บทที่ 2186+2187

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2186 เชือดไก่ให้ลิงดู

ทำให้จิตของเขาสัมผัสถึงอันตรายได้ตามสัญชาตญาณ…

“ท่านเจ้าเมือง”

ไม่รู้ว่าเจ้าพนักงานเมืองผู้นั้นวิ่งออกมาจากซอกหลืบใด คุกเข่าลงเบื้องหน้าเย่หลิงเสียงดังตุบ มองญาติสนิทด้วยสีหน้าคับข้องหมองใจ

“ท่านเจ้าเมือง โปรดให้ความเป็นธรรมแก่ผู้น้องด้วย”

เย่หลิงขมวดคิ้วนิดๆ

“ผู้ใดทำให้เจ้าคับข้องหมองใจกัน?”

เจ้าพนักงานเมืองชี้นิ้วไปที่พวกตี้ฝูอีทั้งสองทันที

“เป็นพวกเขาสองคน! ผู้น้องปฏิบัติตามกฏของเมืองลั่วฮวา ไม่อนุญาตให้เด็กสตรีคนชราเข้าเมือง แต่สองคนนี้กลับใช้กำลังสั่งการเพื่อเข้ามา! จ่อกระบี่บังคับผู้น้องให้ออกคำสั่งเปิดประตูเมือง…คอของผู้น้องหวิดจะถูกพวกเขาบั่นขาดแล้ว!”

เขาชี้ผ้าแพรที่พันไว้หนาบนลำคอตน

บนแพรนั้นยังมีคราบเลือดอยู่ ดูสะเทือนขวัญอยู่บ้างจริงๆ

เย่หลิงเบนสายตา กวาดมองร่างของทหารรักษาเมืองเหล่านั้นแวบหนึ่ง

“ที่เขาพูดเป็นความจริงหรือ?”

พวกทหารย่อมไม่กล้าโป้ปด พากันตอบว่าใช่ มีคนหนึ่งบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ออกมาอย่างฉาดฉานได้อรรถรส

เย่หลิงยิ้มน้อยๆ คอยรับฟัง มิได้เอ่ยสอดเลยสักคำ รอจนคนผู้นั้นเล่าจบ เขาถึงถอนหายใจเบาๆ

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้…”

เขากวักมือเรียกเจ้าพนักงานเมืองคนนั้น

“เข้ามาสิ ให้เจ้าเมืองอย่างข้าดูแผลเจ้าหน่อย”

เจ้าพนักงานเมืองรีบเข้าไปหา กัดฟันแกะผ้าแพรที่พันคอออก เผยให้เห็นบาดแผลที่ค่อนข้างน่าสยดสยองแผลนั้น

“ท่านเจ้าเมือง ท่านดูเอาเถิด…”

“เป็นบาดแผลที่…ไม่น้อยเลยจริงๆ”

น้ำเสียงเย่หลิงคล้ายจะเจือแววสงสารเห็นใจไว้

“ใช่แล้วๆ ญาติผู้พี่เจ้าเมืองต้องเอาคืนให้ผู้น้องนะขอรับ!”

เจ้าพนักงานเมืองโบกกำปั้นไปมา พลางเหล่ตามองพวกกู้ซีจิ่วทั้งสองแวบหนึ่ง แววตาผยอง ราวกับกำลังพูดว่า ครั้งนี้พวกเจ้าตายแน่!

กู้ซีจิ่วเพียงทำเป็นไม่เห็นเสีย แต่อย่างไรในใจก็คงหนึกอึ้งอยู่บ้าง

วรยุทธ์ของเด็กหนุ่มเด็กสาวที่อยู่ข้างกายเจ้าเมืองผู้นี้ล้วนไม่ต่ำต้อยทั้งสิ้น! ต่ำสุดก็ดูเหมือนจะมีพลังวิญญาณขั้นหกแล้ว

ซ้ำหลังจากเจ้าเมืองผู้นี้ปรากฏตัวขึ้น ก็มีทหารกองแล้วกองเล่าวิ่งออกมาจากแต่ละจุดของเมือง จำนวนหลายพันคน ยืนซุ่มอย่างเงียบเชียบคอยท่าอยู่ไม่ไกล โอบล้อมพวกกู้ซีจิ่วเอาไว้รางๆ…

หากว่าผู้ที่เข้าเมืองมามีแค่กู้ซีจิ่วกับตี้ฝูอีสองคน พวกเขาย่อมไม่มีอะไรให้พะวง เห็นท่าไม่ดีขึ้นมาจริงๆ ก็เคลื่อนย้ายหนีไปเสียเท่านั้น คิดจะจับเธอกับเขาก็เป็นได้เพียงวานรช้อนเงาจันทร์ ไม่มีทางเป็นไปได้

แต่ด้านหลังพวกเขายังมีชาวบ้านอีกกว่าร้อยชีวิต ชาวบ้านพวกนี้ไม่มีวรยุทธ์สักเท่าใด ในสายตาของทหารที่มีพลังวิญญาณเหล่านี้ เป็นเพียงลูกแกะที่รอเชือด…

กู้ซีจิ่วเริ่มใคร่ครวญแล้วว่าถ้าเจ้าเมืองผู้นี้ประสงค์ร้ายต่อชาวเผ่าจริงๆ เธอจะพาตี้ฝูอีเคลื่อนย้ายเข้าไปจับคน จับเจ้าเมืองผู้นี้เป็นตัวประกันก่อนแล้วค่อยว่ากัน!

