาเข้ามาทำให้เธอคุ้นชินแล้วก็จากไป 

 

เธอถอนหายใจออกมาอย่างไร้อารมณ์ เปิดประตูห้องใต้ดินและจดจ้องไปที่หยกราชางูอยู่นานสองนาน จู่ๆ ซีเหมินจินเหลียนก็มีความคิดอะไรแผลงๆ ขึ้น เธอจะผ่าหินนี่ออกมาดีไหมนะ ดูสิว่างูที่อยู่ข้างในยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า? 

 

เธอหยิบเครื่องเจียระไนมาไว้ในมืออยู่นาน ซีเหมินจินเหลียนก็ยอมพ่ายแพ้ถอยหลังส่ายศีรษะพูดว่า “แกอย่ามามองฉันแบบนี้นะ ฉันไม่กลัวหรอก!” 

 

เวลาถัดมา ซีเหมินจินเหลียนแทบจะไม่มีเสียงเปล่งร้องตกใจออกมา เธอไม่ได้ดูผิด ดวงตาของงูตัวนั้นเหมือนจะกระพริบตาเล็กน้อย… 

 

กระเถิบเท้าก้าวถอยหลังไปก้าวใหญ่ ซีเหมินจินเหลียนสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะยกสองมือกอดอก ไม่ต้องกลัวๆ เธอคงจะตาลายไปเท่านั้น! หยกเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟ เนื่องจากการหักเหและการสะท้อนของแสง อาจจะส่งผลให้ภาพลวงตาบางอย่างเกิดขึ้น… 

 

เธอลากเก้าอี้มาและมองดูหยกราชางูอยู่นานสองนาน แต่ก็ไม่ได้เห็นว่าดวงตาของงูจะกระพริบอีกครั้ง เธอก็แค่ตาลายเท่านั้น เมื่อกี้เธอคงมองผิดไป 

 

แต่ไม่รู้ว่าทำไมเธอก็เริ่มที่จะรู้สึกว่างูตัวนี้เหมือนมีชีวิต จนกระทั่งโทรศัพท์ดังขึ้น ซีเหมินจินเหลียนจึงลุกขึ้นยืนไปหยิบโทรศัพท์มือถือมาดู เป็นเบอร์แปลก เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แต่ก็ยังกดปุ่มรับสายไป 

 

“ไม่ทราบว่าคือคุณซีเหมินจินเหลียนหรือเปล่าครับ?” ในโทรศัพท์มีเสียงของชายแปลกหน้าส่งผ่านเข้ามา 

 

“คุณคือ?” ซีเหมินจินเหลียนถามขึ้นอย่างแปลกใจ 

 

“สวัสดีครับ ผมคือผู้บังคับบัญชาตำรวจอาชญากรรมของเมืองเซี่ยงไฮ้ เลี่ยวก่วงครับ” เลี่ยวก่วงพูด 

 

ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ คดีปล้นอัญมณีถูกตรวจสอบ? ตำรวจเลยโทรมาหาเธออย่างนั้นหรือ โดยที่ไม่รู้ตัวนิ้วมือของเธอก็จับไปที่มีดด้ามเล็กที่อยู่ข้างตัว “เหมือนเราจะไม่ได้รู้จักกันมาก่อนนะคะ?” 

 

“ใช่ครับ พวกเราก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน” เลี่ยวก่วงพูด “แต่ว่าแฟนเก่าของคุณที่ชื่อหวังหมิงเหยาถูกฆาตกรรมที่คลับหยก พวกเราเลยอยากจะสอบถามอะไรสักหน่อย” จริงๆ แล้วการพูดประโยคนี้ เลี่ยวก่วงก็พูดโกหก หากพูดให้เลวร้ายกว่านี้ก็คือเขากำลังเอาหน้าที่การงานมาตอบสนองความอยากรู้ส่วนตัว 

 

คดีของหวังหมิงเหยาถูกปิดคดีจนสำเร็จด้วยดี เขาก็แค่สนใจในตัวเด็กผู้หญิงคนนี้ก็เท่านั้น อยากจะรู้จักมากขึ้นอีกหน่อยเลยหาข้ออ้างมาคุยด้วย 

 

“ฉันกับเขาเลิกกันมาได้ครึ่งปีแล้ว เรื่องของเขาฉันก็ไม่รู้อะไรทั้งนั้นค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้น 

 

“อ้อ อย่างนั้นหรือครับ?” เลี่ยวก่วงยิ้มก่อนจะถามกลับ “แต่เท่าที่ผมรู้มาเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น คุณก็อยู่ที่คลับหยกด้วย?” 

