ตอนที่ 103-2 ร้องขอความตายต่างหากยากลำบากที่สุด

จำนนรักชายาตัวร้าย

เชียนเยี่ยเสวี่ยไม่เชื่อถือตี้อู่เฮ่ออี นางรีบถามอวี้เฟยเยียน

 

 

สำหรับความเป็นหญิงแกร่งผู้บ้าระห่ำแข็งกระด้างของเชียนเยี่ยเสวี่ย อวี้เฟยเยียนเคยชินเสียแล้ว

 

 

เห็นทีการจะจับคู่ให้คนสองคนนี้ คงจะต้องอาศัยนางช่วยผลักดันสักหน่อยแล้ว!

 

 

“เสวี่ย เห็นทีเจ้าคงจะตำหนิเฮ่ออีผิดไปเสียแล้ว! เมื่อครู่มีแมลงตัวหนึ่งไต่อยู่ที่คิ้วเจ้า เฮ่ออีเพียงแต่ต้องการช่วยเจ้าจับแมลงเท่านั้นเอง!”

 

 

คำพูดอวี้เฟยเยียน เชียนเยี่ยเสวี่ยไม่มีสงสัยเลยแม้แต่น้อย

 

 

คราวนี้ ถึงตาเชียนเยี่ยเสวี่ยเป็นฝ่ายขัดเขินบ้าง

 

 

“เจ้าทึ่ม ขอโทษด้วย เข้าใจเจ้าผิดไป ข้าผิดเองที่ใช้น้ำใจคนต่ำมาประเมินค่าจิตใจสุภาพชน ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย!”

 

 

กล่าวจบ เชียนเยี่ยเสวี่ยยังค้อมกายขอโทษอีกด้วย

 

 

ตี้อู่เฮ่ออีนึกไม่ถึงว่าอวี้เฟยเยียนจะช่วยเขาโกหก เมื่อเห็นเชียนเยี่ยเสวี่ยขอโทษด้วยความจริงใจเช่นนี้ ทำให้เขายิ่งรู้สึกละอายขึ้นไปอีก

 

 

เชียนเยี่ยเสวี่ยลำบากลำบนดูแลเขามาทั้งคืนเชียวนะ!

 

 

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร!”

 

 

ตี้อู่เฮ่ออีโบกไม้โบกมือเชิงไม่เป็นไร โดยมิกล้าสบตาดวงตาคู่งามทรงเสน่ห์ของเชียนเยี่ยเสวี่ย

 

 

แต่เชียนเยี่ยเสวี่ยกลับมิได้สังเกตเห็นอาการผิดปกติของตี้อู่เฮ่ออี แต่ยังดึงมือของอวี้เฟยเยียนเขามาเพื่อให้ตรวจอาการให้กับเขา

 

 

“เมื่อคืนเจ้าทึ่มจับไข้ทั้งคืน ช่าช่า เจ้ารีบตรวจอาการให้เขาสักหน่อยเถอะ!”

 

 

รอจนอวี้เฟยเยียนจับชีพจรตรวจอาการ ก็พบว่าตี้อู่เฮ่ออีไข้ลดลงแล้ว อีกทั้งร่างกายก็ฟื้นตัวได้ดี อวี้เฟยเยียนถึงกับยกนิ้วโป้งชื่นชมเชียนเยี่ยเสวี่ยเลยทีเดียว

 

 

“ทำได้ไม่เลว! มีเจ้าค่อยดูแลเฮ่ออีอย่างดีเช่นนี้ ข้าเชื่อแน่ว่าเขาจะต้องหายดีได้ในเร็ววัน!”

 

 

ได้รับคำชมจากอวี้เฟยเยียน ทำให้เชียนเยี่ยเสวี่ยดีอกดีใจ

 

 

เจ้าทึ่มบาดเจ็บเพราะนาง หากเกิดทิ้งผลข้างเคียงอะไรไว้ขึ้นมา นางจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเป็นแน่

 

 

ตี้อู่เฮ่ออีฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ภายใต้การดูแลด้วยความใส่ใจของเชียนเยี่ยเสวี่ย

 

 

แน่นอนว่าความสัมพันธ์พวกเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นดั่งคู่รักคู่แค้น

 

 

เพราะเชียนเยี่ยเสวี่ยมักจะหาวิธีทำให้ตี้อู่เฮ่ออีที่แสนอ่อนโยนยัวะจนโมโหได้ตลอดเวลา และการทะเลาะกันทั้งคู่มักจะจบลงด้วยการพ่ายแพ้ของตี้อู่เฮ่ออีเสมอ

 

 

“เห็นทีต่อไปพี่เฮ่ออีจะมีเมียคอยคุมอย่างเข้มงวดเสียแล้ว!”

