เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 687
วันเวลาผ่านไป รวดเร็วราวกับติดปีก
ชั่วพริบตาก็เป็นวันที่สามแล้ว!
เย่โหรวพาเย่เทียน มาถึงสถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดในต้าเซี่ย
ผู้อำนวยการสถานีกล่าวด้วยใบหน้ากระตือรือร้นว่า: “ยินดีต้อนรับคุณเย่!”
เย่โหรวเงยหน้าขึ้น ชำเลืองมองไปยังผู้อำนวยการสถานี: “คุณชายสามน่าจะบอกกับคุณแล้วใช่ไหม!”
ผู้อำนวยการสถานีพยักหน้าแล้วกล่าวว่า: “ใช่แล้ว! คุณชายสาม ได้มอบหมายทุกอย่างแล้ว”
สถานีโทรทัศน์ทั้งหมดของตงไห่ ล้วนถูกเย่หนานใช้เงินซื้อทั้งหมดแล้ว
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นก็รีบเริ่มกันเถอะ ฉันอยากดำเนินการถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งเมือง!”
“โอเค!”
ผู้อำนวยการสถานีไม่กล้าวางมาด และรีบไปจัดการ
เย่โหรวหันกลับมา เหลือบมองเย่เทียนแล้วกล่าวว่า: “ตามแผนการก่อนหน้านี้ของพวกเรา คุณก็พูดตามสคริปต์ก็พอ!”
เธอพูดพลาง กล่าวอย่างใช้อำนาจคุกคามว่า: “ทางที่ดีที่สุดคุณก็อย่าทำอะไรที่ไม่ดี หากต้องการแก้แค้น คุณก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของฉัน!”
“ฉันรู้!”
เย่เทียนทอดถอนใจเบาๆ แล้วกล่าวอย่างจนใจ
คนที่เป็นไม่ใกล้ฝั่งอย่างเขา กลับจะต้องเย่โหรวผู้อ่อนอาวุโสคนนี้ดุด่า
หากไม่ใช่ตนเองไม่มีทางเลือก
หากไม่ใช่ความเกลียดชังที่มีต่อหยางเฟิง อย่างไม่มีที่สิ้นสุดละก็
เย่เทียนก็คงจะโกรธเย่โหรวไปนานแล้ว!
ในเวลาเดียวกัน บนใบหน้าของเย่โหรวปรากฏความโหดเหี้ยมเล็กน้อย
ถ้าหากแผนการของตนเองดำเนินไปอย่างราบรื่น หยางเฟิงและครอบครัว จะต้องชื่อเสียงป่นปี้ในตงไห่อย่างแน่นอน!
“เหอๆ!”
คล้ายกับมองออกถึงความคิดของเย่เทียน เย่โหรวจึงหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า: “คุณก็ไม่ต้องรู้สึกอะไรนะ พอหลังจากที่จัดการเรื่องราวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็จะส่งคุณไปบ้านพักคนชราในจงโจวโดยตรง ถ้าหากจัดการไม่เรียบร้อย…….”
ดวงตาทั้งคู่ของเย่โหรวปรากฏความเยือกเย็น แล้วไม่ได้กล่าวต่อไป
เย่เทียนกลืนน้ำลายเล็กน้อย
แน่นอนว่าเขารู้ความหมายของเย่โหรว
ถ้าหากไม่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้ เขาก็จะไม่มีประโยชน์แค่อย่างใด
ไม่นาน
เย่เทียนก็ถูกพามาถึงห้องถ่ายทอดสด
ฟึบ!
ไฟสปอตไลท์สว่างขึ้นมา
เครื่องบันทึกภาพวีดิทัศน์หลายเครื่องเตรียมพร้อมแล้ว
นี่คือการถ่ายทอดสดใหญ่ทั่วทั้งเมืองหลวง และทั้งตงไห่
“สวัสดีเพื่อผู้ชมทุกๆ ท่าน ยินดีต้อนรับทุกท่านที่มารับชมการแสดงความคิดเห็น โดยฉันเป็นผู้ดำเนินรายการ!”
หลังจากที่กล่าวนำอย่างง่ายๆ แล้ว
ผู้ดำเนินรายการก็เริ่มแนะนำเย่เทียน
เย่ซื่อกรุ๊ป เคยเป็นกิจการขนาดใหญ่อันดับหนึ่งในเมืองตงไห่ แต่อย่างที่ทราบกันดีก็คือ ก่อนหน้านี้ไม่นานจู่ๆ เย่ซื่อกรุ๊ปก็ล้มละลาย!”
หลังจากนั้น เฟิงเมิ่งกรุ๊ปที่มาใหม่ เขายึดครองทรัพย์สินทุกสิ่งทุกอย่างของเย่ซื่อกรุ๊ป การกลับมาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนอีกครั้ง ในจำนวนนี้ มีความลับอะไร? การเปลี่ยนผ่านอำนาจวงศ์ตระกูลเป็นเรื่องปกติ หรือต่างฝ่ายต่างพยายามหลอกลวงซึ่งกันและกัน?”
“และถ้าหากการเปลี่ยนผ่านวงศ์ตระกูลเป็นเรื่องปกติ ทำไมเย่ซื่อกรุ๊ปจะต้องเปลี่ยนชื่อด้วย?”
“วันนี้พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เชิญอดีตท่านผู้นำตระกูลเย่ และอดีตท่านประธานเย่ซื่อกรุ๊ปมา ผู้อาวุโสเย่เทียน! ถัดไป เชิญคุณเย่บอกเล่าความจริงของเรื่องราวให้พวกเราฟังด้วยครับ!”
ฟึบ!
ไฟสปอตไลท์ส่องไปที่เย่เทียน กล้องทั้งหมด เล็งไปที่เย่เทียน
ใบหน้าของเย่เทียน ปรากฏบนจอทั้งใหญ่และเล็กในเมืองตงไห่
อารมณ์ความโกรธเคือง ความกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม ไม่ยินยอม ปรากฏบนใบหน้าของเย่เทียนในรวดเดียว
เดิมทีเย่เทียนก็คือคนเจ้าเล่ห์อยู่แล้ว ใบหน้าเช่นนี้ สำหรับเขาแล้วรับมือได้ง่ายอย่างมาก
ถึงแม้จะเป็นนักแสดงชั้นนำ ก็เกรงว่าจะไม่มีการแสดงที่สมจริงขนาดเย่เทียนผู้นี้
เย่เทียนยิ้มเจื่อนๆ กับกล้อง: “ท่านผู้ชมทุกท่าน การล้มละลายของเย่ซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่เพราะการจัดการบริหารที่ไม่ดี แต่เป็นเพราะข้อพิพาทในครอบครัว……..”
ตระกูลเย่ของพวกเรา ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะไม่ใช่ตระกูลอันดับหนึ่งในตงไห่ แต่ก็เป็นตระกูลอันดับสอง ภายใต้ความทุ่มเทพยายามของฉัน เดิมทีก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ในขณะที่ฉันต้องการจะก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง ไหนเลยจะคาดคิดว่า………”
สีหน้าของเย่เทียน เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาในทันใด เขาตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธเคืองว่า: “ป้องกันอะไรก็ป้องกันได้ แต่หัวขโมยภายในบ้านยากที่จะป้องกัน! เย่ไห่ แกมันเป็นลูกอกตัญญู ฉันรู้ว่าตอนนี้แกอยู่หน้าจอ ฉันแค่อยากจะถามแกสักคำว่า กลางคืนแกนอนหลับไหม? จิตสำนึกของแกไม่กระวนกระวายใจบ้างเลยเหรอ?”