EG บทที่ 726 แผนการอุตสาหกรรมการเกษตร

 

คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาไม่ได้เต็มใจที่จะทำแบบนี้เลย แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก ซวี่ฉางโหย่วทำตัวเอาแต่ใจมากเกินไปแล้ว แต่เนื่องด้วยบุคลิกที่เผด็จการของซวี่ฉางโหย่ว จึงทำให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่น

 

หลี่หมิงเต๋อรับผิดชอบเรื่องการเจรจากับโรงงานขนาดเล็ก เขารู้จักหัวหน้าส่วนใหญ่จากโรงงานพวกนั้น เขารู้ว่าคนไหนมีความสามารถและใครที่ไร้ประโยชน์

 

หลี่หมิงเต๋อโน้มน้าวคนที่มีความสามารถให้อยู่ในตำแหน่งผู้ควบคุมโรงงานสาขานี้ต่อไป พวกเขาอาจมีโอกาสที่จะถูกย้ายไปยังเมืองปิงในอนาคต พวกเขายังอาจได้รับส่วนแบ่งของบริษัทเป็นรางวัลตอบแทนด้วย สำหรับผู้นำที่ไร้ประโยชน์พวกนั้น หลี่หมิงเต๋อโน้มน้าวให้พวกเขาย้ายออกไปโดยใช้เส้นสายของพวกเขา มิเช่นนั้นพวกเขาอาจถูกไล่ออกได้หลังจากที่โรงงานถูกเข้าซื้อกิจการแล้ว

 

บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงสัญญาว่าพวกเขาจะไม่ไล่ใครออกโดยที่ไม่มีเหตุผล แต่โรงงานขนาดเล็กพวกนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรในช่วงปีที่ผ่านมานี้ในฐานะรัฐวิสาหกิจงั้นหรอ? ถ้ บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงต้องการตรวจสอบโรงงานพวกนี้จริงๆ คนพวกนี้อาจไม่เพียงถูกไล่ออก แต่พวกเขาอาจถูกจับกุมในข้อหาทุจริตด้วย!

 

ในขณะที่การเจรจากำลังดำเนินอยู่นั้น รัฐบาลระดับจังหวัดก็กำลังหารือกันเกี่ยวกับวิธีการจัดระเบียบทรัพยากรของจังหวัดเพื่อจัดตั้งบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขัน และจะทำยังไงให้บริษัทพวกนี้สามารถพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดได้

……

 

“จังหวัดหลงเจียงของเราเป็นจังหวัดเกษตรกรรมและเราควรรวมทรัพยากรการเกษตรทั้งหมดของเราเพื่อจัดตั้งบริษัทอาหารการเกษตร ซึ่งจะกลายเป็นประโยชน์ของเรา” หนิวคุน ผู้อำนวยการกรมวิชาการเกษตรประจำจังหวัดกล่าว

 

มีคนคัดค้านทันที “บริษัทอาหารเกษตร? คุณล้อเล่นหรือเปล่าเนี่ย? อย่าคิดว่ามันจะได้ผลเพียงเพราะว่ามีคนแนะนำมาเท่านั้น แม้ว่าเราจะเป็นจังหวัดเกษตรกรรม แต่อย่าลืมว่ายังมีกระทรวงเกษตรรัฐและการปรับปรุงที่ดินอยู่นะ บริษัทนี้ควรอยู่ภายใต้อำนาจของกระทรวงเกษตรรัฐและการปรับปรุงที่ดิน”

“เราควรจัดตั้งบริษัทในลักษณะนี้ แต่บริษัทนี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลระดับจังหวัด”

 

คนที่คัดค้านครุ่นคิดอย่างหนัก หากบริษัทนี้ตกอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลระดับจังหวัด ฟาร์มจะอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลระดับจังหวัดแทนกรมวิชาการเกษตร แบบนี้รายได้ของจังหวัดจะเพิ่มขึ้น!

 

นี่เป็นความคิดที่ดี มันจะเป็นการควบคุมฟาร์มโดยกรมวิชาการเกษตรทางอ้อม แต่ผู้นำระดับสูงจะเห็นด้วยหรือเปล่า?