 

 

หนานกงจื่อหลิงเคยชินกับวิธีการทำความรู้จักของพวกเขาเสียแล้ว สำหรับเรื่องที่ว่า ‘เมียคุม’ นั้น เป็นคำศัพท์ใหม่ที่นางเรียนรู้มาจากอวี้เฟยเยียน ซึ่งนางรู้สึกว่าเหมาะสมกับตี้อู่เฮ่ออียิ่งนัก

 

 

เมื่อเห็นท่าทีตี้อู่เฮ่ออี ทำให้หนานกงจื่อหลิงอดคิดถึงซย่าโหวฉิงเทียนที่แสนเผด็จการไม่ได้

 

 

นางหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากที่พี่ใหญ่แต่งงานแล้วจะกลายเป็นชายที่ถูกเมียคุมเข้มบ้าง

 

 

ทว่า ในระยะนี้นางได้ทำความเข้าใจกับอีกด้านที่แท้จริงที่สุดของซย่าโหวฉิงเทียน ซึ่งหนานกงจื่อหลิงคิดว่าก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นนางที่ ‘เข้าใจผิด’ พี่ใหญ่เสียแล้ว เขาไม่ได้มีจิตใจที่ดีงามเลยสักนิด!

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนไม่รังแกอวี้เฟยเยียนก็นับว่าดีถมไปแล้ว

 

 

เพียงแค่นึกถึงว่าพี่อวี้ที่นางรักต้องถูกพี่ใหญ่รังแก หัวใจหนานกงจื่อหลิงก็เต้นเร่าๆ ความรู้สึกที่ต้องการทวงความยุติธรรมปะทุขึ้นมาทันที!

 

 

อวี้เฟยเยียนที่ท่าทางอรชรอ้อนแอ้นบอบบางเช่นนั้น ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของพี่ใหญ่ได้เล่า!

 

 

“พี่อวี้ หากพี่ใหญ่รังแกท่านละก็ ท่านจะต้องบอกข้า ข้าจะต้องช่วยเหลือพี่อย่างแน่นอน!”

 

 

“ได้สิ!”

 

 

เมื่อเห็นใบหน้าที่หนักแน่นของหนานกงจื่อหลิง อวี้เฟยเยียนพลันรู้สึกว่าแม่นางผู้นี้ช่างแสนดีจริงๆ เลย ซย่าโหวฉิงเทียน หากท่านรู้ว่าหัวใจแม่นางน้อยอยู่เคียงข้างข้า ท่านจะร้องไห้หรือไม่นะ

 

 

วังหลวง

 

 

สายข่าวคอยรายงานความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายให้กับเชียนเจิ้นหยางได้รู้อย่างมิไม่ขาดสาย จนกองพะเนินเทินทึก

 

 

“บ้า ซย่าโหวฉิงเทียนเป็นบ้าไปแล้ว!”

 

 

ในเวลาเพียงแค่สองวัน พื้นที่โดยรอบของฉินจื้อก็ถูกซย่าโหวฉิงเทียนเข้าโจมตีจนแตก

 

 

และสิ่งที่ทำให้เชียนเจิ้นหยางตกตะลึงมากที่สุดนั่นก็คือ ซย่าโหวฉิงเทียนคือจอมเทวา!

 

 

ทุกที่ที่ไปถึง ซย่าโหวฉิงเทียนจะสำแดงพลังแห่งจอมเทวาของตนออกมา ทันใดนั้น ทุกคนก็ยอมศิโรราบให้ในทันที กองทัพแห่งต้าโจวเดินทัพด้วยความราบรื่นตลอดทางโดยไม่เจออุปสรรคขวางกั้นใดๆ เลย

 

 

เพราะนี่คือเกราะหุ้มเนื้อ ใครเล่าจะกล้าต่อกรกับจอมเทวา!

