ตอนที่ 1999
นัดมาเจอกัน
หลินเฟิงทำมือสื่อว่า OK “ไม่มีปัญหา”
“ฉันต้องขออนุญาตเทพเซียวหน่อย” ป๋อจิ่วยิ้ม “เพราะลั่วลั่วเป็นคน
ของทีมเซียงหนาน พวกเราจะนัดคนก็ต้องรักษามารยาท”
หลินเฟิงหัวเราะ “นายหาเรื่องเขาชัด ๆ”
ป๋อจิ่วก็ไม่ปฏิเสธ
ชายหนุ่มนัดคนด้วยความกระตือรือร้น “ฉันจะปรึกษาในกรุ๊ปสักหน่อย
เอ่อ ฉันบอกเจ้านั่นแล้วด้วยว่า ต่อให้เจอหน้ากัน ลั่วลั่วก็เป็นได้แค่
เพื่อน เจ้านั่นรับปากด้วย บอกว่าอยากได้โอกาส ลั่วลั่วเองก็ใจกว้าง
บอกว่ามีรุ่นน้องในวงการเดียวกันมาชอบแฮปปี้ดีจะตาย”
“เจอกันตอนบ่ายเลยหรือเปล่า?” ป๋อจิ่วถามเวลา
หลินเฟิงยืนยัน เธอจึงเข้าหน้าสนทนาในวีแชทแล้วส่งข่าวบอกเซียว
จิ่ง
หลังจากการแข่ง คนจากทีมเซียงหนานยังกลับไปไม่หมด บริษัทสาขา
ที่นี่มีธุระให้จัดการ แถมเซียวจิ่งก็มีงานสัมมนาทางการแพทย์ จึง
ต้องรั้งอยู่ที่นี่ ส่วนจ้าวซานพั่งก็ต้องให้สัมภาษณ์
ตั๋วเครื่องบินกลับของทั้งสามคนมีกำหนดในวันพรุ่งนี้
ลั่วลั่วยังไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะพูดกับเพื่อนร่วมทีมยังไงเรื่องจะลาออกจาก
วงการ หากได้ออกไปเดินเล่น คงปรับอารมณ์ให้ดีขึ้นสักหน่อยได้
เมื่อเซียวจิ่งที่ได้รับข้อความ มือก็แข็งเกร็ง เขาอยู่ที่ตึกกลางของ
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในฐานะแขกพิเศษที่ต้องขึ้นบรรยายในอีกไม่ช้า
ทางด้านผู้ช่วยยืนมองเขาขึ้นเวทีอยู่ด้านข้าง เดิมคิดจะจดบันทึกเนื้อหา
ที่รุ่นพี่เซียวบรรยายสักหน่อย ไม่คิดเลยว่าเขาจะบรรยายสั้นนิดเดียว
เดิมทีทางมหาวิทยาลัยกำหนดเวลาไว้หนึ่งชั่วโมง แต่เขาแค่กางภาพ
โครงร่างสำคัญ ก่อนจะบรรยายแต่เนื้อเรื่องที่ตรงประเด็นอยู่ประมาณ
20 กว่านาที ทำให้นักศึกษาหลายคนยังฟังไม่หนำใจ
ทางมหาวิทยาลัยยิ่งยินดี เพราะเวลายิ่งสั้นก็ยิ่งดี
เมื่อจบลง พวกศาสตราจารย์ต่างเข้ามาชวนเซียวจิ่งกินข้าวด้วย ทางนี้
เองก็ไม่เคยขาดผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์
ทว่าเซียวจิ่งเก็บข้าวของเสร็จก็หันมาเอ่ยเพียงว่า “ขอโทษด้วยนะ
ครับ พอดีมีเรื่องด่วน แล้ววันหลังผมจะขอเชิญทุกท่านเองนะครับ”
ทางมหาวิทยาลัยเองอยากให้เขาอยู่ต่อ อุตส่าห์เกลี้ยกล่อมสารพัด แต่
ยังได้รับคำตอบเดิม จึงจำต้องปล่อยตัวอีกฝ่ายไป
เซียวจิ่งยังไม่ทันได้เปลี่ยนชุดกาวน์ ก็ขอกุญแจรถจากผู้ช่วย “เดี๋ยว
