ตอนที่ 376 ฟางจื่อชิวกลับมาแล้ว / ตอนที่ 377 ไม่เจอกันนานเลย

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 376 ฟางจื่อชิวกลับมาแล้ว

 

 

อย่าว่าไป แม้ว่าอีลั่วเสวี่ยจะไม่ค่อยดูแลบริษัทนัก แต่เธอกลับสามารถยึดกุมงานด้านต่างๆ ของบรัทรวมทั้งข่าวสารต่างๆ ได้ทันเวลา ทั้งยังเข้าใจการทำธุรกิจมากกว่าพวกเขา ถ้าเธอทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับบริษัท บริษัทของพวกเขาต้องใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน

 

 

แต่ไม่ต้องใจร้อน เถ้าแก่ของพวกเขายังไม่จบมหาวิทยาลัย วันหน้ายังมีความเป็นไปได้อย่างไม่สิ้นสุด

 

 

ลิฟท์มาถึงชั้นที่ตั้งของบริษัทพวกเขาอย่างรวดเร็ว ทุกคนแยกย้ายกันกลับไปยังตำแหน่งของตน ทำงานตามหน้าที่ แม้ว่าอีลั่วเสวี่ยจะเป็นคนที่พูดคุยได้ง่าย แต่เมื่อเถ้าแก่อยู่ ก็ต้องทำงานให้เต็มที่

 

 

บริษัทยังจะจำเป็นต้องมีบรรยากาศในการทำงาน

 

 

อีลั่วเสวี่ยกลับไม่ดูเรื่องเหล่านี้เลย เธอตรงไปที่ห้องทำงานตนเอง เปิดดูโทรศัพท์ แล้วทำงานไปเงียบๆ ถือว่าเป็นการทำงานล่วงหน้าเถอะ วันนี้ถ้าเธอไม่มา พรุ่งนี้ก็ยังคงต้องมาดูตามปกติ

 

 

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง อีลั่วเสวี่ยจึงเดินออกมาจากห้องทำงาน มองดูบรรดาพนักงาน “ทุกคนตั้งใจทำงานหน่อย ฉันจะกลับไปก่อน” พอเธอพูดเช่นนี้ ไป๋อิ๋นซึ่งเตรียมเอาเอกสารให้เธอดูจึงชะงักทันที “ท่านประธานเดินทางปลอดภัยค่ะ”

 

 

“ท่านประธานเดินทางปลอดภัยค่ะ”

 

 

รอจนอีลั่วเสวี่ยไปแล้ว หลายคนจึงออกันเข้ามาอย่างรวดเร็ว “หัวหน้าท่าทางไม่สบายใจ” เดิมทีทุกคนเรียกอีลั่วเสวี่ยว่าท่านประธาน แต่หลังจากที่หวังเทามาก็เริ่มเรียกเธอว่าหัวหน้าตามหวังเทา เพราะการเรียกแบบนี้ดูสนิทสนมดี ทุกคนชอบ

 

 

“ฉันรู้สึกว่าวันนี้หัวหน้าใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงจัดการงานของอาทิตย์นี้จนเรียบร้อย เหมือนฟันฉับด้วยง้าว ฟาดฟันด้วยกระบี่! ฝีมือร้ายกาจจริงๆ”

 

 

“อืม ไม่แน่นะ อาจเป็นเพราะพรุ่งนี้เถ้าแก่ติดธุระมาไม่ได้ จึงมาจัดการงานล่วงหน้าจนเสร็จ ทุกคนเลิกนินทาได้แล้ว” นับจากครั้งก่อนที่อีลั่วเสวี่ยให้อภัยเธอ ไป๋อิ๋นจึงกลายเป็นแฟนคลับของอีลั่วเสวี่ยอย่างเหนียวแน่น

 

 

หวังเทาเลิกคิ้วขึ้น “ก็เป็นไปได้ ต่อให้หัวหน้าอารมณ์ไม่ดี เราก็ตั้งใจทำงานเถอะ อย่าทำให้เธอหงุดหงิด” จากนั้นทุกคนก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ตั้งใจทำงานในมืออย่างเต็มที่

 

 

พออีลั่วเสวี่ยออกมาจากบริษัทก็พบว่าบ่ายแล้ว รู้สึกหิว จึงหาอะไรกินง่ายๆ จากนั้นก็เดินเตร่อย่างไร้จุดหมาย

 

 

แม้ว่าภายนอกเธอจะไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดแดกดันของเฉวียนสือก็ตาม แต่ในใจเธอยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง ต้องแสร้งทำเป็นใจกว้าง มองด้วยความเข้าใจ ที่จริงเป็นแค่การแสดงออกด้วยความเคยชินของเธอเท่านั้นเอง

 

 

