บทที่ 631 เสนอบริการในฐานะหญิง

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation บทที่ 631 เสนอบริการในฐานะหญิง

 

“ในเมื่อตอนนี้ซิงเอ๋อร์มิสามารถที่จะเข้าไปในสระสวรรค์ได้ เราก็จะมีที่ว่างอยู่ที่หนึ่ง” เจ้าซีกล่าว

 

จากนั้นเขาก็หันไปมองโหลวหลานจีแล้วกล่าวต่อไปว่า “เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านต้องการที่จะเข้าฝึกฝนในสระสวรรค์แทนเธอหรือไม่ ท่านผู้นํานิกายโหลว”

 

“ข-ข้านะ…” โหลวหลานจีชี้ไปที่ตัวเองอย่างไม่รู้ตัวพร้อมกับสีหน้าตกตะลึง เห็นได้ชัดเจนว่าไม่อยากจ เชื่อ

 

เจ้าซีพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เอ้อ เจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่นี่ที่สามารถเข้าไปได้ และมันยุ่งยากเกินไปที่จะหาคนอื่นมาแทนในตอนนี้”

 

“ข-ขอบคุณที่ให้โอกาสข้า ผู้อาวุโสซี” โหลวหลานจีโค้งคํานับเขาหลังจากนั้น

 

“มิต้องพูดถึงแล้ว” เขาตอบด้วยรอยยิ้ม

 

ในเวลาต่อมา ซีหวังก็พูดขึ้นว่า “ข้าจะไปเตรียมตัวสําหรับการเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์กลาง”

 

“ข้าก็เช่นเดียวกัน ข้ามีงานต้องทําอีกมาก ถ้าหากข้าต้องการที่จะออกจากทวีปตะวันออกสักสองสามวัน” เจ้าซีกล่าว

 

“ข้าจะให้คนรับใช้วจัดห้องให้เจ้า”

 

ซูหยางพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “เจ้าสามารถที่จะจัดห้องไว้สามห้อง ห้องหนึ่งสําหรับศิษย์จี ห้องหนึ่งสําหรับเยี่ยนเยี่ยน ส่วนข้านั้นจะอยู่ห้องเดียวกันกับโหลวหลานจีและศิษย์เฉิน เพราะว่าพวกเธอต้องเตรียมตัวเข้าสระสวรรค์”

 

“คือ ทําไมพวกเขาจึงต้องมีการเตรียมตัวสําหรับ… โอ..” เจ้าซีพลันนึกได้ถึงความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังคําพูดของซูหยางกลางคัน จนทําให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วนหลังจากนั้น

 

“เอาล่ะ สามห้องก็สามห้อง”

 

อย่างไรก็ตามทันใดนั้นศิษย์จีก็พูดขึ้นว่า “ท่านเจ้า เพียงสองห้องก็พอ ข้าก็จะนอนในห้องเดียวกับท่านผู้นำนิกายเช่นเดียวกัน”

 

“…” เจ้าซีพูดไม่ออก

 

“เจ้ามั่นใจรึ ศิษย์จี เหตุผลเดียวที่พวกข้าอยู่ห้องเดียวกันก็เพราะว่าพวกข้าเป็นผู้ฝึกวิชาคู่ ส่วนเจ้านั้นอยู่ในสาขาอื่น…” โหลวหลานจีกล่าวกับเธอ

 

ศิษย์จีพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้ารู้ดีถึงสิ่งที่จะตามมา ท่านผู้นํานิกายโหลว แม้ว่าข้าจะเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธแบบทั่วไป แต่ข้าก็ยังต้องการที่จะเสนอบริการให้แก่ท่านผู้นํานิกายซูในฐานะหญิงที่หลงไหลในตัวเขา”

 

เจ้าซีและซีซิงฟางรู้สึกได้ว่าตนเองนั้นอ้าปากค้างหลังจากที่ได้ยินคําพูดของศิษย์ และแม้แต่โหลวหลานก็ยังอดชื่นชมในความกล้าหาญของเธอไม่ได้

 

“ถ้าเจ้าพูดเช่นนั้นข้าก็มิอาจจะปฏิเสธได้” ซูหยางกล่าวกับเธอด้วยรอยยิ้มเย็นบนใบหน้า

 

“ขอบคุณท่านผู้นํานิกาย…”

 

