SD:บทที่ 64 โลกของจักรพรรดิ

ซู ฉิวไป่ กดเริ่มทดสอบโดยไม่ลังเล หลังจากนั้นภายในพริบตาเขาก็ปรากฏยังตำแหน่งแรกบนหน้าจอนำทางในตอนแรกเขาคิดว่าจะเห็นสุภาพบุรุษยืนนิ่งๆอยู่  สิ่งที่เขาต้องทำก็คือจอดรถแท็กซี่ ขอชื่อและขอปลายทางจากบุคคลนั้นจากนั้นพาเขากลับไปส่งยังช่องมิติเวลา

อย่างไรก็ตามเขาคิดผิด เมื่อเขาไปถึงยังจุดสีแดงไม่มีใครอยู่ที่นั่น!

คนขับรถรู้สึกตะลึง เขาออกมาจากรถแท็กซี่และเฝ้ามองไปรอบๆสักพักหนึ่ง แต่เขาก็ไม่เห็นใคร หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาเห็นชายชราคนหนึ่งยืนใต้ดวงอาทิตย์ในระยะไกล ดังนั้นเขาจึงรีบเข้าไปหาและถามว่าเห็นใครแปลกๆแถวนี้หรือไม่

ชายชรายิ้มและพยักหน้า

ซู ฉิวไป่ รู้สึกเต้นทันทีเขาเดินไปหาชายชราคนนั้น

“แกยังไงละ!”

ชายชราหัวเราะออกมาดังๆจน ซู ฉิวไป่ รู้สึกอึ้ง

ในขณะเดียวกันก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาและบอกว่าชายชราคนนี้คือพ่อของเขาเป็นโรคอัลไซเมอร์  ซู ฉิวไป่ ต้องส่ายหัวอย่างผิดหวังจากนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะถามคำถามเดียวกันกับชายหนุ่ม

“โอ้ คนแปลกๆอย่างนั้นหรอ มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมปักลายมังกรก่อนหน้านี้เขามีอายุประมาณ 40 ถึง 50 ปีเขายืนอยู่ตรงนั้นสักพักแล้วเดินไปยังทิศทางนั้น”

ชายหนุ่มชี้ไปทางทิศตะวันออก

ชายสวมชุดเสื้อคลุมปักลายมังกรอย่างนั้นหรอ?

ซู ฉิวไป่ รีบดึงสติของเขากลับมาเมื่อได้ยินคำนี้ ไม่จำเป็นต้องถามอีกต่อไปชายคนนั้นจะต้องเป็นคนที่เขาจะต้องส่งกลับไปอย่างแน่นอนไม่อย่างนั้นใครจะสวมชุดแบบนั้นมาเดินแถวๆนี้!

ซู ฉิวไป่ ขึ้นรถแท็กซี่ทันที เขาไม่ลืมที่จะขอบคุณชายหนุ่ม หลังจากขึ้นรถเขาเหยียบคันเร่งไปทางทิศตะวันออกทันทีในระหว่างทางเขามองไปรอบๆด้วยความกล้าๆกลัวๆ เขากำลังคิดถึง ของชายคนนั้นอย่างไม่ตั้งใจ หากจุดสีแดงที่อยู่บนหน้าจอเป็นเพียงตำแหน่งเริ่มต้นของคนเหล่านั้น เมื่อพวกเขามาถึง..นั่นหมายความว่าอีก 4 คนนั้นไม่เดินไปทั่วแล้วอย่างนั้นหรอ?

โอ้พระเจ้า …ซวยอะไรแบบนี้! หากบุคคลนั้นเป็นบัณฑิตที่อ่อนแอก็จะไม่มีปัญหาใดๆแต่ถ้าเป็นนักรบที่ทรงพลังและหยุดเขาไว้ไม่ได้นั่นคือเรื่องน่ากลัวอย่างแน่นอน!

