ตอนที่ 666 ฉันไม่ใช่คนธรรมดา / ตอนที่ 667 ไม่ได้แตกต่างกัน

ตามใจรัก สาวนักแฮก

ตอนที่ 666 ฉันไม่ใช่คนธรรมดา 

 

 

“ว่ามาเลยค่ะ!” เสี่ยวชี่รีบพยักหน้า “ไม่ว่าเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ฉันจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่” 

 

 

“ทำไมหลินเซวียนถึงทำการทดลองกับคุณ ร่างกายคุณมีความลับอะไรซ่อนอยู่อย่างนั้นเหรอ” ซิงเหอถามตามตรง เสี่ยวชี่ชะงักเพราะเธอไม่คิดว่าจะเป็นคำถามนี้ 

 

 

แม้ว่าเมื่อวานจะมีหลายคนถามเธอเรื่องนี้แต่เธอไม่คิดว่าซิงเหอจะสนใจเช่นกัน เธอไม่ได้ให้คำตอบเรื่องนี้กับใคร แต่นี่คือซิงเหอ… 

 

 

“ทำไมเหรอ มีอะไรที่คุณบอกไม่ได้งั้นเหรอ” ซิงเหอกดดันเมื่อเห็นความลำบากใจปรากฏขึ้นบนสีหน้าของเด็กสาว 

 

 

เสี่ยวชี่ส่ายหัว “ไม่ค่ะ ฉันแค่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ฉันกลัวว่าคุณจะไม่เชื่อเพราะมันฟังดูเหลือเชื่อเกินไป” 

 

 

“ลองว่ามาสิ” ซิงเหอตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น 

 

 

เสี่ยวชี่สัมผัสได้ถึงความมั่นใจที่ซิงเหอมีต่อเธอ เธอเก็บความลับนี้มานานหลายปีและเธอหวังว่าจะพบใครสักคนที่เธอจะสามารถแบ่งปันเรื่องนี้ให้คนคนนั้นฟังได้และซิงเหอดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เสี่ยวชี่ตัดสินใจได้ในทันที 

 

 

เธอมองไปรอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอื่นก่อนจะเริ่มพูดอย่างช้าๆ “คุณเซี่ย ร่างกายของฉันมีความลับอยู่มากมายจริงๆ ค่ะเพราะฉันไม่ใช่คนธรรมดา!” 

 

 

เธอคิดว่าซิงเหอจะต้องตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนี้แต่ซิงเหอกลับไปแสดงท่าทีอะไร อันที่จริงซิงเหอดูเหมือนจะคาดเดาทุกอย่างเอาไว้แล้ว 

 

 

“พูดต่อได้เลย” ซิงเหอกระตุ้น เสี่ยวชี่รู้สึกกล้าหาญมากขึ้นและความกดดันที่มีอยู่ลดน้อยลง 

 

 

“ที่บอกว่าฉันไม่ใช่คนธรรมดาเพราะคุณพ่อของฉัน เขา… เขาเป็นนักชีววิทยาที่เก่งกาจมากและมีความเชี่ยวชาญด้านการตัดแต่งพันธุกรรม ทำให้ร่างกายของฉันได้รับการพัฒนาทางพันธุกรรมด้วยฝีมือของคุณพ่อ…” 

 

 

เสี่ยวชี่แอบเหลือบมองซิงเหอแต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าอีกฝ่ายยังคงไม่สะทกสะท้าน จนดูราวกับเธอกำลังนั่งฟังบทสนธนาธรรมดาอยู่ 

 

 

“การตัดแต่งพันธุกรรมไม่ใช่เรื่องใหม่” ซิงเหออธิบาย 

 

 

เสี่ยวชี่พยักหน้า “ฉันเข้าใจค่ะ แต่ว่าคุณพ่อของฉันแตกต่างออกไป เขาเชี่ยวชาญเรื่องนี้มานานหลายปีแล้ว และสิ่งที่เขาทำคือการดัดแปลงอายุไขของฉัน ทำให้มันยืนยาวขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเขาบอกว่าเขาไม่ใช่คนบนโลกนี้ถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าคุณพ่อหมายความว่ายังไงก็ตาม แต่เขาหายตัวไปจากโลกนี้หลังจากนั้นไม่นาน และไม่กี่ปีหลังจากที่คุณพ่อหายตัวไป พวกตระกูลหลินก็ค้นพบตัวคุณแม่และฉัน ตอนนั้นฉันยังเด็ก ทำให้เผลอบอกความลับของคุณพ่อไป และคุณก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น พวกมันจับตัวฉันไว้เพื่อทำการทดลองเรื่อง… เพื่อดูว่าผลงานของคุณพ่อจะสามารถลอกเลียนแบบได้ไหมและเอาไปใช้กับพวกมัน! แต่หลังจากผ่านไปหลายปี พวกมันก็ยังไม่สามารถค้นพบอะไรได้” 