 

“ฉันเดิมพันหินอยู่ ไม่มีเวลาว่างมาเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ และถ้าคุณไม่มีเรื่องอะไร ฉันก็ขอวางสายนะคะ!” ซีเหมินจินเหลียนพูด 

 

“ฮัลโหล…” เลี่ยวก่วงกำลังพูดฮัลโหล แต่สัญญาณปลายสายก็ตัดไปเสียแล้ว 

 

หลังจากที่ซีเหมินจินเหลียนวางสาย เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งก็โทรไปหาจ่านมู่ฮวา 

 

 “จินเหลียน โทรหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่า” ไม่นานปลายสายก็รับ จ่านมู่ฮวาส่งเสียงผ่านเข้ามา “ผมกำลังจะตาย…” 

 

“คุณจะตายก็ตายไปเถอะ!” ซีเหมินจินเหลียนหงุดหงิดจนต้องด่าออกมา ข่าวซุบซิบอื้อฉาวครั้งก่อนเธอยังไม่ได้คิดบัญชีกับเขาเลย เวลานี้เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร แต่เขากลับจะตายเนี่ยนะ? 

 

“ไม่ๆๆ…พอได้ฟังเสียงของคุณ ผมก็เหมือนมีชีวิตใหม่ขึ้นมาเลยล่ะ ว่าแต่คุณมีเรื่องอะไรเหรอ” จ่านมู่ฮวารีบถาม เขารู้ว่าถ้าไม่มีเรื่องอะไร ซีเหมินจินเหลียนคงไม่โทรศัพท์สายด่วนมาหาเขาก่อนแน่ 

 

“มีผู้บังคับบัญชาตำรวจอาชญากรรมโทรมาหาฉัน บอกว่าอยากจะถามเกี่ยวกับคดีของหวังหมิงเหยา ไม่ใช่ว่าคดีของเขาจบไปแล้วหรอกเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม 

 

“เรื่องนี้ก็ปิดคดีไปเรียบร้อยแล้วนี่?” จ่านมู่ฮวาขมวดคิ้ว ไม่เพียงแต่คดีฆาตกรรมของหวังหมิงเหยาจบไปแล้ว แต่ว่าแม้แต่คดีปล้นอัญมณีก็ปิดคดีไปแล้วด้วย ตอนนี้เขารอแค่เงินก้อนนี้มาถึงบัญชี เพราะว่าจำนวนเงินค่อนข้างสูง ครั้งนี้บริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ถือว่าล้มลงไม่เป็นท่า เขาลองคิดคำนวณดูแล้วถ้าหากเล่นงานจนทำให้บริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ล้มละลายจนถึงที่สุด แล้วค่อยเอาเงินมาใช้เล่นๆ 

 

สมควรตาย เป็นใครกันแน่ที่ปล้นอัญมณีจำนวนมากในงานนิทรรศการครั้งนี้ของบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่? ทางตำรวจตามกลับมาครั้งนี้เป็นแค่ของผิวเผินทั้งนั้น…สมบัติล้ำค่าที่สืบทอดกันมาตั้งหากถึงเป็นหัวใจหลักของคดีปล้นใหญ่ครั้งนี้ เพียงแต่ของพวกนี้กู้คืนกลับมาไม่ได้ 

 

จบเห่ บริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ล้มลงไม่เป็นท่า เกรงว่าคุณนายซูคงถูกประธานใช้ข่าวของโบราณจัดการตายแน่ คิดถึงเรื่องนี้จ่านมู่ฮวาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มกริ่มออกมา 

 

แน่นอนว่านางปีศาจอวิ๋นคงกลัดกลุ้มไม่น้อย เพราะอย่างไรว่าธุรกิจของเธอก็เป็นของตระกูลอวิ๋น อีกทั้งได้ยินมาว่าตระกูลอวิ๋นออกหน้าปกป้องคุณนายซูไว้ด้วย? 

 

“คุณมั่นใจใช่ไหมว่าปิดคดีไปแล้ว?” ซีเหมินจินเหลียนถาม 

 

“ผมมั่นใจ!” จ่านมู่ฮวาพูด 

 

“งั้นก็ดี ตอนนี้คุณก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ!” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มออกมา จากนั้นก็รีบวางสายในทันใด ในเมื่อคดีจบแล้ว เรื่องทุกอย่างที่เหลือก็จัดการได้ง่ายขึ้น ขอแค่เธอปฏิเสธ ผู้บังคับบัญชาตำรวจอาชญากรรมนั่นเขาจะทำอะไรเธอได้อีก? 

