แดนนิรมิตเทพ บทที่ 918
เธอรู้ว่าพลังต่อสู้ของเฉินโม่เก่งอย่างมาก แต่เธอไม่เชื่อว่าทางเรื่องวิทยาศาสตร์ชีวภาพเฉินโม่จะมีผลงานที่ดี เธอตั้งใจมาดูเฉินโม่อับอายโดยเฉพาะ

เวลาเช้าแปดโมงครึ่ง งานแลกเปลี่ยนเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ

งานแลกเปลี่ยนในครั้งนี้จัดตั้งขึ้นที่มหาวิทยาลัยชิงหัว พิธีกรคือรองผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยชิงหัว

ในฐานะรองผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยขึ้นชื่ออันดับต้นอย่างมหาวิทยาลัยชิงหัว ไม่ว่าจะทางด้านการสนทนาหรือวิชาการ ล้วนไม่ธรรมดา

ประโยคเปิดงานที่ควรจะเป็นการฝึกซ้อมมากว่าพันรอบ ต่างก็ทำให้นักศึกษาทุกคนขบขันหัวเราะเสียงดังออกมา

ภายใต้การปรบมือที่ดุเดือด รองผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยชิงหัวประกาศเริ่มงานแลกเปลี่ยนครั้งนี้อย่างเป็นทางการ

ผู้ที่ขึ้นสุนทรพจน์คนแรกคืออาจารย์จากมหาวิทยาลัยหยางเฉิง

อาจารย์คนนี้เป็นผู้มีพรสวรรค์ทางด้านจุลชีววิทยา ทฤษฎีและการปฏิบัติบางส่วน รวมทั้งการบรรยายมีความชัดเจนและมีชีวิตชีวา ทำให้นักศึกษาต่างก็ปรบมือ

แต่ว่า อาจารย์ท่านนี้บรรยายเกี่ยวกับผลการวิจัยก่อนหน้านี้ ไม่มีการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ใดๆ แม้ว่าทักษะความรู้จะระดับมืออาชีพ แต่ก็ไม่มีความรู้สึกแปลกใหม่อะไร

ดังนั้นคะแนนจึงได้แค่ระดับธรรมดาทั่วไปเท่านั้น

ต่อมาคือลำดับที่สอง คือศาสตราจารย์วิชาชีววิทยาพืชท่านหนึ่ง

เห็นได้ชัดว่าศาสตราจารย์ท่านนี้เตรียมพร้อมมาอย่างดี แล้วยังนำเอากล้วยไม้ที่ปลูกเองกับมือมาด้วยโดยเฉพาะ

สุนทรพจน์ของเขามีความน่าสนใจมากกว่าคนแรกอย่างเห็นได้ชัด แล้วยังมีการสร้างสรรค์ใหม่ของตัวเองด้วย จึงได้รับเสียงปรบมือมากมาย แม้แต่ผู้ตัดสินระดับมืออาชีพพวกนั้นยังอดที่จะพยักหน้าชื่นชมไม่ได้

ศาสตราจารย์ลู่จากมหาวิทยาลัยหมากง ถูกจัดอยู่ในลำดับที่สิบ เมื่อเขาปรากฏตัว ก็ทำให้เกิดความครื้นเครงเล็กๆในเหตุการณ์ แม้แต่ผู้ตัดสินหลายคนยังพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทาย เห็นได้ถึงฐานะตำแหน่งของศาสตราจารย์ลู่คนนี้ในด้านของชีววิทยา

ศาสตราจารย์ลู่เองก็เตรียมพร้อมมาอย่างดี นำเอาผลงานการวิจัยหลายปีออกมา ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย ถือเป็นคนที่เก่งที่สุดในสิบอันดับแรก

คุณท่านหยางจื่อหนิงจากมหาวิทยาลัยยานจิง อยู่ลำดับที่สิบห้า

เมื่อคุณท่านหยางที่ผมหงอกเต็มหัวเดินขึ้นเวที ด้านล่างไม่มีเสียงปรบมือใดๆทั้งสิ้น เงียบสงบอย่างมาก

แต่ว่า ทุกคนต่างก็ยืนขึ้น โค้งคำนับให้กับหยางจื่อหนิง เพื่อแสดงออกถึงความเคารพ

แม้แต่ผู้ตัดสินที่ได้รับความเคารพอย่างสูงทั้งสิบคนนั้นเองก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน แล้วโค้งคำนับให้กับหยางจื่อหนิงเหมือนกับนักศึกษาเหล่านั้น เพื่อแสดงออกถึงความเคารพ

พวกศาสตราจารย์ลู่และศาสตราจารย์เสิ่นเองก็ไม่มีข้อยกเว้น

หยางจื่อหนิงเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยให้กับทุกคน ถือเป็นการรับความเคารพ

แต่ว่า ทุกคนไม่มีใครรู้สึกไม่พอใจเลยสักนิด เห็นได้ชัดว่า ตำแหน่งของหยางจื่อหนิงในด้านชีววิทยา มีความสูงส่งมากเพียงใด

แม้ว่าตำแหน่งของหยางจื่อหนิงจะสูงมาก แต่ในงานแลกเปลี่ยน เขาก็เป็นเพียงผู้เข้าแข่งขันธรรมดาคนหนึ่ง เหมือนกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ

แต่ว่าการวิจัยอณูชีววิทยาที่หยางจื่อหนิงนำมา กลับทำให้ผู้คนรู้สึกตะลึง

เรียกได้ว่า นี่คือทฤษฎีใหม่ล่าสุดและเป็นทฤษฎีที่สำเร็จพร้อมแล้ว เพื่อโน้มน้าวใจให้ทุกคนเชื่อ หยางจื่อหนิงจึงได้ทำการทดลองให้ชมด้วยตัวเอง

ผลการวิจัยนี้ เพียงพอที่จะได้รับรางวัลระดับนานาชาติมากมายแล้ว ทุกคนต่างคาดการณ์ว่า หยางจื่อหนิงน่าจะวิจัยสำเร็จมานานแล้ว แต่ในวันนี้ ยืมใช้สถานที่แห่งนี้ มาเปิดเผยกับใครภายนอกรับรู้ครั้งแรกเท่านั้น

เมื่อหยางจื่อหนิงค่อยๆเดินลงเวที เสียงปรบมือดังระรัว ทุกคนลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ยืนมองคุณท่านหยางจื่อหนิงเดินลงเวที

สิบห้าลำดับแรกจบลง เวลาใกล้เที่ยง ตามที่ได้จัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ จะมีการกล่าวสุนทรพจน์สิบห้าคนสุดท้ายในช่วงบ่าย

ฉะนั้น พิธีกรจึงประกาศจบการกล่าวสุนทรพจน์ในช่วงเช้า แล้วยังจัดเตรียมอาหารมื้อเที่ยงไว้ให้กับทุกท่านที่โรงอาหาร และแน่นอนว่า หากมีผู้ที่ไม่อยากทาน ก็สามารถออกไปทานที่ด้านนอกได้

เฉินโม่ไม่ได้ไปทานข้าวที่โรงอาหารกับศาสตราจารย์เสิ่น จากพลังบำเพ็ญของเขาในตอนนี้ เขาไม่กินข้าวหนึ่งปีก็ไม่เป็นปัญหา เขาไม่อยากไปสถานที่ครื้นเครงเช่นนั้น