พรุ่งนี้คืนให้”
ผู้ช่วยเป็นผู้หญิงที่ทางบ้านมีฐานะดี ยิ้มบาง ๆ ให้ “พี่เซียวเอาไปขับ
เถอะ บ้านฉันอยู่แถวนี้ เดี๋ยวฉันมีเรื่องวิชาการที่ต้องคุยกับพวกผู้ใหญ่
ที่นี่ แต่พี่จะไปอย่างนี้จะดีเหรอคะ ทางนี้มีผู้เชี่ยวชาญในวงการแพทย์
เยอะมาก ว่าแต่จะรีบไปทำอะไรคะ แข่งเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ได้แข่งหรอก” เซียวจิ่งเอ่ยตอบเสียงเรียบ “มีคนจะไปดูตัวอีกแล้ว”
ผู้ช่วยหญิงตะลึง คิดว่าตัวเองได้ยินผิด เธอนึกถึงลูกทีมหญิงที่เคยมา
หาพี่เซียวที่มหาวิทยาลัยแล้วยิ้มให้ “เป็นหัวหน้าก็ลำบากจริง ๆ นะ
คะ ต้องเป็นห่วงเรื่องความรักของลูกทีม คงกลัวว่าเขาจะเจอผู้ชายไม่
ดีล่ะสิ”
เซียวจิ่งตอบรับสั้น ๆ ไม่พูดมากความ ผู้ช่วยหญิงมองดูแผ่นหลังเขา
อย่างไม่สนใจมาก
ได้ยินว่าเธอคนนั้นประกาศลาออกจากวงการแล้ว ต่อไปคงไม่มาอยู่
ข้างตัวพี่เซียวอีก
วงการอีสปอร์ตเป็นวงการที่เน้นเรื่องวัย เมื่อก่อนเธอเคยบอกผู้หญิง
คนนั้นเอาไว้ ต่อไปรุ่นพี่เซียวต้องทำงานในวงการแพทย์ ไม่เหมือน
พวกหล่อน
ผู้หญิงคนนั้นน่าจะฟังเอาไว้ถึงจะถูก…
ตอนที่ 2000
นางฟ้า
อากาศในช่วงต้นเดือนเมษายนของประเทศจีนเหมาะกับการนัด
หมายมาเจอกัน
เจียงเฉิงไม่ได้หนาวมากอีกต่อไป สวมแค่เสื้อกันลมเวลาออกข้าว
นอกก็เพียงพอ
ลั่วลั่วแต่งตัวสบาย ๆ เธอปล่อยผมยาวเหมือนใยไหมสยายไว้ด้านหลัง
หน้าตาที่โดดเด่นดึงดูดสายตาผู้คนได้มากมายเมื่อเดินเข้าร้านกาแฟ
เธอหันไปมอง ดึงแขนเสื้อขึ้น หลังจากมองรอบด้าน ก็กำลังคิดจะ
ส่งข้อความให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
กลับเห็นคนยกมือช่วยถือกระเป๋าที่กำลังจะหล่นให้ ในรอยยิ้มบาง ๆ
แฝงความเขินอายเอาไว้ “เทพลั่ว”
ลั่วลั่วชะงักไป มองทางผู้ชายคนนั้น อายุน้อยกว่าเธออย่างชัดเจน แต่
หน้าตาสะดุดตามาก เวลายิ้มจะเห็นฟันเขี้ยวทั้งสอง
เพื่อนของหลินเฟิงก็มีดีแบบนี้ด้วย?
“ทางซ้ายมือครับ” ชายคนนั้นพูดเพิ่มอีกประโยค ก่อนจะซุกมือลง
กระเป๋ากางเกง
ลั่วลั่วถึงเพิ่งสังเกตว่าตอนเขายืนขึ้นแล้วดูไม่เตี้ยเลย น่าจะสูงประมาณ
180 เซนติเมตร
ทั้งสองนั่งประจันหน้ากัน หนุ่มคนนี้หน้าแดง ยิ่งดูอ่อนวัยกว่าเดิม
ลั่วลั่วหัวเราะเบา ๆ “เธอน่าจะยังไม่โตนะเนี่ย”
หนุ่มคนนั้นหันมามอง “ผมโตแล้วนะครับ จะดื่มอะไรหน่อยไหม?”