 

เลี่ยวก่วงโทรมาหาเธออีกครั้ง แต่คราวนี้สายไม่ว่าง? โทรศัพท์บ้าน? เขาลองโทรอีกครั้ง… 

 

ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเสียงโทรศัพท์จึงเดินไปดูเบอร์ที่โชว์อยู่ ยังคงเป็นเบอร์เดิม ช่างเถอะ เธอจะทำเป็นไม่สนใจสายโทรศัพท์ของเขาก็ได้ แกล้งทำเป็นว่าไม่อยู่บ้านก็จบ 

 

แต่ผู้บังคับบัญชาการนั่นยังคงไม่ยอมแพ้ เขายังคงโทรเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซีเหมินจินเหลียนปิดประตูห้องใต้ดินและกอดเข่านั่งบนโซฟา คิดทบทวนดูไปมาสุดท้ายก็รับสาย “ในที่สุดคุณก็ยอมรับสายแล้ว?” เลี่ยวก่วงพูด 

 

“นี่คุณ…ครั้งนี้คุณก็คุกคามฉันมากเกินไปนะคะ ฉันจะฟ้องร้อง!” ซีเหมินจินเหลียนโกรธจัด 

 

“คุณซีเหมิน ผมแค่สงสัยนิดหน่อย!” เลี่ยวก่วงพูด 

 

“สงสัยอะไร?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว เธอเกลียดตำรวจเข้าลูกกะตาดำ ไม่สิ เกลียดมากๆ 

 

“ประวัติของคุณ!” เลี่ยวก่วงพูดขึ้น 

 

ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแบบนั้น ความอดทนที่มีมานานก็พลันหมดลง “ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษี เงินของพวกเราไม่ได้จ่ายไปให้พวกคุณตรวจสอบประวัติของใครเล่นๆ แบบนี้ แต่ให้พวกคุณไปรักษาความมั่นคงทางสังคมและความสันติสงบสุข หรือว่าความปลอดภัยในเมืองเซี่ยงไฮ้สงบสุขแล้วหรือคะ? คุณถึงได้มาตามสืบประวัติส่วนตัวของเด็กผู้หญิงแบบนี้ หรือว่าคุณก็เหมือนพวกนักข่าวซุบซิบพวกนั้น ชอบขุดคุ้ยเรื่องของชาวบ้าน?” 

 

“ผม…” เลี่ยวก่วงนิ่งอึ้งไปนาน ความสงสัยคือพรสวรรค์ที่ดีต่างหาก หรือว่าการเป็นตำรวจไม่สามารถมีความขี้สงสัยได้หรือ? ทำไมเขาถึงได้ดูน่าเบื่อเหมือนพวกนักข่าววงการบันเทิงนั่น เขาเป็นถึงผู้บังคับบัญชาตำรวจอาชญากรรมในเมืองเซี่ยงไฮ้ผู้ยิ่งใหญ่นะ 

 

“ถ้าคุณจะตรวจสอบคดีหวังหมิงเหยา คุณก็ไปตรวจสอบสิ คุณจะมาหาฉันทำไม?” ซีเหมินจินเหลียนแค่นเสียงใส่ ครั้งนี้เธอไม่อยากพูดด้วยความเกรงใจอะไรอีกแล้ว 

 

“งู…งู…” ในโทรศัพท์ จู่ๆ เลี่ยวก่วงก็พูดขึ้นมาอย่างตกใจ “คุณซีเหมิน มีงูตัวหนึ่ง…” เขาไม่กล้าแม้แต่ขยับ งูตัวนั้นเป็นงูตัวเล็กสีขาว ไม่รู้มาจากไหนอยู่ๆ ก็มาพันรัดรอบคอของเขา มันเลื้อยขึ้นมาบนคอของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน นี่เป็นไปได้อย่างไร? 

 

ช่วงนี้ใกล้จะเข้าปลายฤดูใบไม้ร่วง งูน่าจะไปจำศีลแล้วไม่ใช่เหรอ? 

 

แต่ตอนนี้ เขารู้ได้อย่างชัดเจนว่างูตัวนั้นเย็นเฉียบ มันพันรัดอยู่ที่ลำคอของเขา ลิ้นสีแดงเบาบางส่งกลิ่นแปลกอบอวลส่ายไปมาตรงหน้าเขา 

 

ปกติเขาก็ไม่ใช่คนที่จะกลัวงู แต่ในเวลานี้เขามีความตื่นตระหนกตกใจ เขารู้เพียงแค่ว่าหากเขาขยับแม้แต่น้อย งูตัวนี้คงจัดการเขาเสียตรงนี้ จากนั้นก็ไม่ต้องหวังว่าจะรอดแล้ว 

 

“คุณเป็นตำรวจอาชญากรรมจะกลัวอะไรกับงู?” ซีเหมินจินเหลียนถามแปลกใจ ตำรวจอาชญากรรมในโทรทัศน์ไม่ว่าจะอะไรก็ทำได้หมดไม่ใช่หรือ 

 

“ผม…” เลี่ยวก่วงอยากพูด โดยปกติเขาไม่ได้เป็นคนกลัวงู แต่ในเวลานี้คนธรรมดาทุกคนเมื่อถูกงูรัดคอเช่นนี้น่าจะต้องกลัวกันทั้งหมด สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจกว่าเดิมก็คือ เขายืนอยู่ตรงนี้ แต่งูตัวนี้กลับปีนป่ายเลื้อยมาถึงลำคอของเขาตั้งแต่ตอนไหน? 