 

 

ในบางครั้งก็อาจจะมีพวกกล้าหาญไม่กลัวตาย ดาหน้าออกมาท้าทายบ้าง ผลก็คือถูกซย่าโหวฉิงเทียนสังหารภายในพริบตา

 

 

สายข่าวยังเน้นย้ำว่าเป็นการ ‘สังหารชั่วพริบตา!’

 

 

แม้แต่ศพก็ไม่เหลือ!

 

 

การเชือดไก่ให้ลิงดูอันเ**้ยมโหดของเขา ไม่ว่าจะเป็นกองทัพฉินจื้อหรือประชาชนทั่วไปล้วนแต่ยกธงขาวยอมศิโรราบ ค่อยๆ เข้าเป็นพวกเดียวกับซย่าโหวฉิงเทียนทั้งสิ้น

 

 

ดังนั้นทัพต้าโจวอิทธิพลแผ่ไพศาล ตรงกันข้าม แคว้นฉินจื้อตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายขึ้นเรื่อยๆ

 

 

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้!

 

 

เชียนเจิ้นหยางปัดข่าวที่ถูกนำมารายงานจนหล่นระเนระนาดลงที่พื้น

 

 

เขาพึ่งจะขึ้นเป็นฮ่องเต้ บัลลังก์มังกรนั่งยังมิทันก้นอุ่น ก็ต้องเผชิญกับภัยพิบัติครั้งใหญ่เช่นนี้ หรือว่าสวรรค์กำลังลงโทษเขาอย่างนั้นหรือ

 

 

“ซย่าโหวฉิงเทียน ข้ากับเจ้าจะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้!”

 

 

ปากก็ตะโกนออกมาอย่างหนักแน่น แต่ในใจเชียนเจิ้นหยางรู้ดี เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ซย่าโหวฉิงเทียนด้วยซ้ำ

 

 

เทพนพเคราะห์ที่แสนเ**้ยมโหดนี้ จะเริ่มลงมือกับฉินจื้อแล้วใช่หรือไม่

 

 

จะทำอย่างไรดี!

 

 

ในขณะที่เชียนเจิ้นหยางกำลังครุ่นคิดหาวิธีจนหัวแทบแตกอยู่นั้น ตระกูลฉู่ที่สั่งสมกำลังอยู่ที่กันโจว ห่างจากเมืองหลวงไม่ไกลก็ลุกฮือขึ้น ใช้การแก้แค้นให้กับเยี่ยนอ๋องและฉู่ฮองเฮาเป็นข้ออ้าง บุกเข้าล้อมเมืองหลวงเอาไว้

 

 

คนเมื่อกำลังดวงซวย เพียงแค่ดื่มน้ำเย็นยังติดคอเลยจริงๆ

 

 

ครั้งนี้ ทำให้เชียนเจิ้นหยางเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าอะไรคือศึกนอกศึกใน!

 

 

ตระกูลฉู่สมควรตาย!

 

 

เชียนลั่วเฉิงก็สมควรตาย!

 

 

เชียนเจิ้นหยางกล่าวโทษว่าเรื่องทั้งเป็นความผิดเชียนลั่วเฉิงที่ตายไปแล้วนั่น

 

 

หากเชียนลั่วเฉิงไม่ทำร้ายเชียนเยี่ยเสวี่ย ไม่บีบบังคับฉู่ฮองเฮาจนตาย ตระกูลฉู่ไหนเลยจะกบฏเช่นนี้!

 

 

เชียนเจิ้นหยางก่นด่าสาปแช่งเชียนลั่วเฉิงอยู่ในใจ ทว่ากลับลืมไปว่า เชียนลั่วเฉิงทำเช่นนี้กับเชียนเยี่ยเสวี่ยก็เพื่อคงไว้ซึ่งบัลลังก์มังกรให้กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเช่นเขา เชียนเจิ้นหยาง

 

 

จะว่าไป เขาก็สมกับเป็นลูกชายคนดีของเชียนลั่วเฉิงยิ่งนัก พ่อลูกเย็นชาไร้หัวใจ ไร้คุณธรรมแล้งน้ำใจเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน!