สีหน้าเธอราบเรียบไร้อารมณ์ มือที่อยู่ในแขนเสื้อกำแน่น เตรียมไว้ว่าถ้าพบสิ่งผิดปกติ จะลงมือทันที!

ไม่ว่าอย่างไร เธอก็จะปกป้องชาวเผ่าเหล่านี้ ลดความเสียหายให้น้อยลงที่สุด!

ตี้ฝูอีจับมือนางไว้ตลอด ย่อมสัมผัสถึงความกังวลของนางได้ ส่งกระแสเสียงหานาง

‘อย่ากังวลเลย เจ้าพนักงานคนนี้ดวงกุดแล้ว!’

‘หือ?’

‘เด็กดี รอชมละครสนุกๆ ก็พอ’

ตี้ฝูอีหยักมุมปากนิดๆ คล้ายจะมองอะไรออกแล้ว

เอาเถอะ เธอจะรอชมละคร!

นิ้วมือเย่หลิงเรียวเสลายิ่ง เรียวยาวบอบบาง เล็บมือถูกตัดแต่งไว้อย่างดี ปลายเล็บตะไบจนคม มือเรียวงามดุจอิสตรี

ยามนี้มือเรียวงามข้างนี้ลูบบาดแผลตรงลำคอของเจ้าพนักงานผู้นั้น

“แผลนี้เกือบบาดโดนเส้นเลือดแล้วกระมัง?”

“ใช่แล้วๆ หวิดไปนิดเดียวเท่านั้น”

ยามนี้เจ้าพนักงานเมืองนึกถึงแล้วยังคงหวาดผวาอยู่

“ดังนั้นเจ้าสัมผัสได้ว่าถูกคุกคามถึงชีวิตแล้วจริงๆ ก็เลยสั่งการให้ปล่อยคนเข้ามาสินะ?”

เย่หลิงถามต่อ

————————————————————————————-

บทที่ 2187 เชือดไก่ให้ลิงดู 2

“ขอรับ ผู้น้องไม่มีวิธีแล้วจริงๆ…”

“โชคดี! โชคดีแล้ว!”

เย่หลิงถอนหายใจ ขณะที่เจ้าพนักงานเมืองหมายจะพยักหน้าคล้อยตาม เขาก็เอ่ยเสริมขึ้นมาอีกไม่กี่ประโยค

 “โชคดีที่พวกแม่นางกู้ไม่ได้มีเจตนาร้าย เพียงมาเข้าร่วมกับพวกเรา มิเช่นนั้นหากมีศัตรูมา เพียงข่มขู่เอาชีวิตเจ้า เจ้าก็จะเปิดประตูเมืองให้อย่างไม่ไยดีทุกสิ่งแล้ว เช่นนั้นคนทั้งเมืองมิใช่ต้องลงหลุมไปพร้อมกับเจ้าหรอกหรือ?”

เจ้าพนักงานเมืองนิ่งงัน หน้าเขาเปลี่ยนสีแล้ว เอ่ยเสียงสั่นเครือ

“ญาติผู้พี่…”

คิดจะถอยหลังไปตามสัญชาตญาณ หลบหลีกนิ้วมือของเย่หลิงที่ลูบลำคอเขา…

แต่นิ้วมือของเย่หลิงราวกับงอกออกมาจากคอเขาก็มิปาน การเคลื่อนไหวของเขา หลบหลีกจากมือของอีกฝ่ายไม่ได้เลย หนำซ้ำปลายเล็บที่คมกริบของอีกฝ่ายยังทิ่มเข้าไปในแผลเขาอีกด้วย…

ปากแผลที่เพิ่งจะตกสะเก็ดมีเลือดซึมออกมาอีกครั้ง ย้อมเล็บเย่หลิงจนเป็นสีแดง ทว่าเขาดูเหมือนไม่สังเกตเห็น เลย ไม่เพียงแต่ไม่ชักมือกลับเท่านั้น เล็บมือยังค่อยๆ จิกเข้าไปด้วย…

เจ้าพนักงานเมืองทั้งเจ็บทั้งกลัว ในที่สุดดวงตาก็ฉายแววหวาดหวั่นแล้ว คุกเข่าลงเสียงดังตึง

“ญาติผู้พี่เจ้าเมือง ไว้…ไว้ชีวิตด้วย! ห…เห็นแก่หน้าพี่สะใภ้อวิ๋นเถิด…”

วาจาท่อนหลังเขาพูดไม่ออกแล้ว!

