TQF:บทที่ 602 ออกจากฮวงยัน (3)

 

ถ้าแค่แหวนมิติยังไม่มากพอจะให้ท่านเจ้าเมืองทึ่ง แต่ในแหวนมิติมันไม่ได้ว่างเปล่า ของที่อยู่ข้างในเขาก็พอเดาออกว่าคืออะไร ตอนนี้แม้แต่เขาเองก็ต้องยอมรับว่าตระกูลเฉิงนี่มือเติบจริงๆ

 

รอยยิ้มอ่อนๆประดับอยู่บนใบหน้า แต่เมื่อเขาใช้พลังจิตตรวจดูรอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งไป เนิ่นนานกว่าท่านเจ้าเมืองจะได้สติ เขาสูดหายใจเข้าลึกพลางเอ่ย “มือเติบมากจริงๆ ท่าทางข้าคงได้แค่ดูอยู่เฉยๆแล้วล่ะ”

 

ไม่ใช่แค่ท่านเจ้าเมืองที่อุทานแบบนี้ เหล่าผู้อาวุโสที่ได้รับของขวัญต่างอุทานออกมาเช่นเดียวกัน “ต่อไปนี้จะเป็นศัตรูกับตระกูลเฉิงไม่ได้เด็ดขาด ต้องเป็นมิตรเท่านั้น”

 

วันรุ่งขึ้น มีข่าวอีกข่าวที่ตะลึงกันไปทั้งเมือง เมื่อคืนนี้ทหารรับจ้างนับร้อยคนของกลุ่มทหารรับจ้างเฮยอั้น รวมถึงหัวหน้าและรองหัวหน้ากลุ่มตายกันหมด

 

กลุ่มทหารรับจ้างเฮยอั้นถูกล้างบางในชั่วข้ามคืนเท่านั้น และถูกกำจัดจนหมดสิ้น

 

ใครเป็นคนทำ

 

เชื่อว่าในใจทุกคนมีแค่คำตอบเดียวเท่านั้น แต่ไม่มีใครพูดมันออกมา เพราะจะพูดหรือไม่พูดก็ไม่ต่างกัน และก็จะไม่มีใครออกหน้าให้กลุ่มทหารรับจ้างเฮยอั้นด้วย

 

แม้แต่ท่านเจ้าเมืองกับสมาคมทหารรับจ้างก็เงียบไปราวกับว่าไม่รับรู้เรื่องนี้

 

สุดท้ายก็มีเพียงความคิดเดียวในหัวทุกคน จะไปหาเรื่องใครก็อย่าไปหาเรื่องกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนและตึกจงหยวน

 

ขณะเดียวกัน ชื่อเสียงของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนก็ดังไปทั่วเมืองใหญ่ๆ ว่ามีกลุ่มทหารรับจ้างสุดแกร่งกำเนิดขึ้นแล้ว

 

บ้านตระกูลเฉิงยังคงเงียบสงบเหมือนก่อน

 

ตึกจงหยวนขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

 

กลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนเริ่มรับภารกิจ

 

หมู่ล่าสมบัติของกลุ่มทหารรับจ้างก็เตรียมออกเดินทาง

 

ไม่ว่าข้างนอกนั่นจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีผลอะไรกับแผนการณ์ของเฉิงเสี่ยวเสี่ยว

 

แต่ละวันผ่านไปเรื่อยๆ

 

พริบตาเดียวตึกจงหยวนก็เปิดร้านได้ 1 เดือนแล้ว

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองเหล่าผู้อาวุโสเผ่าอสูรหลายสิบคนตรงหน้าแล้วก็รู้สึกเบาใจลง พวกเขาต่างได้ความทรงจำของผู้เฒ่าคนอื่นในระยะเวลาหลายสิบถึงหลายร้อยปีด้วยฝีมือของหยูเฮงน้อย เรียกได้ว่าสามารถรับหน้าเองได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคนไม่พออีกแล้ว

 

นอกจากเรื่องนี้ หยูเฮงน้อยยังเรียกหญิงสาวโฉมงามเผ่าอสูรออกมาอีกหลายสิบคน ให้พวกเขาเป็นสาวใช้คอยดูแล 2 ย่าหลานฟางซูหยุนและหยูเฮงน้อย

 

“คุณหนู เป็นยังไง”

 

หยูเฮงน้อยหัวเราะได้ใจ “ยังต้องการคนเพิ่มอีกรึเปล่า ให้ข้าเรียกพวกเผ่าอสูรออกมาอีกมั้ย”

 

“พอแล้ว” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวส่ายหน้า “แม้ว่าพวกมันจะฝึกฝนอิทธฤทธิ์พลิกโฉมของเจ้า แต่ก็เกรงว่าอาจถูกคนอื่นล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริงได้ ถ้าหากคนอื่นรู้เข้าว่าคนพวกนี้ของเราเป็นเผ่าอสูรหมด ข้ากลัวว่าจะมีพวกว่างงานใช้ข้ออ้างนี้มาหาเรื่องได้”