 

 

ข่าวการสั่นคลอนของแคว้นฉินจื้อแพร่สะพัดออกไป ทำให้หัวใจประชาชนต่างก็หวั่นวิตกไม่สงบสุข

 

 

ส่วนเชียนลั่วเฉิงที่นอนอยู่ในสุสานร้างนั้น ก็รับรู้สถานการณ์ความเคลื่อนไหวของฉินจื้อผ่านชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมา

 

 

นี่แคว้นเขากำลังจะล่มสลายอย่างนั้นหรือ!

 

 

ซย่าโหวจวินอวี่ จิ้งจอกเฒ่า! ข้ารู้ตั้งแรกแล้วเจ้ามันไม่มีเจตนาดี แล้วก็เป็นอย่างที่ข้าคิดเอาไว้ เจ้าทำศึกนี้ได้อย่างแม่นยำ! ต้องการที่จะให้ข้าพ่ายแพ้ ไม่มีทางเสียหรอก!

 

 

เชียนลั่วเฉิงร้อนรนจนแทบจะทนไม่ไหว

 

 

เชียนเจิ้นหยางมีความสามารถแค่ไหน เขารู้ดี

 

 

ถึงแม้รู้ทั้งรู้ว่าเชียนเจิ้นหยางมิใช่ผู้สืบทอดที่ดี ทว่าเชียนลั่วเฉิงก็ถูกความลำเอียงของตนปิดหูปิดตามานาน

 

 

ในตอนนี้เขากำลังรับผลกรรมที่ตัวเองก่อขึ้นแล้ว!

 

 

หากเชียนเยี่ยเสวี่ยยังมีชีวิตอยู่มันจะดีสักเพียงไหนกันนะ!

 

 

เชียนลั่วเฉิงยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจอย่างหนัก

 

 

ในตอนที่เขากำลังอธิษฐานต่อสวรรค์อีกครั้งนั่นเอง เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังแว่วเข้ามา

 

 

“พี่อวี้ คนผู้นั้นดูราวกับยังไม่ตาย ท่านรีบเข้าไปดูเร็ว!”

 

 

“ได้!”

 

 

มือใครบางคนจับชีพจรที่ข้อมือเชียนลั่วเฉิง เชียนลั่วเฉิงเองรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นจากปลายนิ้วนาง มันส่งไปถึงหัวใจของเขา

 

 

“เขายังมีชีวิตอยู่ หลิงเอ๋อร์ พวกเราช่วยกันแบกเขากลับไปเถอะ!”

 

 

“แต่ตัวเขาสกปรกทั้งยังเหม็นมากด้วยนะคะ!”

 

 

“หลิงเอ๋อร์ ข้าเป็นหมอ ช่วยเหลือชีวิตคนเป็นหน้าที่ข้า เห็นคนใกล้ตายแล้วข้าจะไม่ช่วยได้อย่างไร”

 

 

“ใช่ พี่อวี้ท่านพูดถูก!”

 

 

ภายหลัง เชียนลั่วเฉิงก็ถูกหามขึ้นไปบนรถม้าคันหนึ่ง โดยไม่รู้ว่าเดินทางไปไกลเท่าไหร่ รถม้าจึงหยุดลง เชียนลั่วเฉิงถูกย้ายเข้าไปไว้ในห้องห้องหนึ่ง

 

 

ขณะที่นอนอยู่บนเตียง เชียนลั่วเฉิงรู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก

 

 

ในระหว่างทางจากบทสนทนาสตรีทั้งสองคน ทำให้เชียนลั่วเฉิงได้รู้ฐานะของ ‘พี่อวี้’ ผู้นั้น

 

 

นางคืออวี้หลัวช่า!

 

 

มีอวี้หลัวช่าอยู่ เขามีโอกาสรอดแล้ว!

 

 

ตำแหน่งฮ่องเต้เขา แคว้นเขา จะต้องกลับมาเป็นของเขาดังเดิม!

 

 

ยังมีไอ้คนชั้นต่ำสองคนนั้น เขาจะต้องทรมานพวกมันให้สาสม!

 

 

“ช่าช่า ข้าไม่ต้องการพบเขา!”

 

 

เชียนเยี่ยเสวี่ยที่จับตาดูอยู่จากห้องข้างๆ ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล กล่าวเสียงด้วยเสียงทุ้มต่ำ

 

 

“ข้ากลัวว่าตัวเองจะอดรนทนไม่ไหวสังหารเขาเสีย!”