เธอกำลังจะเข้าวงการบันเทิง ไม่อาจเปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับเฉียวเหลียงได้ในเวลานี้ ผู้ชายคนนี้จะมาขอเธอแต่งงานตอนนี้ได้อย่างไร! เขาล้อเธอเล่นหรือเปล่า
“ถ้าคุณต้องการของขวัญ ผมไม่มีให้ แต่ถ้าคุณต้องการตัวผม ผมเป็นของคุณ” เฉียวเหลียงเอื้อมมือมาหาเธอ สวมแหวนที่นิ้วเธอ
ถังซีหน้ามุ่ย “ไม่มีทาง!” เธอจะตอบตกลงการขอแต่งงานง่ายๆ ได้อย่างไร!
นอกจากนี้เธอยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะยืนเคียงข้างเขา ดังนั้นเธอจะยังไม่แต่งงานกับเขาในตอนนี้ เธอจะไม่แต่งงานกับเขา จนกว่าคนรอบข้างเขาทุกคนจะยอมรับความสามารถของเธอ และอวยพรให้เธอกับเขา
เฉียวเหลียงยิ้ม กอดถังซี จูบเธอเบาๆ ที่หน้าผาก อารมณ์คุกรุ่นภายในใจถังซีหายไปเป็นปลิดทิ้งทันทีที่ริมฝีปากเขาแตะหน้าผากเธอ เธอเงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียง ถามด้วยรอยยิ้ม “นี่คือของขวัญที่คุณมอบให้ฉันด้วยหรือเปล่า”
เฉียวเหลียงจ้องตาเธอ น้ำเสียงเขาแหบพร่า “ผมอยากให้ถึงวันเกิดผมโดยเร็วที่สุด”
ถังซีเลิกคิ้วมองหน้าเขา เฉียวเหลียงประคองใบหน้าเธอแล้วกระซิบ “ผมจะได้ขอของขวัญจากคุณ”
เมื่อได้ยินคำพูดเขาถังซีก็หน้าแดง ผลักเฉียวเหลียงออกไป “คิดเก่งนี่ ฉันจะไม่ให้ตัวเองเป็นของขวัญแก่คุณหรอก!”
เมื่อเห็นทั้งคู่แสดงความรักต่อกันอย่างเปิดเผยอีกแล้ว อาห้าก็ค่อยๆ ปิดฉากกั้น แยกตัวเองออกจากคนทั้งสอง…
พอเถอะครับ! ทั้งสองเหมือนวัยรุ่นที่กำลังมีความรัก หนึ่งวินาทีก่อนหน้านี้เพิ่งจะทะเลาะกัน วินาทีถัดมาก็เริ่มแสดงความรักแสนหวานต่อกันอีกครั้ง! คนคู่นี้จะให้เขาหยุดพักบ้างไม่ได้เหรอ!
ทั้งสองไม่รู้ว่าอาห้าคิดอะไรอยู่ เฉียวเหลียงหยิบกล่องอีกใบหนึ่งออกมาส่งให้ถังซี ถังซีเปิดออกดู มีสร้อยคออยู่ข้างใน สร้อยคอเป็นชุดเดียวกับแหวนที่เฉียวเหลียงสวมอยู่ ถังซียิ้ม แสดงท่าทางให้เฉียวเหลียงสวมให้เธอ เฉียวเหลียงทำท่าบอกให้เธอมองดูดีๆ อีกครั้ง ถังซีหยิบขึ้นมาพิจารณาดู เธอเห็นว่าแหวนและสร้อยชุดนี้พิเศษมาก มีรูปทรงของดวงอาทิตย์ประดับอยู่ เธอมองดูใกล้ๆ และพบว่ารูปทรงนั้นแท้จริงแล้วคือชื่อเธอกับเฉียวเหลียง
ถังซีประทับใจมาก จริงๆ แล้วเขาเตรียมของขวัญไว้ให้เธอล่วงหน้าด้วยความตั้งใจ เพียงแต่เขายังไม่หยิบออกมา
ถังซีสูดลมหายใจ มองตาเฉียวเหลียงอย่างลึกซึ้ง “ฉันชอบของขวัญนี้มากค่ะ”
เฉียวเหลียงยิ้มอย่างอ่อนโยน ช่วยเธอสวมสร้อยคอ “ผมดีใจที่คุณชอบ”
…
พวกเขามาถึงคลับชาร์มมิงไนต์ในเวลาเที่ยงคืน ซึ่งคนแน่นมาก เนื่องจากคลับนี้เต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน เฮ่อหว่านโจวกับเฮ่อหว่านหนิงจึงคอยดูแลเฮ่อหว่านอีอย่างระมัดระวังขณะเดินเข้าไปในคลับ ส่วนเซียวเหยากับเซียวเจี่ยนคอยดูแลถังซี
ทันทีที่ถังซีก้าวเข้ามาในคลับเธอก็ตกใจกับเสียงเพลงที่ดังอึกทึก
คลับนี้แตกต่างจากคลับโรแมนติกไนต์อย่างสิ้นเชิง ที่นั่นเงียบสงบและตกแต่งอย่างหรูหรา บรรยากาศมีดนตรีเบาๆ เล่นคลอ และมีนักร้องร้องเพลงบนเวที ในห้องพิเศษจะไม่ได้ยินเสียงใดๆ รบกวน ถ้าอยากเต้นต้องไปที่ดิสโก้ฮอลล์ชั้นใต้ดินชั้นหนึ่ง อย่างไรก็ตามด้วยประสิทธิภาพของฉนวนกันเสียงชั้นดี ผู้คนที่อยู่ชั้นบนขึ้นไปจะไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย
ที่ชาร์มมิงไนต์นี้มีห้องเต้นรำขนาดใหญ่เพียงห้องเดียว มีห้องพิเศษไม่กี่ห้อง และคลับนี้เปิดให้ทุกคนเข้ามาเที่ยวได้ คนดังมากมายมักมาที่นี่ รวมทั้งพวกมาเฟียใต้ดิน…
ที่นี่จึงมักมีนักเที่ยวหนาแน่นแออัด
แม้แต่เฉียวเหลียงก็เคยมาที่นี่หลายครั้ง เพราะเรื่องงาน
กลุ่มพวกเขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเมือง A เมื่อเข้ามาในคลับเจ้านายใหญ่ของที่นี่จึงออกมาต้อนรับพร้อมด้วยผู้จัดการ หนิงเหยี่ยนโบกมือให้อย่างเป็นกันเอง “ช่วยจัดห้องให้เราด้วย ขอบคุณ”
“ได้ครับ ได้ครับ ผมจะจัดห้องพิเศษให้ เป็นห้องที่ดีที่สุดในคลับของเราเลย เชิญทางนี้ครับ” นายใหญ่พาพวกเขาไปยังห้องที่ดีที่สุดในชาร์มมิงไนต์ด้วยท่าทางยกย่องให้เกียรติ
ถึงแม้ข้างนอกจะเสียงดังมาก แต่ภายในห้องเงียบสงบ ถังซีส่ายศีรษะพร้อมกับอุทาน “ข้างนอกเสียงดังเหลือเกิน ฉันทนไม่ไหว”
“เรากลับบ้านกันดีไหม” เซียวเจี่ยนขมวดคิ้ว ท่าทางดูวิตกกังวล โหรวโหรวสวยเกินไป และที่นี่มีพวกนอกกฎหมายมากมาย เขาไม่อยากให้โหรวโหรวตกอยู่ในอันตรายใดๆ
ถังซีส่ายศีรษะ เฉียวเหลียงยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ จะไม่มีใครกล้ามาวุ่นวายกับเธอ”
หนิงเหยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่ มีเฉียวเหลียงกับเซียวเหยาอยู่ที่นี่ด้วย เราไม่ต้องห่วงอะไร”
เซียวเหยายังคงนิ่งเงียบ เฉียวเหลียงเลิกคิ้ว แต่ถังซีร้อนใจ “ผู้กำกับหนิงคะ อย่าเอาพี่ชายฉันมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เขาเป็นทหาร ถ้ามีเรื่องทะเลาะกับพวกอันธพาลที่นี่ เขาจะต้องถูกลงโทษโดยศาลทหาร! เขาเป็นผู้พัน! เขาจะมาเกี่ยวข้องกับปัญหาเดือดร้อนแบบนี้ไม่ได้!”
เมื่อเห็นถังซีปกป้องเขาสุดชีวิตเซียวเหยาก็ยิ้ม เฉียวเหลียงซึ่งรู้สึกถูกเพิกเฉยหน้าบึ้ง “คุณหมายความว่าผมเกี่ยวข้องกับปัญหาเดือดร้อนแบบนี้ได้งั้นเหรอ”
ถังซีกะพริบตาปริบๆ ส่ายศีรษะทันที “ไม่ได้อย่างแน่นอน คุณคือเจ้าชายเฉียวผู้ทรงเสน่ห์และมีชื่อเสียง จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นบริษัทคุณเหรอ… ถ้าคุณเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาว”
เฉียวเหลียงไม่อยากต่อปากต่อคำกับเธอ ถังซีหันไปถามหนิงเหยี่ยนทันที “คนคนนั้นอยู่ไหนคะ”
หนิงเหยี่ยนหัวเราะ “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาอันสมควร รอสักครู่ ตอนนี้ทีมงานหนังของเขากำลังมีงานเลี้ยงฉลองอยู่ที่ชั้นล่าง” จากนั้นเขาก็หรี่ตาลง สีหน้าเข้มขึ้น “ฉันจะทำลายหนังของเขา!”
“จะส่งผลกระทบต่อทีมงานคนอื่นๆ ในหนังเรื่องนี้หรือเปล่าคะ” หางตาถังซีกระตุก
เมื่อได้ยินอย่างนี้เซียวเจี่ยนก็หรี่ตามองหน้าหนิงเหยี่ยนอย่างระแวดระวัง “มีคนของบริษัทเราแสดงในหนังเรื่องนี้หรือเปล่า”
“ไม่ต้องห่วง มีแค่เผิงเสวี่ยคนเดียว และเท่าที่ผมรู้ เธอไม่มีทางเป็นมิตรกับคนอย่างหวังปั๋วแน่” หนิงเหยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณวางใจได้ ศัตรูของผมคือหวังปั๋ว ผมจะไม่แตะต้องผู้บริสุทธิ์”