 

 

ไม่เพียงเท่านั้น ร่างกายของเธอยังได้รับความเสียหายระหว่างการทดลอง ถ้าไม่ได้ยีนส์ที่คุณพ่อของเธอเป็นคนจัดการ ป่านนี้เธอคงตายจากการถูกทรมานไปนานแล้ว ความเกลียดชังกลับมาปรากฏในดวงตาของเสี่ยวชี่เมื่อเธอนึกถึงช่วงเวลาที่ถูกตระกูลหลินจับไปทดลองอย่างโหดเ**้ยม 

 

 

ซิงเหอจ้องมองอีกฝ่ายและถามขึ้น “คุณพ่อของคุณหายตัวไปเมื่อสิบสองหรือสิบสามปีก่อนใช่ไหม” 

 

 

เสี่ยวชี่ตาเบิกโพลงด้วยความช็อค “คุณ… คุณรู้ได้ยังไง” 

 

 

“เขายังทิ้งของที่เหมือนโลหะสี่เหลี่ยมสีดำไว้กับคุณด้วยใช่ไหม” ซิงเหอถามอีกครั้ง 

 

 

เสี่ยวชี่มองวิงเหอด้วยความรู้สึกที่คล้ายความหวาดกลัว “คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง! พวกตระกูลหลินบอกคุณงั้นเหรอ มีแค่ฉันกับแม่และตระกูลหลินเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้…” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 667 ไม่ได้แตกต่างกัน 

 

 

“เอาเป็นว่าพวกเราก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก” ซิงเหอตอบอย่างเชื่องช้า เสี่ยวชี่อ้าปากค้าง ซิงเหอกำลังพูดถึงอะไร! พวกเธอจะไม่แตกต่างกันได้ยังไง 

 

 

“คุณพ่อ… คุณพ่อของคุณ…” 

 

 

“คุณแม่ของฉัน” ซิงเหอตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “เธอหายตัวไปเมื่อประมาณสิบสามปีก่อน เหมือนกับคุณพ่อของคุณ ท่านบอกว่าท่านไม่ใช่คนบนโลกนี้” 

 

 

เสี่ยวชี่อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เธอไม่คาดคิดว่าซิงเหอจะผ่านประสบการณ์แบบเดียวกันกับที่เธอเจอ เธอคิดว่าเธอเป็นเพียงคนเดียวในโลกที่พบเจอประสบการณ์แบบนี้ 

 

 

“ฉันไม่รู้เลยว่าคุณก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน…” เสี่ยวชี่เอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งด้วยความไม่อยากเชื่อ 

 

 

ซิงเหอพยักหน้า “ตอนแรกฉันก็คิดว่าเป็นฉันคนเดียวเหมือนกัน แต่ฉันได้เจอมาหลายคนแล้ว ถ้ารวมฉันด้วย คุณเป็นคนที่หก” 

 

 

“หก!” เสี่ยวชี่อ้าปากค้าง “มีคนอย่างพวกเราอย่างน้อยหกคน” 

 

 

“ถูกต้อง ฉันอยากตามหาพ่อแม่ของพวกเรา และเพื่อที่จะทำแบบนั้น พวกเราต้องค้นหาความลับของพวกเขา บอกฉันทุกเรื่องที่คุณรู้ที” 

 

 

นั่นคือสิ่งที่เสี่ยวชี่ต้องการเช่นกัน เธอต้องการหาที่อยู่ของคุณพ่อเธอ ด้วยความช่วยเหลือของซิงเหอ ความปรารถนาของเธออาจจะกลายเป็นจริง สัญชาตญาณบอกเธอว่าซิงเหอคือคนที่เธอสามารถพึ่งพาได้ ซิงเหอจัดการทำลายสมาคมไอวีและโค่นตระกูลหลินลงได้ แล้วจะมีอะไรที่เธอทำไม่ได้อีกล่ะ 

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ในเมื่อซิงเหอเป็นคนแบบเดียวกับเธอ ความน่าเชื่อถือของเธอก็ไม่ต้องพูดถึง 