 

จู่ๆ ในใจของซีเหมินจินเหลียนก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ เธอถามขึ้นว่า “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?” 

 

“หน้าประตูบ้านของคุณ…” ครั้งนี้แม้แต่คำพูดของเลี่ยวก่วงก็สั่นเครือ พระเจ้าช่วย ผู้หญิงคนนี้คือปีศาจจริงๆ ขนาดประตูหน้าบ้านยังมีงูแปลกประหลาดอยู่ด้วย? สำหรับตำรวจอาชญากรรม ถ้าใช้สถานะความเป็นตำรวจ เขาก็สามารถเข้าย่านที่พักระดับไฮเอนด์ได้อย่างง่ายดาย แม้แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่หน้าประตูจะไม่รู้ว่าเขากำลังตามหาใครก็ตาม 

 

“คุณอย่ามาตายหน้าบ้านฉันนะ…” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้นอย่างกระวนกระวาย เธอไม่กลัวตำรวจอาชญากรรม แต่ถ้าหากคนคนนี้มาตายที่หน้าบ้านเธอ เรื่องจะยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่ เธอจะหาอะไรมาอธิบายได้อย่างชัดเจนกันล่ะ… 

 

เวลานี้จู่ๆ เลี่ยวก่วงก็อยากจะตบปากตัวเองสักครั้ง คดีก็จบไปแล้ว ตัวเองนั่งอยู่ในสำนักงานใหญ่ไขว่ห้างดื่มกาแฟรอการอวยยศ แล้วจะมาที่นี่ตรวจสอบประวัติของชาวบ้านทำไม ถ้าตัวเองมาตายที่นี่ มันก็ใช่เรื่องหรือไง? 

 

นี่เป็นงูสีขาวนวลที่ดูแปลกประหลาด ตัวไม่ใหญ่ แต่ส่วนหัวเป็นสามเหลี่ยมและมีหางที่แหลมคมนั้น ก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่างูตัวนี้อาจจะมีพิษร้าย ถ้าโดนกัดเข้าไปก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น 

 

ซีเหมินจินเหลียนรีบร้อนออกไป เมื่อเปิดประตูก็เห็นมีชายหนุ่มราวๆ วัยสามสิบ สวมใส่เสื้อเชิ้ต    แจ็คเก็ตธรรมดากำลังสั่นเทา 

 

ในเวลานี้เธออยากจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเสียเหลือเกิน แต่เห็นนางพญางูขาวพันรัดอยู่ที่ลำคอของฝ่ายตรงข้ามแล้ว นี่ก็ไม่แปลกอะไร ถึงจะเป็นตำรวจอาชญากรรม แต่ถ้าถูกงูพิษมารัดคอแบบนี้ เขาก็คงทำได้แค่ตัวสั่น 

 

ผู้บังคับบัญชาตำรวจอาชญากรรมคนนี้ก็สมควรตายจริงๆ ได้อวยยศสุขสำราญแล้วยังจะมาหาเรื่องเธออีก ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ ได้รับผลกรรมแล้วสินะ? 

 

“คุณตำรวจเลี่ยวคะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม 

 

“คุณอย่าเข้ามา…งูตัวนี้มีพิษ…” เลี่ยวก่วงพ่นลมหายใจหนักๆ ออกมา “คุณรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจที หรือไม่ก็เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านมา…” 

 

“คุณก็เป็นตำรวจไม่ใช่เหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มอ่อน 

 

“ผม…” เลี่ยวก่วงแม้แต่พูดก็ยังพูดไม่ออก แต่ถึงตำรวจจะมาเพิ่มแล้วจะอย่างไร สถานการณ์อย่างนี้คงต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการจับงูแล้ว ไม่อย่างนั้นเกรงว่าใครก็ตามต่างไม่กล้าขยับ ส่วนเขาก็ยิ่งไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย แม้แต่มือของเขาก็ยังคงประคองโทรศัพท์แนบไว้ข้างหู… 

 

ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างชั่วร้ายว่า “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้จะทำอย่างไร?” เธอออกมาแล้ว นางพญางูขาวก็ไม่มีทางไปทำร้ายใครแน่ ตอนนี้เธอถึงได้เบาใจลง แต่ปัญหาก็คือคนคนนี้เขาก็ไปรบกวนอะไรนางพญางูขาวเข้า?