เนื่องจากเล็บมือของญาติผู้พี่ที่รักของเขาได้เจาะทะลวงเส้นเลือดที่คอเขา ทิ่มเข้าไปถึงหลอดลมของเขา ทำให้เขาหายใจไม่ได้อยู่ตรงนั้น พยายามอ้าปากกว้างสุดชีวิตก็ไม่อาจสูดรับอากาศได้…

ในที่สุดเย่หลิงก็ชักมือกลับ เจ้าพนักงานเมืองกลับทรุดฮวบลงไป ตรงลำคอมีโลหิตไหลเอ่อนอง มองก็รู้ว่าไม่รอดแล้ว

จวบจนเขาสิ้นชีพดวงตาก็ยังเบิกกว้าง ราวกับไม่อยากเชื่อว่าญาติผู้พี่ที่ดีต่อเขายิ่งนักเสมอมาจะลงมือกับเขาอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้!

เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่รอบข้างก็คาดไม่ถึงเช่นกัน แต่ละคนต่างกลั้นหายใจ ไม่กล้าหายใจแรงเลย!

เงียบสงัด! ในลานกว้างที่เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่ามีคนอยู่หลายพันคนกลับเงียบสงัดจนเข็มสักเล่มหล่นลงพื้นก็ยังได้ยิน

เย่หลิงเช็ดนิ้วมือเปื้อนเลือดบนชุดของสาวน้อยนางหนึ่งที่อยู่ตรงแทบเท้า จากนั้นก็แหย่นิ้วนั้นเข้าไปในปากของสาวน้อย เอ่ยอย่างเฉยชา

“ทำความสะอาดมันซะ เจ้าเมืองอย่างข้าไม่ชอบเลือด”

สาวน้อยนางนั้นไม่กล้าร้องสักแอะ ได้แต่ทำตาม ใช้น้ำลายล้างคราบเลือดบนนิ้วนั้น

ผ่านไปครู่หนึ่ง เย่หลิงก็ดึงนิ้วกลับไป ชูขึ้นฟ้าแล้วมอง เล็บมือสะอาดสะอ้านดั่งเดิมอีกครั้ง คราบเลือดสักเสี้ยวก็มองไม่เห็นแล้ว

เขาถึงได้ชักมือกลับไป กวาดตามองฝูงชนรอบข้างเล็กน้อย ถอนหายใจเบาๆ เอ่ยขึ้น

“เจ้าเมืองอย่างข้าจะไม่ปล่อยผู้ที่รักตัวกลัวตายเช่นนี้ไว้ แม้ว่าเขาจะเป็นญาติผู้น้องสุดที่รักของข้า ทว่าในเมื่อเขาฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของเมืองเรา ก็ต้องรับโทษประหารตามกฎหมาย”

มองดูซากศพบนพื้นอีกแวบหนึ่ง ส่ายหน้าเล็กน้อย ดวงหน้าหล่อเหลาฉายแววรับไม่ไหว

“ถึงอย่างไรเขาก็เป็นญาติผู้น้องของข้า ซ้ำปกติข้ายังห่วงใยเขาเป็นที่สุดด้วย ไม่นึกเลยว่า…เจ้าเมืองอย่างข้าปวดใจเหลือเกิน! ทว่ากฎเมืองไม่อาจละเลยได้ เจ้าเมืองอย่างข้าก็จนปัญญาเช่นกัน ยามนี้ลงโทษปลิดชีพเขา ก็นับว่าลบล้างความผิดไปแล้ว ใครก็ได้ เอาเขาไปฝังเถอะ”

“ขอรับ!”

เด็กหนุ่มสี่คนที่อยู่ด้านหลังเขาลุกขึ้นมา แบกศพเจ้าพนักงานเมืองคนนั้นจากไป

เย่หลิงเป่านิ้วตัวเองเล็กน้อย กวาดตามองฝูงชนอีกครั้ง

“พวกเจ้าจงจำไว้ ชีวิตสามารถสูญสิ้นได้ ทว่ากฎเมืองไม่อาจสูญสลายได้ กระจ่างแจ้งกันหมดหรือยัง?”

“ขอรับ! ท่านเจ้าเมือง! กฏเมืองไม่อาจสูญสลายได้!”

ทุกคนรับคำด้วยความเกรงกลัว

เมื่อก่อนเย่หลิงถนอมเอ็นดูเจ้าพนักงานเมืองผู้นี้มากเพียงใดทุกคนล้วนเห็นกันดี แม้กระทั่งเขายังได้รับโทษทัณฑ์หนักหนาถึงเพียงนี้ คนที่เหลือไหนเลยจะกล้าพูดจาเป็นอื่นอีก?

กู้ซีจิ่วหรี่ตาลงเล็กน้อย

เย่หลิงผู้นี้เหี้ยมโหดอย่างยิ่ง! กลยุทธ์เชือดไก่ให้ลิงดูเช่นนี้ไม่เลวเลย!

เหล่าชาวบ้านที่เพิ่งมาใหม่ก็มองหน้ากันเหลอหลา กระสับกระส่ายอยู่ในใจ

กฎของเมืองลั่วฮวาคือไม่อนุญาตให้คนชราเด็กและสตรีอ่อนแอเข้าเมืองมา…

บัดนี้เจ้าพนักงานเมืองผู้นี้ถูกปลิดชีพแล้ว เช่นนั้นพวกเขาจะถูกไล่ออกไปอีกครั้งหรือเปล่า?!

——————————-