ยิ่งคิดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเป็นห่วงมากยิ่งขึ้น ทันใดนั้นเขาก็เห็นกลุ่มคน

ต้องไปที่นั่นอย่างแน่นอน!

ซู ฉิวไป่ จอดรถแท็กซี่ริมถนนทันทีและกระโดดลงจากรถเขาพยายามแทรกฝูงชนเข้าไปและสังเกตเห็นตำรวจหลายคนกำลังยืนล้อมรอบชายวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมปักลายมังกร ฝูงชนดูตื่นตัวมากยิ่งขึ้น ใช่แล้วชายในชุดคลุมมังกรคือ จักรพรรดิเฉียนหลง ซึ่งอยู่ในร้านอาหารเล็กๆก่อนหน้านี้!

ด้วยการขัดขืนเล็กๆน้อยๆก่อนหน้านี้ทำให้ผู้คนบาดเจ็บอย่างมากมาย และเมื่อเห็นตำรวจล้อมรอบเขาเอาไว้เขาจึงตะโกนขึ้นว่า

“ทหาร มีคนก่อกบฏ พวกมันต้องการฆ่าข้า!”

ปากของ ซู ฉิวไป่ แทบจะอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำนี้ เขาไม่มัวชักช้าอีกต่อไปหากช้ากว่านี้ตำรวจอาจจะยิงชายคนนี้แล้วเรื่องทุกอย่างจะจบลง แต่ฉันจะทำภารกิจไม่สำเร็จ!

“เอาล่ะผ่อนคลายหน่อยทุกคน…เขาเป็นพ่อของผม!สมองเขามีปัญหาเล็กน้อย..”

สุดท้าย ซู ฉิวไป่ ก็สามารถประชิดตัวจักรพรรดิเฉียนหลงได้ เขายืนต่อหน้าจักรพรรดิและทำสัญญาณมือไปที่ศีรษะของจักรพรรดิ ตำรวจผู้สังเกตการรู้สึกโล่งใจทันที ในที่สุดก็มีใครบางคนยอมรับเป็นญาติกับคนเสียสติคนนี้ อย่างไรก็ตามก่อนที่ตำรวจจะทันพูดอะไร จักรพรรดิเฉียนหลงก็ตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจว่า

“ข้าไม่มีลูกชาย!”

ซู ฉิวไป่ แทบจะทรุดตัวนั่งคุกเข่า

โถ่ ผมยินดีที่จะเป็นลูกชายของคุณคุณยังไม่มีความสุขอีกหรอ คุณเองก็ไม่ได้พ่อของผม!”

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการทำภารกิจให้เสร็จสิ้น ยิ่งเขาสามารถส่งจักรพรรดิ์กลับได้เร็วเท่าไหร่เขายิ่งเข้าใกล้ภารกิจของเขามากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นการเรียกชายคนนี้ว่าพ่อจึงไม่สำคัญอีกต่อไป

ตำรวจผ่อนคลายหลังจากได้ยิน ซู ฉิวไป่ ยอมรับว่าชายเสียสติคนนี้เป็นพ่อของเขา

“ หนุ่มน้อย ดูแลพ่อของคุณให้ดี อย่าปล่อยให้เขาออกมาสร้างความวุ่นวายในครั้งต่อไป มันอันตรายเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเขา…เขาเรียนศิลปะการต่อสู้มาอย่างนั้นหรอ?”

ตำรวจจ้องมองจักรพรรดิผู้กำลังโกรธแค้น

แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดีก็ไม่สามารถต่อสู้ชายผู้เสียสติคนนี้ได้!

“เอ่อ ผมขอโทษนะครับ พอดีเขาต้องการเป็นจักรพรรดิอยู่ตลอด นี่เป็นความผิดของผมเองผมจะรีบพาเขากลับบ้านเดี๋ยวนี้”

ในขณะที่ ซู ฉิวไป่ พูดอย่างนั้นเขาวางแผนที่จะพาจักรพรรดิเดินออกไป แต่จักรพรรดิไม่พอใจจ้องมอง ซู ฉิวไป่ และถามว่า

“เจ้าต้องการทำอะไร?แล้วจะไปที่ใดกัน?”