 

“กลัวทำไม อย่างมากก็แค่กำจัดพวกเขาซะ” หยูเฮงน้อยบอกอย่างจองหอง

 

“พอได้แล้ว เอะอะก็จะฆ่าจะแกง เจ้าจะกลายเป็นนางมารน้อยอยู่แล้ว”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวส่ายหน้าด้วยความขบขัน และสั่งให้เผ่าอสูรออกไปก่อน นางหันไปบอกกับคนอีก 2 คนที่นั่งอยู่ “อาจารย์ปู่ ที่นี่ต้องฝากไว้ให้ท่านแล้วนะ ยังมีของพอให้ขายไปอีกหลายสิบปี พวกเราต้องไปจากที่นี่กันแล้ว”

 

“พวกเจ้าจะไปตอนไหน” อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ถามเรียบๆ

 

“เฉิงเสี่ยวเสี่ยวหันไปมองท่านย่ายิ้มๆ “วันสองวันนี้แหละ อาจารย์ปู่ลองดูว่าต้องการอะไรอีกมั้ย มีอะไรก็บอกพวกเราได้เลย พวกเราจะพยายามเตรียมไว้ให้”

 

“ไม่มีหรอก ของที่ต้องการพวกเจ้าก็เตรียมไว้หมดแล้ว วันสองวันนี้พวกเจ้าก็เตรียมของสำหรับตัวเองเถอะ”

 

อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ตอบด้วยรอยยิ้ม

 

ฟางซูหยุนคิดไม่ถึงว่าหลานสาวจะไปในเวลาอันรวดเร็วขนาดนี้ “เสี่ยวเสี่ยว ที่ฮวงยันมีเรื่องอะไรให้ต้องจัดการรึเปล่า”

 

“เกือบจะเรียบร้อยหมดแล้วท่านย่า” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตอบเบาๆ

 

หยูเฮงน้อยพูดต่อ “ฮูหยินฟาง ตอนนี้ไม่มีใครในฮวงยันกล้าลงมือกับกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนของเราหรอก อีกอย่าง พวกเราก็เลี้ยงพวกเจ้าเมืองจนอิ่มหนำสำราญหมดแล้ว พวกเขาย่อมไม่ยื่นมือเข้ามามั่วซั่ว ตอนนี้ที่นี่ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงเลย”

 

“เจ้าก็พูดถูก กล้าจะจ่ายจริงๆนะ ส่งมอบของหลายสิบล้านออกไปฟรีๆ เจ้านี่ถลุงสมบัติที่บ้านจริงๆ”

 

พูดถึงของที่มอบให้คนอื่นไป ต่อให้รู้ว่าสมบัติที่บ้านมีมากแค่ไหนฟางซูหยุนก็รู้สึกเจ็บๆในใจอยู่ดี

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเข้าใจความรู้สึกของย่าตัวเอง “ท่านย่า ไม่ได้ให้ฟรีๆสักหน่อย ของที่พวกเรามอบให้ไปครั้งแรกทำให้สายตาของพวกเขายิ่งเพ่งเล็งมาที่ตึกจงหยวนของเรา ถ้าหากพวกเราไม่เลี้ยงให้อิ่มละก็พวกเขาก็จะยื่นมือมาขออีกครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งจะทำให้เราเสียเยอะกว่าเดิม”

 

“ตอนนี้พวกเขาได้รับของมากมายขนาดนี้จากเราในคราเดียว ก็คงไม่กล้ามาขออีกแล้วล่ะ หากเราแข็งแกร่งขึ้นและมีชื่อเสียงขึ้นได้ในช่วงเวลานี้ ต่อไปนี้ต่อให้พวกเขามีความคิดแบบนี้ก็ไม่กล้ามาขอจริงๆ”

 

“ยัยหนูเสี่ยวเสี่ยวพูดถูก เจอกับคนแบบนี้ก็ต้องทำแบบนี้แหละ สิ่งที่ต้องเสียก็ต้องยอมเสีย มีแต่ผลดีต่อตัวพวกเราทั้งนั้น”

 

อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์มองวิธีเอาตัวรอดแบบนี้ออกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้ว จึงพยักหน้าเห็นด้วย

 

หยูเฮงน้อยเอะอะขึ้นอย่างใจกว้าง “ของแค่นี้พวกเราให้ไหวอยู่แล้ว จะไปกลัวอะไร ตอนนี้ต้องสร้างกลุ่มทหารรับจ้างของเราให้แข็งแกร่งในเวลาที่เร็วที่สุด”

 

“ถูกต้อง ตอนนี้ต้องพัฒนากลุ่มทหารรับจ้างเป็นหลัก”

 

สำหรับเรื่องนี้ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย

 

ตกกลางคืน ผู้เฒ่าหยิงที่ยุ่งเรื่องข้างนอกเสร็จก็ขอพบคุณหนู

—————-