หลังจากกินข้าวเสร็จ เธอจึงเริ่มเดินช้อปปิ้ง ซื้อข้าวของต่างๆ ที่เจ้าลูกบอลเงินเห็นว่าต้องซื้อเพิ่มเข้าไว้ในคลังสินค้า ดูเหมือนต้องยุ่งกับงาน เธอจึงจะอารมณ์ดีขึ้น

 

 

อีกด้านหนึ่งทางเฉวียนหมิง

 

 

“นายน้อย นายท่านบอกว่าใกล้เวลาแล้วครับ” เหล่าเกาเคาะประตูห้องเฉวียนหมิง เดินเข้ามาแล้วพูดอย่างนอบน้อม

 

 

เฉวียนหมิงมองดูเวลาแล้วขมวดคิ้ว “ยังไม่หกโมงเลย เช้าอยู่”

 

 

“เออ นายท่านผู้เฒ่าบอกว่าตอนนี้ควรเดินทางแล้ว ไปเร็วหน่อย ไม่งั้นช่วงเวลานี้กลัวว่ารถจะติด”

 

 

เฉวียนหมิงเม้มริมฝีปาก วางของในมือลงแล้วลุกขึ้น เหล่าเกาเห็นเช่นนั้นก็ไม่พูดอะไร แล้วเดินออกมา

 

 

เฉวียนหมิงนั่งในรถของนายท่านผู้เฒ่า มือข้างหนึ่งวางบนที่เท้าแขนริมหน้าต่าง กำหมัดยันไว้ที่มุมปาก แววตาดูเลื่อนลอย ภาพนอกหน้าต่างวาบผ่านสายตาเขาไปขณะที่รถแล่นไปข้างหน้า

 

 

“เราจะไปไหนครับ?” ดูท่าไม่เหมือนไปโรงแรมหรืองานเลี้ยง ปู่ตนจะทำอะไรกันแน่?

 

 

นายท่านผู้เฒ่ายิ้ม แล้วเหลือบมองเฉวียนหมิง “ปู่ยังคิดว่าแกจะไม่ถามแล้ว”

 

 

เฉวียนหมิงดึงสายตากลับมา หันมามองปู่ตนเองด้วยแววตาสงบนิ่ง นายท่านผู้เฒ่าชะงักเล็กน้อย กระแอมแล้วพูด “จื่อชิวกลับมาแล้ว ปู่เธอเชิญให้ไปเจอกันหน่อย”

 

 

 

 

ตอนที่ 377 ไม่เจอกันนานเลย

 

 

“อย่าลืมล่ะ หลานรับปากปู่แล้วว่าจะไป หรือหลานอยากให้ปู่โงหัวไม่ขึ้นต่อหน้าตาแก่ฟาง?” ก่อนที่เฉวียนหมิงจะร้องบอกให้รถหยุด สายตาของนายท่านผู้เฒ่าทำให้เฉวียนหมิงเลิกล้มความคิด

 

 

เขาไม่รู้ว่าทำไมหลานชายตนจึงไม่ชอบไปมาหาสู่กับคนสกุลฟาง ส่วนตัวเขาเองรู้สึกว่าสองฝ่ายมีฐานะทัดเทียมกัน รวมทั้งแม่หนูสกุลฟางก็รักเฉวียนหมิง

 

 

ที่สำคัญกว่าก็คือเด็กสาวคนนี้กลับมาจากต่างประเทศ ยังเรียนวิชาแพทย์ด้วย หลานชายตนต้องการคนที่รู้จักดูแลเขาคอยอยู่ข้างๆ จึงจะได้

 

 

แม้หมอหมิงจะเป็นหมอประจำตัวของเฉวียนหมิง แต่ไม่สามารถอยู่ข้างตัวเขาตลอดเวลา มีแต่โทรเรียยกเขาหรือมาตรวจตามระยะเวลากำหนด เขาจึงจะมา จึงต้องมีคนใช้ชีวิตร่วมกับเขา คอยเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของเขา

 

 

สายตาเฉวียนหมิงเย็นชา น้ำเสียงเยือกเย็น “ปู่ครับ ผมเคารพปู่ แต่ปู่ก็ควรเคารพผมด้วย ที่ปู่ทำแบบนี้ หมายความว่าอย่างไรครับ?” ผู้หญิงคนนั้นจะกลับมาหรือไม่ เกี่ยวข้องอะไรกับเขา

 

 

ปู่อยากจะไปต้อนรับ ไปเองก็ได้ ทำไมต้องดึงเขาไปด้วย เขามีความสัมพันธ์กับเธอดีมากหรือ?