“แล้วข้าล่ะ” เยี่ยนเยี่ยนพูดขึ้นบ้าง “ข้าก็ต้องการที่จะนอนห้องเดียวกับอาจารย์เช่นเดียวกัน”

 

อย่างไรก็ตามซูหยางรีบกล่าวว่า “เจ้า…เจ้ายังเด็กเกินไป เยี่ยนเยี่ยน”

 

“ทําไมอายุของข้าจึงมีความเกี่ยวข้องด้วย” เยี่ยนเยี่ยนเอียงคอด้วยท่าทางงงงวย

 

“ถ้าเจ้ายังมีเข้าใจว่าทําไมพวกเราจึงนอนด้วยกัน แสดงว่าเจ้ายังเด็กเกินไปที่จะเข้าร่วม” โหลวหลานจีกล่าวกับเธอ

 

เยี่ยนเยี่ยนพูดไม่ออกจริงๆ ไม่ใช่ว่าพวกเขาแค่ไปนอนด้วยกันเหรอ ทําไมจึงเกี่ยวข้องกับการที่เธอนั้นเป็นผู้ใหญ่หรือไม่ด้วย

 

“เอ้อ…ถ้าเจ้ามต้องการที่จะนอนคนเดียว เจ้าสามารถมานอนกับข้าได้” ซีซิงฟางพลันแนะนําเธอ

 

เยี่ยนเยี่ยนมองไปยังซีซิงฟางด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนที่จะส่ายหน้า “ไม่ ข้าต้องการที่จะนอนกับอาจารย์”

 

ซีซิงฟางรู้สึกเหมือนกับว่าความภาคภูมิใจของเธอนั้นได้รับความเสียหายเมื่อเยี่ยนเยี่ยนปฏิเสธคําเชื้อเชิญของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเชื้อเชิญคนอื่นมานอนกับเธอที่ห้อง แม้ว่าเยี่ยนเยี่ยนจะเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ นั่นก็ยังทําให้รู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างยิ่ง

 

“ข้าเข้าใจแล้ว…” ซีซิงฟางได้แต่ตอบสนองด้วยรอยยิ้มแข็งที่อบนใบหน้าเท่านั้น

 

“เอาอย่างงี้ไหม เยี่ยนเยี่ยน” ซูหยางพลันพูดกับเธอ “วันนี้เจ้านอนคนเดียวไปก่อน แล้วพรุ่งนี้เรานอนด้วยกัน”

 

หลังจากครุ่นคิดชั่วขณะเยี่ยนเยี่ยนก็พยักหน้า แม้ว่าเธอจะไม่ชอบความรู้สึกถูกทอดทิ้ง แต่เธอก็ไม่ต้องการที่จะเป็นศิษย์ที่ไม่เชื่อฟัง ดังนั้นเธอจึงได้แต่อดทนไว้สําหรับวันนี้

 

“ขอบคุณเยี่ยนเยี่ยน” ซูหยางกล่าวกับเธอ

 

ในเวลาต่อมา ซีซิงฟางก็กล่าวกับเยี่ยนเยี่ยนว่า “มากับข้า ข้าจะพาเจ้าไปที่ห้อง”

 

เมื่อซีซิงฟางและเยี่ยนเยี่ยนออกไปจากห้องแล้ว หญิงรับใช้สาวสวยก็เข้าไปในห้องเพื่อที่จะพาซูหยางและเหล่าหญิงสาวไปยังห้องที่มีเตียงใหญ่ที่สุดและแข็งแรงที่สุดในอาคาร

 

“ข้ามิอยากเชื่อว่าข้าจะได้มาร่วมฝึกคู่ที่บ้านตระกูลซีจริงๆ…” โหลวหลานจีแทบจะไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ที่พลิกผันที่พวกเธอเผชิญพบได้

 

แต่สําหรับบรรดาศิษย์แล้ว พวกเขากลับรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมฝึกคู่กับซูหยางมากกว่าสิ่งอื่นใด

 

“ถ้าท่านแขกผู้มีเกียรติต้องการรอะไร ผู้ต่ําต้อยคนนี้จะรออยู่ที่ด้านนอก” คนรับใช้พูดกับพวกเขาพร้อมกับโค้งคํานับ

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่คนรับใช้หันกาย เสียงของซูหยางก็ดังขึ้นมาว่า “เจ้าต้องการที่จะเข้าร่วมกับพวกข้าหรือไม่”

 

“…ขออภัย”

 

