EG บทที่ 727 ห้ะ? เป่ยต้าฉาง?

 

เฝิงหยู่กลับมาที่ปักกิ่งสองสามวัน เขาทำวิทยานิพนธ์เสร็จแล้วและส่งอาจารย์ของเขาเพื่อทำการตรวจสอบรอบแรก หลังจากส่งวิทยานิพนธ์แล้ว เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากจางรุ่ยเฉียง ซึ่งเรียกให้เขากลับไปที่เมืองปิง ทันที รัฐบาลระดับจังหวัดต้องการปรึกษาเฝิงหยู่เพื่อขอความคิดเห็นจากเขา

 

เฝิงหยู่กำลังว่างอยู่พอดีและอยากเห็นความคืบหน้าของการเข้าซื้อกิจการของโรงงานพวกนั้นด้วย ดังนั้นเขาจึงบินกลับไปที่เมืองปิง

 

เฝิงหยู่เดินเข้าไปในห้องทำงานของจางรุ่ยเฉียงและนั่งบนโซฟาเหมือนบ้านของเขาเอง ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร เลขาหลิวก็ยกชาที่ชงมาใหม่หนึ่งถ้วยเข้ามา

 

“เสี่ยวหลิวเข้ามานั่งกับผมสิ”

 

เลขาหลิวรู้สึกประหลาดใจ เขาควบคุมความตื่นเต้นและนั่งข้างๆ เฝิงหยู่ แต่ท่าทางของเขาเหมือนกับทหาร หลังของเขาเหยียดตรงและวางมือของเขาไว้บนเข่า

 

เฝิงหยู่ถามด้วยความสงสัย “การนั่งคือการพักผ่อน คุณนั่งท่านั้นไม่เมื่อยหรอ?”

 

เลขาหลิวสับสน นี่มันคำถามอะไรกัน? แล้วเขาต้องตอบยังไง?

 

ถ้าเลขาหลิวตอบว่าท่านี้ไม่เมื่อย เฝิงหยู่จะบอกว่าเขาโกหกแน่นอน แต่เขาจะตอบว่าเมื่อยต่อหน้าผู้นำของเขาได้ยังไง?!

 

จางรุ่ยเฉียงมองหน้าเฝิงหยู่ และบอกกับเลขาของเขาว่า “ไม่ต้องไปสนใจเขา ทำตัวตามสบาย ที่นี่ไม่ได้มีกฎอะไรมากมาย”

 

เลขาหลิวรู้สึกโล่งใจ แต่เขาก็ยังเคร่ขรึมและนั่งอย่างถูกต้อง เขาไม่กล้าที่จะนั่งแบบที่เฝิงหยู่ที่ทั้งเอนหลังและไขว้หาง

 

“เกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้คุณมีปัญหาอะไรหรอ?” เฝิงหยู่ถาม

 

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา จางรุ่ยเฉียงไม่ค่อยได้ปรึกษาเฝิงหยู่แล้ว แต่ปัญหาก็เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่เพราะว่าจางรุ่ยเฉียงก้าวหน้าขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่เป็นเพราะตำแหน่งของเขาตอนนี้สูงขึ้น ระดับความยากของปัญหาที่เขาเจอก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

เฝิงหยู่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการเมืองมากนักและเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะช่วยจางรุ่ยเฉียงในเรื่องนี้

 

“คุณแนะนำให้ควบรวมทรัพยากรของเราเพื่อจัดตั้งบริษัทที่ใหญ่กว่าและมุ่งเน้นที่แบรนด์เดียว รัฐบาลระดับจังหวัดได้พิจารณาข้อเสนอแนะของคุณและตัดสินใจที่จะเริ่มต้นจากอุตสาหกรรมเกษตร”

 

เฝิงหยู่พยักหน้า “จังหวัดของเราเป็นจังหวัดเกษตรกรรมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เรามีพื้นที่ราบขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการทำฟาร์ม การทำฟาร์มสมัยใหม่ของเรานั้นก็ทันสมัยที่สุดในประเทศจีน นี่เป็นความคิดที่ดีครับ แล้วมีปัญหาอะไรหรอ?”

