บทที่ 1061 เปิดใช้งานค่ายกล

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1061 เปิดใช้งานค่ายกล

ท่าทางของฮวาอิ่งดูดุร้ายขึ้นในทันใด ตะคอกออกมาว่า “ข้าไม่ใช่ยายเฒ่า” “เจ้าไม่ใช่ยายเฒ่า หรือว่าเจ้าจะเป็นตาเฒ่า? น่าเกลียดจนน่าขยะแขยง”

ผู้อาวุโสโหรงและผู้อาวุโสฉีพยายามดิ้นรนและระงับความกลัว

ค่ายกลทำลายวิญญาณโบราณนี้ก็ไม่รู้ว่าจะสุดยอดถึงเพียงไหน แต่ความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนนั้นเป็นที่ประจักษ์อย่างแท้จริง

จักรพรรดิน้ำแข็งด่านางว่าเป็นยายเฒ่า เป็นผู้หญิงน่าเกลียด พวกเขากลัวเหลือเกินว่าหากผู้หญิงคนนี้โกรธขึ้นมา ไม่แน่นางอาจจะสังหารจักรพรรดิน้ำแข็ง

หากจักรพรรดิน้ำแข็งตายอยู่ที่นี่ เกรงว่ารัฐอี้และรัฐปิงอาจจะมีสงครามเกิดขึ้น

แต่ใครจะไปรู้ ฮวาอิ่งที่กำลังโกรธอยู่กับสางผมอันด้านหลังของตนเองอย่างงดงาม และกล่าวออกมาอย่างชั่วร้าย

“มันก็น่าขยะแขยงอย่างที่เจ้าพูด เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดใบหน้างดงดงามของข้าจึงมีสภาพเหมือนซากศพเหมือนตอนนี้? ฮึฮึฮึ……เพราะข้าต้องการทำให้เจ้าขยะแขยงไงเล่า”

ผู้อาวุโสโหรงและผู้อาวุโสฉีตกตะลึง

สมองของนางมีปัญหางั้นหรือ?

เพื่อทำให้ผู้อื่นรังเกียจ ถึงกับทำลายใบหน้าอันงดงามของตัวเองจนมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ ดูไม่ได้เช่นนี้เลยงั้นหรือ

แต่ดูเหมือนว่ากู้ชูหน่วนจะชินกับมันแล้ว

ความคิดของผู้หญิงบ้าผู้นี้ เดิมทีมันก็แปลกประหลาดจากคนทั่วไปอยู่แล้ว

ดังนั้นการที่จะรู้ว่าแม่ผู้ให้กำเนิดคือใครจากปากของนาง เรื่องนั้นคงไม่มีทาง ไม่สู้ใช้โอกาสตอนที่นางยังบาดเจ็บสังหารนางเลยจะดีกว่า

กู้ชูหน่วนท่องคาถาอยู่เงียบ ๆ สัตว์เทพโบราณจำนวนมากปรากฏออกมาจากค่ายกลทำลายวิญญาณ

มีนกฟีนิกซ์ เสือขาว เต้าตี้ เต็งงู บีฟาง และอื่น ๆ อีกมากมาย

พลังของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แต่ละตัวเพียงพอที่จะทำลายล้างโลก

สัตว์เหล่านั้นส่งเสียงร้องดังลั่น พุ่งเข้าไปสังหารฮวาอิ่ง

ดวงตาของฮวาอิ่งเย็นเยือก จากบาดแผลตรงช่องท้องของนาง ทำให้พลังจำนวนมากหลั่งไหล่ออกมา และหมอกพิษเมื่อครู่ก็ส่งผลกระทบกับนางไม่น้อย

ไอ้สารเลวนี่ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อจะสังหารนาง

“คิดจะใช้สัตว์เทพโบราณในการสังหารข้า ฮึ……ฝันไปเถอะ ยัยสารเลวตัวน้อย มาดูกันว่าข้าจะฉีกสัตว์เทพโบราณให้แหลกสลายด้วยวิธีใด”

“บูม……”