“ได้” ลั่วลั่วมองใบหน้าอีกฝ่าย รู้สึกว่าตัวเองแก่แล้ว
ชายคนนั้นหยิบเมนูมา ก่อนจะผลักมาให้ “พี่สั่งเถอะ”
ตอนแรกลั่วลั่วไม่เชื่อคำพูดหลินเฟิงที่บอกว่าหนุ่มน้อยคนนี้เห็นเธอ
เป็นนางฟ้าของเขา แต่ตอนนี้เห็นท่าทางของเขาก็เชื่อแล้ว
“เธอชอบอะไร แบบหวานหรือไม่หวาน?” ลั่วลั่วพลิกหน้าเมนูพลาง
ถาม
“ไม่หวาน”
ลั่วลั่วจึงสั่งอเมริกาโนเพียวสองแก้ว มองดูหนุ่มน้อยที่ไม่ค่อยกล้า
สบตากับเธอ ยิ้มพลางเสนอว่า “เล่นเกมกันไหม?”
“ได้” เป็นนักกีฬาลีกส์อาชีพก็ดีตรงนี้ เมื่อไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรก็เล่น
เกมกัน
ลั่วลั่วเหมือนนึกอะไรออก “เพิ่มเพื่อนในวีแชทกันไหม? ยังไม่ถาม
เลยว่าเธอชื่ออะไร”
“เฟิงหยาง ชื่อไอดีก็ชื่อนี้ครับ” หนุ่มน้อยพูดจบ หน้าตาหล่อใสเริ่ม
แดงอีกครั้ง เพราะเขาไม่คิดว่านางฟ้าลั่วลั่วจะแอดวีแชทของเขา
ลั่วลั่วเคยได้ยินชื่ออีกฝ่าย ก่อนหน้านี้ก็เคยแข่งกันมาก่อน ตอนแรก
คิดว่าเขาน่าจะมีอายุหน่อย เพราะเล่นเกมได้โหดและคล่องมาก ไม่
คิดว่าตัวจริงจะเป็นแบบนี้ ว่าแล้วเชียว ห้ามตัดสินอายุ เพศ และ
หน้าตาจากวิธีการเล่นของคนในวงการอีสปอร์ต
เมื่อเพิ่มเพื่อนในวีแชทสำเร็จ ลั่วลั่วกำลังจะละมือออก ก็เห็นรูปโปร
ไฟล์ที่อีกฝ่ายใช้
รูปนั้น…เป็นรูปของเธอนั่นเอง แถมเขียนว่า ‘นางฟ้าของฉัน’
ลั่วลั่วถึงกับอึ้ง
เฟิงหยางเหมือนจะรู้สึกว่ามีตรงไหนผิดปกติ รีบยื่นมือปิดหน้าจอมือ
ถือของเธอ
ทว่าลั่วลั่วหัวเราะเบา ๆ “รูปโปรไฟล์ของฉันอันนี้ คนรุ่นเธอใช้กัน
เยอะ”
“อื้อ” เฟิงหยางหน้าแดงไปถึงลำคอ ไม่เหมาะกับบุคลิกเขาเอาเสียเลย
“พวกเราเป็นแฟนคลับพี่ทั้งทีมเลยครับ”
ลั่วลั่วยกมือถือขึ้นมาดู “งั้นฉันจะทำให้แฟนคลับเสียหน้าไม่ได้ ต้อง
เล่นดี ๆ แล้ว”
ประโยคที่พูดทำให้คลายความอึดอัดลงเยอะ เฟิงหยางเข้าหน้าเกม
พลางแอบมองคนตรงข้ามตัวเอง บอกไม่ถูกว่าดีใจเพราะเป็นแฟน
คลับหรือเพราะรู้สึกดีกับเธอมาก แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่อยากให้
เธอออกจากวงการ
เมื่อนักกีฬาอาชีพทั้งสองเข้าเล่นพร้อมกัน แถมยังมาจากคนละทีม
ย่อมเป็นที่ฮือฮาอยู่แล้ว
สองคนนี้เพิ่งเข้าห้องการแข่งไป ก็เรียกความสนใจจากแฟนคลับ
ของทั้งสองฝ่ายได้ทันที…