ซู ฉิวไป่ มองไปรอบๆและหันไปกระซิบกับจักรพรรดิ

“แค่ตามผมมาผมจะส่งคุณกลับไปยังที่ที่คุณมา”

แน่นอนว่าจักรพรรดิเฉียนหลงมีความยินดียิ่งนักเมื่อได้ยินเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขาก็ติดตาม ซู ฉิวไป่ ไปยังแท็กซี่อย่างเงียบๆในขณะที่ฝูงชนเริ่มแยกย้ายกันออกไป

เมื่อมองดูจักรพรรดิเฉียนหลงเข้าไปในรถแท็กซี่  ซู ฉิวไป่ เริ่มรู้สึกโล่งอก

ในที่สุดฉันก็รับผู้โดยสารคนแรกได้และสามารถส่งเขากลับไปในตอนนี้

เมื่อคิดได้อย่างนั้นเขาขึ้นรถแท็กซี่คาดเข็มขัดและกำลังเปิดช่องทางมิติ

แต่ว่า….

“พลังงานไม่เพียงพอ ไม่สามารถเปิดช่องกาลเวลาได้ โปรดเพิ่มค่าพลังงาน”

ซู ฉิวไป่ ไม่เข้าใจข้อความนี้ จักรพรรดิเฉียนหลงเองก็ยังคงนิ่งเงียบ เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับเขา  ซู ฉิวไป่ พยายามเปิดช่องทางมิติอีกครั้งและได้รับข้อความเดิม

ข้อความดังกล่าวสะท้อนชัดเจนในความคิดของเขา แต่เขาไม่รู้ว่าเขาจะต้องเพิ่มพลังงานในการเปิดช่องมิติได้อย่างไร น้ำมันรถของเขายังคงมีอยู่เต็มดังนั้นเห็นได้ชัดว่านั่นไม่ใช่ปัญหา

ดังนั้นปัญหามันคืออะไร…

ภายในรถแท็กซี่เต็มไปด้วยความเงียบ จากนั้น ซู ฉิวไป่ ก็รู้ว่าการทดสอบนั้นไม่ง่ายอย่างที่เขาคิด ก่อนหน้านี้เขาคิดว่า 10 วันนั้นนานเกินไปที่จะทำภารกิจ แต่ตอนนี้เขากำลังคิดผิด

จักรพรรดิเฉียนหลงนั่งอยู่เบาะหลังอย่าเงียบสงบ เขาอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า

“เจ้าไม่ได้บอกหรอว่าจะพาข้ากลับไปส่ง?”

ซู ฉิวไป่ หันหน้ามาเผชิญหน้ากับจักรพรรดิอย่างไร้หนทาง

“ ฝาบาท ตอนนี้มีปัญหาบางอย่างท่านไม่สามารถกลับบ้านได้!”

จักรพรรดิรู้สึกสับสน อย่างไรก็ตามเนื่องจากช่องว่างมิติไม่เปิดออก ซู ฉิวไป่ก็ไม่สามารถที่จะ ไปส่งจักรพรรดิ์ได้เช่นกันดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไปยังจุดแดงตำแหน่งต่อไป

เมื่อมาถึงจุดสีแดง ซู ฉิวไป่ เห็นชายคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ตรงจุดนั้น และ ซู ฉิวไป่ สามารถพาเขาขึ้นรถแท็กซี่ได้อย่างง่ายดาย

ผู้ชายคนนี้เป็นจักรพรรดิอีกคน!

จักรพรรดิอู๋ ของราชวงศ์ฮั่น หลิว เช่อ

ในขณะนี้มีจักรพรรดิถึง 2 คนนั่งอยู่ในแท็กซี่ของเขา

อ้ายซินเจว๋หลัว หงลี่และจักรพรรดิอู๋ แห่งราชวงศ์ฮั่น หลิว เช่อ!