 

 

นายท่านผู้เฒ่าไม่อยากอธิบาย แกคิดว่าทั้งหมดที่ตนทำไปภายหลังเฉวียนหมิงย่อมจะเข้าใจเอง “แกรู้แค่ว่าปู่ไม่คิดทำร้ายแกก็พอแล้ว”

 

 

เฉวียนหมิงคำรามในใจ รู้สึกหดหู่สุดขีด เขาย่อมรู้ว่าปู่ไม่คิดทำร้ายเขาแน่นอน แต่ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป นั่นก็จะกลายเป็นทำลายเขาแล้ว “ปู่ครับ นี่เป็นครั้งสุดท้าย”

 

 

เฉวียนหมิงพูดจบก็ดึงสายตากลับ นายท่านผู้เฒ่าชำเลืองมองเขาอย่างรู้สึกผิด เห็นสีหน้าเฉวียนหมิงเย็นชาเฉยเมย ก็รีบดึงสายตากลับ แล้วไม่พูดอะไรอีก

 

 

เพราะเขารู้ดีว่าหลานชายตนกำลังโมโห ยังโมโหมากด้วย เวลาเช่นนี้ทำได้เพียงนิ่งเงียบ ทำเป็นว่าเห็นด้วยกับที่เขาพูด

 

 

รถจอดที่หน้าภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง เฉวียนหมิงชำเลืองมอง แล้วเดินตามปู่เข้าไปข้างในอย่างเงียบๆ

 

 

มาถึงหน้าห้องที่จองไว้แล้ว นายท่านผู้เฒ่ากดกริ่งหน้าห้องตามมารยาท ครู่หนึ่งก็มีคนมาเปิดประตู

 

 

“สวัสดีค่ะปู่เฉวียน” หญิงสาวที่เดินมาเปิดประตูยิ้มร่า ชุดราตรีสีขาวทำให้ร่างที่สวยงามของเธอดูโดดเด่นยิ่งขึ้น คอเสื้อด้านหน้าต่ำมาก จนทรวงอกแทบจะทะลักออกมา ดูเซ็กซี่มาก

 

 

ทั้งหมดนี้เฉวียนหมิงเหมือนมองไม่เห็น นิ่งเงียบไม่พูดอะไร

 

 

เธอคือฟางจื่อชิว รูปหน้าเรียว ดวงตาฉายประกายที่มั่นใจแต่อ่อนโยน บนร่างมีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจางๆ เหมือนกลิ่นห้องยาในโรงพยาบาล แม้จะใช้น้ำหอมก็ยังรู้สึกถึงกลิ่นนั้นได้

 

 

เดิมทีนายท่านผู้เฒ่าอารมณ์ไม่ดี แต่พอเห็นเธอก็มีรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความเมตตาผุดขึ้นบนใบหน้า “จื่อชิว สวยกว่าในรูปเสียอีก เฉวียนหมิง มาทักทายหน่อยสิ”

 

 

“ไม่ใช่คนแปลกหน้าสักหน่อย คงไม่จำเป็นหรอกครับ” น้ำเสียงเฉวียนหมิงเรียบเฉย มองผ่านร่างฟางจื่อชิวด้วยสายตาเฉยเมย

 

 

แต่คำพูดเขาฟางจื่อชิวฟังแล้วกลับมีความรู้สึกอีกแบบ นั่นคือเฉวียนหมิงไม่ได้ถือว่าเธอเป็นคนแปลกหน้า

 

 

นายท่านผู้เฒ่าขมวดคิ้ว ฟางจื่อชิวเปิดทางให้ “เฉวียนหมิงพูดถูกค่ะ เราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก ยังเป็นเพื่อนนักเรียนกันด้วย ที่จริงไม่ต้องเกรงใจหรอก ปู่เฉวียน เชิญเข้ามาข้างในค่ะ ปู่หนูรออยู่ก่อนแล้ว”

 

 

ไม่ต้องเสแสร้งแสดงละครหรอก เฉวียนหมิงนึกในใจ เข้าไปในห้องด้วยความไม่เต็มใจ แต่ฟางจื่อชิวกลับไม่ได้สังเกตแม้แต่น้อย

 

 

เป็นเพราะใบหน้าเฉวียนหมิงดูเย็นชาตลอดมา ดูไม่ออกว่ากำลังพอใจหรือโมโห

 

 

ฟางจื่อชิวปิดประตู แล้วเดินอยู่ข้างๆ เฉวียนหมิง เดินไปพร้อมเขา “เฉวียนหมิง ไม่เจอกันนานเลย” พูดจบก็ยื่นมือออกมา

 

 

เฉวียนหมิงหรี่ตาลง ยื่นมือออกไป สัมผัสกลางฝ่ามือเธอเบาๆ ไม่รอให้เธอกุมมือก็ชักมือกลับ “ไม่เจอกันนานทีเดียว”