 

“บอกรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนสำหรับบริษัทนี้ให้ผมฟังหน่อย จะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอะไรและจะจัดการยังไง?” ซวี่ฉางโหย่วสนใจมาก นี่น่าจะเป็นความคิดที่ดี

 

“ในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย จะมีบริษัทสินค้าทางการเกษตรแบบนี้ ตอนที่ผมไปสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้วเพื่อดูงาน ผมได้เรียนรู้รูปแบบการดำเนินงานของพวกเขา หลังจากกลับมา ผมก็คิดรูปแบบการปฏิบัติการที่เหมาะสมกับฟาร์มของเราออก”

 

“เราสามารถเซ็นสัญญากับฟาร์มและขอให้พวกเขาปลูกพืชที่เราต้องการได้ ตัวอย่างเช่น เราสามารถซื้อข้าวโพดและข้าวสาลีจากเกษตรกรและแปรรูปก่อนที่จะส่งออกไปยังรัสเซีย แม้ว่ากระบวนการตากแห้งพืชผลจะเป็นเรื่องง่าย แต่เราก็จะได้รับส่วนแบ่งจากผลกำไรด้วย เราสามารถแปรรูปพืชผลให้เป็นน้ำมันหรือแป้ง และเราสามารถส่งออกไปยังพื้นที่อื่นๆ ที่เหลือในประเทศจีนได้ด้วย”

 

“จังหวัดของเรามีโรงงานแปรรูปอาหารขนาดใหญ่ แต่สินค้าของพวกเขามีจำกัด พวกเขาเก่งเรื่องสินค้าหมูและเป็นหนึ่งในโรงงานที่ดีที่สุดในประเทศจีน แต่พวกเขาไม่เก่งเรื่องสินค้าตัวอื่น”

 

ซวี่ฉางโหย่วถาม “คุณหมายถึงบริษัทแปรรูปอาหารหัวหรือเปล่า?”

 

“ใช่ครับ หมูเทียนเผิงและอาหารสัตว์ของพวกเขาดีที่สุดในประเทศจีน ตอนนี้พวกเขากำลังผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหมู เช่น แฮมและหมูกระป๋อง ซึ่งเป็นสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศจีน แต่ยังมีสินค้าแปรรูปอื่นๆ อีกมากมายจากอุตสาหกรรมการเกษตร ตัวอย่างเช่น เราสามารถผลิตเนื้อสัตว์ประเภทอื่น เช่น สินค้าจากเนื้อวัวหรือไก่ เรามีข้อได้เปรียบเหนือกว่าพวกเขาเพราะเราสามารถสั่งซื้อโดยตรงจากเกษตรกรของรัฐหรือสร้างฟาร์มไก่หรือฟาร์มวัวได้ สินค้าเนื้อสัตว์พวกนี้เป็นที่นิยมในตลาดมาก”

 

“จังหวัดของเรามีโรงงานผลิตนมมากกว่าหนึ่งแห่ง เราสามารถควบรวมโรงงานพวกนี้เข้าด้วยกันเพื่อสร้างโรงงานผลิตนมขนาดใหญ่ จังหวัดของเรา มีป่าขนาดใหญ่ แถมยังมีวัตถุดิบที่มีค่ามากมายจากป่า เช่น เมล็ดสน ถั่วเฮเซลนัท เป็นต้น เราสามารถซื้อของพวกนี้เป็นจำนวนมากจากเกษตรกรและนำไปขายที่อื่นได้”

 

“ผมถึงขนาดมีความคิดว่าเราควรรอดูผลลัพธ์ก่อน แต่นั่นก็อาจจะขัดกับกฎข้อบังคับเล็กน้อย เราสามารถเพาะปลูกบนที่ดินรกร้างและสร้างฟาร์มขนาดมหึมาขึ้นมาเองได้”

 

“อย่าพูดถึงสิ่งที่ผิดกฎหมาย” ซวี่ฉางโหย่วโบกมือ “สิ่งที่คุณพูดมานั้นดีมาก ทำไมคุณไม่เสนอข้อเสนอแบบนี้ตั้งนานแล้ว?”

 

“นี่เป็นเพียงความคิดเท่านั้นครับ แต่มีปัญหาใหญ่มากที่จะทำให้แผนนี้ได้ผล”

 

“ปัญหาอะไร? บอกผมมา ผมจะแก้ปัญหาให้คุณเอง!” ซวี่ฉางโหย่วตื่นเต้น พวกเขาจะสามารถหาทางออกให้กับปัญหาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน ทำไมผมถึงไม่ได้สังเกตเห็นหนิวคุนคนนี้มาก่อน? เขาเป็นคนมีความสามารถมาก

 

อุตสาหกรรมการเกษตรของจังหวัดหลงเจียงมีศักยภาพมหาศาล และยังไม่มีบริษัทการเกษตรขนาดใหญ่ในประเทศจีน หากพวกเขาสามารถจัดตั้งบริษัทนี้ได้ จังหวัดหลงเจียงจะก้าวหน้ามากกว่าจังหวัดอื่นๆ!