หลังจากสตาร์ทรถ  ซู ฉิวไป่ อดไม่ได้ที่จะหันไปมองจักรพรรดิ์ทั้งสองคน ในขณะที่จักรพรรดิทั้ง 2 คนเองก็มองหน้ากันไปมา

ซู ฉิวไป่ ได้อธิบายเหตุการณ์ให้กับจักรพรรดิเฉียนหลงฟังแล้ว แม้ว่าจักรพรรดิจะรู้สึกประหลาดใจที่เขาทะลุมิติมายังไม่กี่ร้อยปีต่อมา ทุกอย่างในยุคปัจจุบันนี้ทำให้เขาเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง

ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของจักรพรรดิเฉียนหลงที่จะอธิบายสถานการณ์ให้จักรพรรดิ หลิวเช่อฟังต่อ

“ดังนั้น..สถานการณ์จึงเป็นเช่นนี้ พวกเรามายังอนาคต…ใช่แล้วท่านคือจักรพรรดิอู๋แห่งราชวงศ์ฮั่นใช่หรือไม่?เคยได้ยินเกี่ยวกับท่าน ข้า อ้ายซินเจว๋หลัว หงลี่ ท่านอาจไม่รู้จักข้าแต่ข้ารู้จักท่าน”

จักรพรรดิ หลิวเช่อ สับสนมากเขาไม่เข้าใจเรื่องราวแม้แต่คำเดียว ไม่ใช่แค่เพียงจักรพรรดิหลิวเช่อ แม้แต่ ซู ฉิวไป่ ตอนนี้ก็ยังสับสนอยู่ เขากำลังยุ่งเกี่ยวกับการหาเป้าหมายคนต่อไป

“เสื้อคลุมมังกรของท่านดูดีและงดงามยิ่งกว่าของข้า”

“จริงหรือ?ฮ่าฮ่า ขอบคุณสำหรับคำชม ของท่านเองก็ดูดีเช่นกัน!”

“ราชวงศ์ชิงที่ท่านพูดถึงมันเกิดขึ้นหลังจากราชวงศ์ฮั่นใช่หรือไม่?ดังนั้นแปลว่าราชวงศ์ฮั่นที่ยิ่งใหญ่ของข้าจะพินาศสินะ?”

“ท่านอย่าคิดมากเลย?ราชวงศ์ชิงของข้าก็พินาศเช่นกัน จะให้พูดก็คือ..วันนี้เป็นวันท้ายปีของปี 2559  พรุ่งนี้จะเป็นวันปีใหม่แล้ว ข้าขออวยพรให้ท่านจงมีแต่ความสุข”

“สวัสดีปีใหม่..”

…..

คนขับรถรู้สึกรำคาญ มันเป็นความจริงที่จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองคนสามารถทำความรู้จักกับจักรพรรดิองค์อื่นได้ สำหรับคนธรรมดาไม่มีคุณสมบัติเป็นเพื่อนกับเขา

ในไม่ช้า ซู ฉิวไป่ ก็มาถึงตำแหน่งที่ 3  แต่เขาหาคนคนนั้นไม่เจอ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นเขาจึงขับรถไปยัง ตำแหน่งที่ 4  เขาใช้เวลานานมากในการค้นหาบุคคลนี้เช่นกัน

คนที่ 4 นั้นผิดแปลกกว่าคนอื่น เขาเป็นชายที่ฉลาด เจงกิสข่าน เตมูจิน!

เมื่อเห็นชายชราคนหนึ่งกำลังถือคันธนูยืนอยู่ใต้ป้ายรถเมล์  ซู ฉิวไป่ รู้สึกอยากตบหน้าตัวเอง ถ้าเขาไม่ได้ฝันไปโลกนี้ก็คงจะบ้า!

—————————————————