 

 

“คุณเซี่ยคะ ที่จริงฉันก็รู้อะไรไม่มากนัก ฉันรู้แค่ว่าคุณพ่อของฉันเป็นคนที่พิเศษ เขาทิ้งก้อนโลหะปริศนาสีดำเอาไว้และบอกว่ามันจะช่วยให้ฉันรอดพ้นจากความตายได้ในอนาคต เขาบอกแบบนั้นว่าฉันจะสามารถรอดพ้นจาหายนะครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกไม่นานได้ ฉันไม่รู้เรื่องนอกเหนือจากนั้น บางทีคุณแม่ฉันอาจจะรู้มากกว่านี้ก้ได้ ฉันจะถามคุณแม่ให้และถ้าได้ข้อมูลอะไรเพิ่มขึ้นแล้วฉันจะบอกคุณ” 

 

 

“ขอบคุณ” ซิงเหอพยักหน้า “ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดเล็กน้อยแค่ไหน อย่าลืมบอกฉันให้หมด เพราะฉันกลัวว่าเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่อาจจะไม่ใช่เรื่องโกหกก็ได้” 

 

 

เสี่ยวชี่พยักหน้าด้วยท่าทีจริงจังและให้คำมั่น “ฉันจะรีบถามคุณแม่ให้เร็วที่สุดค่ะ! ถ้าคุณยังต้องการความช่วยเหลือจากฉันละก็มาหาฉันได้เลยนะคะ” 

 

 

ความปลอดภัยของโลกไม่ใช่ความรับผิดชอบของเธอแต่เธออยากมีส่วนร่วมแม้เพียงเล็กน้อยที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยของมันเอาไว้ เธอไม่ต้องการให้อะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับผู้อาวุโสเฉินและนายหญิงเฉินผู้เป็นคนมอบชีวิตใหม่ให้กับเธอ… 

 

 

… 

 

 

ซิงเหอและตระกูลสีไมได้อยู่ที่บ้านพักตระกูลเฉินนานนัก แต่พวกเขาได้ข้อมูลใหม่มากมายในการมาเยี่ยมเยือนครั้งนี้ 

 

 

ราวกับชะตากรรมที่ถูกกำหนดเอาไว้ พวกเขาบังเอิญพบกับเฉินหรูและถงเยียนที่เดินทางมาถึงในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางออกไป 

 

 

การปะทะกันอย่างฉุกละหุกทำให้ทั้งสองฝ่ายชะงัก จังหวะที่เฉินหรูเห็นพวกเขา เธอดึงตัวถงเยียนและรีบเดินผ่านทางเข้าไปในภายใน 

 

 

พ่อบ้านที่กำลังปรนนิบัติตระกูลสีอยู่มองเห็นการเคลื่อนไหวของพวกเธอและรีบเข้าไปขว้างทางเอาไว้ทันที “พวกคุณสองคนเข้าไปไม่ได้นะครับ นายท่านเฉินบอกว่าท่านไม่ต้องการให้ใครเข้าไปรบกวนทั้งสิ้น ดังนั้นช่วยกลับไปด้วยครับ” 

 

 

ถงเยียนชี้หน้าซิงเหอและร้องถาม “แต่คนพวกนี้เพิ่งจะออกมานี่ แล้วทำไมพวกมันถึงได้รับอนุญาตให้เขาไปรบกวนคุณตาได้ล่ะ” 

 

 

พ่อบ้านหน้านิ่วเมื่อเห็นท่าทีไร้มารยาทของเธอและถอนหายใจ “นายท่านเฉินกำลังอ่อนล้าจากการพบปะกับแขกกลุ่มนี้ ดังนั้นท่านจึงไม่ต้องการพบแขกท่านใดอีก ช่วยกลับไปด้วย…” 

 

 

“คุณตาจะปฏิเสธไม่เจอพวกเราได้ยังไง นี่ไม่ใช่ความผิดของพวกเราแท้ๆ แต่เราก็ยังอุตส่าห์มาที่นี่เพื่อขอโทษ ไม่ว่ายังไงคุณตาก็เป็นคนเลี้ยงดูพวกเรามา เขาไม่มีทางเมินพวกเราแบบนี้! ออกไปให้พ้นทางฉันซะ พวกฉันต้องได้พบคุณตาวันนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคุณตาจะเมินใส่พวกเราแบบนี้ได้!”