คนรับใช้หันพร้อมกับสีหน้างุนงง เช่นเดียวกันกับโหลวหลานจีและศิษย์

 

“ข้าเห็นร่างกายของเจ้ากระสับกระส่ายอยู่ในตอนนี้ ดังนั้นถ้าเจ้าต้องการที่จะเข้าร่วมกับพวกเรา ข้าย่อมไม่ถือ ยิ่งมากยิ่งสุขสันต์เท่านั้นเอง” ซูหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

 

“ต-แต่ข้าทําเช่นนั้นไม่ได้…”

 

“มีอะไรรึ ข้าคิดว่าข้าได้ยินเจ้าบอกว่า หากพวกเราต้องการอะไรให้บอกให้เจ้ารู้มิใช่รี”

“แม้ว่านั่นจะเป็นจริง แต่ข้ามิกล้าทําเช่นนั้นในที่พักของท่านเจ้า…” คนรับใช้เผยรอยยิ้มขึ้นขมให้กับเขา

 

หากเจ้าซีรู้ถึงการกระทําอื้อฉาวของเธอขณะทํางาน การสูญเสียหน้าที่การงานนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ควรกังวลน้อยที่สุดแล้ว

 

“เจ้าก็ยังทํางานในฐานะคนรับใช้อยู่ ด้วยการ”รับใช้”ข้า ถ้าเจ้าซีหรือใครก็ตามมีปัญหากับเรื่องนี้ ข้าก็จักอธิบายให้พวกเขาเอง ดังนั้นเจ้ามจําเป็นต้องที่จะกังวลในเรื่องการลงโทษใด ข้าสัญญากับเจ้าได้ในเรื่องนี้”

 

“จริงรึ… ท่านจะทําเช่นนั้นให้กับข้า คนรับใช้ที่ท่านมิเคยพบเห็นมาก่อน” เธอถามเขา

 

ซูหยางพยักหน้าและกล่าวด้วยรอยยิ้มหล่อเหลาว่า “ฐานะของเจ้านั้นมีมีความเกี่ยวพันใด ข้าเพียงเห็นแต่สาวสวยคนหนึ่งที่รายล้อมไปด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว ดังนั้นข้าจึงต้องการที่จะช่วยเจ้าคลายความเครียดนั้น”

 

เมื่อได้ยินคําพูดของเขา หญิงรับใช้ก็หน้าแดง มีข้อกําหนดอย่างหนึ่งสําหรับการทํางานในฐานะคนรับใช้ของตระกูลซีก็คือ พวกเธอต้องอาศัยอยู่ในอาคารเดียวกันเพื่อให้เกิดความสะดวกและมีประสิทธิภาพสําหรับงานของพวกเขา และแม้ว่าการทํางานให้กับตระกูลซีนั้นอาจจะได้รับผลตอบแทนที่มากมายและรู้สึกภาคภูมิใจ แต่ก็ทําให้พวกเขารู้สึกโดดเดี่ยวเกือบตลอดเวลา เพราะว่าคนรับใช้นั้นแทบจะไม่มีเวลาว่างให้กับตัวเอง และแม้ว่าจะมีเวลาว่างพวกเขาก็จะไม่มีแรงทําอย่างอื่นอีกนอกจากการนอนหลับ

 

หลังจากที่เงียบไปชั่วขณะหญิงรับใช้ก็พยักหน้าด้วยท่าทางเขินอาย

 

“มาที่นี่สิ” ซูหยางกล่าวกับเธอ

 

จากนั้นหญิงรับใช้ก็ทําการปิดล็อกประตูด้านหลังเธอก่อนที่จะเดินมาที่เตียง

 

“นี่เป็นครั้งแรกของข้า นายน้อย…” หญิงรับใช้ตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อซูหยางคลายเสื้อผ้าของเธอ

 

“ข้าจะเป็นผู้นํา เพียงทําตามทิศทางการเคลื่อนไหวของข้าและเพลิดเพลินไปกับความสุขสันต์”

 

หญิงรับใช้พยักหน้าก่อนที่ซูหยางจะวางเธอลงบนเตียงใหญ่นั้น

 

สองสามอึดใจต่อมา หญิงรับใช้ก็เริ่มส่งเสียงครวญครางด้วยความสุขสันต์ ในขณะที่เหล่าหญิงสาวคนอื่น บนเตียงพากันจ้องมองด้วยสายตาหลงไหล