 

นี่เป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับจังหวัด ปัญหางั้นหรอ? เราต้องเอาชนะปัญหาทั้งหมดเพื่อทำให้แผนนี้ได้ผล!

 

“เงินครับ! ในการจัดตั้งบริษัทขนาดใหญ่ เราต้องการเงินจำนวนมาก แม้แต่รัฐบาลระดับจังหวัดก็ยังไม่มีเงินมากพอที่จะจัดตั้งบริษัทระดับนี้ได้” หนิวคุนตอบ

 

หนิวคุนมีความคิดนี้เมื่อปีที่แล้ว แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะนำไปใช้ เขาเสนอแนะในระหว่างการประชุมครั้งนี้ก็เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้นั่งทำงานอยู่ในสำนักงานไปวันๆ และหวังว่าซวี่ฉางโหย่วจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้

 

“จำนวนเงินนั้นมากถึงขนาดที่รัฐบาลระดับจังหวัดก็ไม่ไหวหรอ? แผนนี้จำเป็นต้องใช้เงินเท่าไหร่กันเชียว?” ซวี่ฉางโหย่ว ขมวดคิ้วและถาม

 

“อย่างน้อยก็สองสามพันล้านครับ แต่ถ้าเรามีถึงหมื่นล้านก็น่าจะดีกว่า เราต้องการเงินทุนเพื่อจัดซื้อพืชผลหรือผลผลิตจากเกษตรกร เรายังต้องการเงินทุนเพื่อสร้างโรงงานแปรรูป และยังต้องการเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับเหตุฉุกเฉิน การทำตลาด เครื่องจักร และอื่นๆ รัฐบาลระดับจังหวัดสามารถจัดการเรื่องนี้ได้หรือเปล่าครับ?”

 

หนิวคุนมองหน้าซวี่ฉางโหย่วอย่างกระตือรือร้น หากรัฐบาลระดับจังหวัดสามารถแก้ไขปัญหาพวกนี้ได้ เขาก็จะได้รับความดีความชอบทั้งหมด

 

อย่างน้อยสองสามพันล้านหยวนหรอ? รัฐบาลจังหวัดจะไปมีปัญญาหาเงินมาจ่ายได้ยังไง?

 

ถ้าใช้เงินแค่ไม่กี่ร้อยล้าน รัฐบาลระดับจังหวัดอาจจะยังพอมีทางออกบ้าง พวกเขาสามารถขอเงินทุนจากผู้นำระดับสูง เพิ่มจำนวนเงินจากเมือง และวิธีอื่นๆ ได้ พวกเขาอาจขอเงินกู้จากธนาคารก็ได้

 

แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลระดับจังหวัดจะระดมทุนเงินสองสามพันล้าน

 

ความตื่นเต้นของหนิวคุนในดวงตาของเขาเริ่มหายไปเมื่อเขาเห็นซวี่ฉางหยวก้มหน้าลง เป็นไปไม่ได้ใช่มั้ย? ถ้าขนาดรัฐบาลระดับจังหวัดยังไม่สามารถหาทางออกได้ ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดตั้งบริษัทนี้

 

ดูเหมือนว่าความคิดนี้คงยังต้องเป็นความคิดต่อไป

……

 

ซวี่ฉางโหย่ว กลับไปที่สำนักงานของเขา เขาคิดอยู่พักหนึ่งแล้วโทรเรียกจางรุ่ยเฉียงให้มาหาที่สำนักงานของเขา เขาอยากถามดูว่าจางรุ่ยเฉียงจะมีวิธีแก้ปัญหานี้หรือไม่

 

เมื่อจางรุ่ยเฉียงได้ยินว่ารัฐบาลระดับจังหวัดจำเป็นต้องระดมทุนสองสามพันล้าน เขาก็จนปัญญาเช่นกัน หากขนาดรัฐบาลระดับจังหวัดไม่มีเงิน แล้วนับประสาอะไรกับเมืองปิง

 

แต่ทันใดนั้นจางรุ่ยเฉียงก็นึกถึงใครบางคนได้ บางทีคนนี้อาจมีทางออกให้ก็ได้

 

ฮืม…… เมื่อใดก็ตามที่จางรุ่ยเฉียงเจอปัญหาและต้องการทางออก คนๆ นี้จะสามารถหาทางออกให้เขาได้เสมอ คนๆ สามารถตอบได้ทุกเรื่อง