พลังจากหลายทิศทางเข้าปะทะกัน ส่องประกายเป็นแสงอันเจิดจ้า เสียงระเบิดดังลั่นทำให้แก้วหูของเหล่าองครักษ์สะเทือนจนเลือดออก

ผู้อาวุโสโหรง ผู้อาวุโสฉีและพวกของกู้ชูหน่วนเองก็ปิดหูของพวกเขาไว้

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกเจ็บปวด

“บูม บูม บูม……”

“ปัง ปัง ปัง……”

ฮวาอิ่งต่อสู้กับสัตว์เทพหลายตัว แสงสว่างนั้นจ้าเกินไปทำให้พวกเขาไม่สามารถลืมตาดูการต่อสู้ซึ่งอยู่ตรงหน้าได้

องครักษ์จำนวนหนึ่งพยายามลืมตาขึ้นมาเพื่อตรวจสอบผลการต่อสู้ แต่แสงขาวเหล่านั้นกลับทำให้พวกเขาตาบอด

ผู้อาวุโสโหรงตะโกนออกมาว่า “ปิดหูเอาไว้ อย่ามองไปทางพวกเขาเป็นอันขาด”

กู้ชูหน่วนอดทนต่อเสียงที่ดังกึกก้อง นางยังคนท่องคาถาของนางต่อไปเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของค่ายกลทำลายวิญญาณโบราณให้สูงขึ้น

หัวใจของผู้อาวุโสระดับหกหลายคนเต้นแรงขึ้นมาจนถึงลำคอ

การต่อสู้ในค่ายกลทำลายวิญญาณนั้นรุนแรงเกินไป

แสงป้องกันที่ปกคลุมค่ายกลทำลายวิญญาณบิดเบี้ยวเนื่องจากผลกระทบจากการต่อสู้

พวกเขากลัวว่าค่ายกลทำลายวิญญาณจะถูกทำลายและผู้หญิงบ้าคนนั้นจะหลุดออกมา

หากนางหลุดออกมาได้จริง ต่อให้พวกเขาทุกคนร่วมมือกันก็ไม่เพียงพอที่จะจบชีวิตของนาง

“จักรพรรดิน้ำแข็ง ต้องการให้พวกข้าช่วยหรือไม่”

เมื่อเห็นสัตว์เทพโบราณกำลังถูกนางไล่ต้อน กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ค่ายกลทำลายวิญญาณกำลังตกอยู่ในอันตราย กู้ชูหน่วนยกมือขวาขึ้น อักขระวิ่งขึ้นออกมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของค่ายกลทำลายวิญญาณ และค่ายกลก็กลับมามั่นคงอีกครั้ง

นางกล่าวว่า “พวกเจ้าทำลายวังวนนั่นไปก่อน พาองครักษ์เหล่านั้นหนีไป หากยังสามารถต่อสู้ได้ค่อยกลับมาช่วยข้าเสริมพลังให้ค่ายกล”

“ตกลง”

ผู้อาวุโสโหรงและผู้อาวุโสฉีประคองร่างที่บาดเจ็บสาหัสของพวกเขา ระดมพลังทั้งหมดร่วมกับชายชราสองคนที่อยู่ในวังวน

“บูม……”

วังวนถูกทำลาย

ในเวลานี้คนที่ถูกขังอยู่ด้านในก็หายใจได้เป็นปกติ

“ผู้อาวุโสโหรงและผู้อาวุโสฉี พวกเจ้าบาดเจ็บ รีบพาทุกคนออกไป พวกข้าจะไปช่วยเอง”

ผู้อาวุโสโหรงกับผู้อาวุโสฉีคิดจะอยู่ที่นี่ต่อไป แต่เมื่อนึกถึงพลังของฮวาอิ่ง พวกเขาทำได้เพียงระงับความเจ็บปวดและพาเหล่าองครักษ์หนีไป

ไม่เช่นนั้น ด้วยระดับความแข็งแกร่งขององครักษ์เหล่านี้ เพียงการโจมตีเพียงครั้งเดียว อาจทำให้พวกเขาสูญหายไปจากที่นี่