 

“เรากำลังคิดที่จะเริ่มจากปศุสัตว์และอุตสาหกรรมแปรรูปธัญพืช คุณคิดยังไงกับทิศทางนี้? มันจะได้ผลหรือเปล่า?” จางรุ่ยเฉียงถาม

 

“ไม่มีปัญหาครับ หากการเลี้ยงปศุสัตว์มีขนาดใหญ่และมีการสร้างแบรนด์ขึ้นมา มันจะมีประสิทธิภาพมากเลยครับ ดูอย่างหมูเทียนเผิงของเราสิ ผมไม่กล้าพูดว่าคนจีนทั้งประเทศรู้จักหมูของเรา แต่เกือบทุกคนในเมืองรู้จักหมูของเรา นอกจากนี้ ถ้าคุณทำการเลี้ยงปศุสัตว์ขนาดใหญ่ ต้นทุนจะลดลงและจะได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค โรงงานแปรรูปธัญพืชก็เป็นแนวคิดที่ดีเช่นกัน คุณยังสามารถสร้างแบรนด์ได้ด้วย ผมสามารถช่วยคุณได้ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการขาย”

 

ผมจะเป็นผู้จัดจำหน่ายชั้นนำของคุณและไม่ว่าคุณจะผลิตสินค้าอะไรก็ตาม ผมก็สามารถนำมาขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวได้ ดีเลย ผมจะได้เปิดตัวแผนกอาหารเพื่อสุขภาพในซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย สินค้านี้จะแตกต่างจากสินค้าอื่นและเพิ่มผลกำไรได้

 

สินค้าพวกนี้ยังสามารถส่งออกได้ด้วย พี่จีต้องดีใจมากแน่ๆ

 

“นั่นหมายความว่าคุณก็คิดว่าความคิดนี้จะได้ผลใช่มั้ย? จะมีปัญหากับการขายหรือเปล่า?” จางรุ่ยเฉียงถาม

 

“ถ้าคุณภาพของสินค้าดี คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการขายเลยครับ บริษัทของผมสร้างเครือข่ายการจัดจำหน่ายและมีคู่ค้าในทุกจังหวัด หากคุณกังวล คุณสามารถร่วมงานกับบริษัทแปรรูปอาหารไท่หัวและขายภายใต้แบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารไท่หัวได้นะครับ”

 

“ใช้แบรนด์ของคุณงั้นหรอ? ฝันไปเถอะ! เราต้องการสร้างแบรนด์ของเราเอง คุณจะมาเอาทุกอย่างไปเป็นของตัวเองหมดไม่ได้!” จางรุ่ยเฉียงด่าเฝิงหยู่

 

เฝิงหยู่ยิ้ม มันกลายเป็นนิสัยของเขาไปแล้วที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมทุกครั้งที่เขาเห็นธุรกิจที่ทำกำไรได้ ธุรกิจนี้จะทำเงินได้อย่างมาก

 

“งั้นคุณมาเล่าเรื่องพวกนี้ให้ผมฟังทำไม? คุณต้องการความคิดเห็นจากผมงั้นหรอ? นี่เป็นธุรกิจที่ดีและทุกคนก็น่าจะรู้” เฝิงหยู่สงสัย จำเป็นต้องปรึกษาเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยหรอ? ผู้นำที่รัฐบาลระดับจังหวัดไม่สามารถตัดสินใจเรื่องง่ายๆ แบบนี้ได้หรอ?

“ผมต้องการรู้ว่ามันเป็นไปได้หรือเปล่าที่จะนำความคิดทั้งหมดของเราไปใช้ในคราวเดียว ซึ่งรวมถึงการทำฟาร์มวัว แพะ และสัตว์ปีก ผลิตภัณฑ์นมและผลิตภัณฑ์ธัญพืชแปรรูป เราจะผลิตเมล็ดสน ถั่วเฮเซลนัท และอื่นๆ จากป่าด้วย แบบนี้มันจะหลากหลายเกินไปหรือเปล่า? เราควรตั้งหลายบริษัทให้มาจัดการกับสินค้าแต่ละประเภทหรือขายสินค้าทั้งหมดภายใต้บริษัทเดียวดี?”

 

“บริษัทเดียวดีกว่าครับ และคุณสามารถจัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้บริษัทหลักได้ ประโยชน์ของการจัดตั้ง บริษัทเดียวก็คือการบริหารแบรนด์ได้ดีกว่า การบริหารแบรนด์เดียวนั้นคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าการบริหารหลายแบรนด์ ดูอย่างบริษัทเครื่องจักรเมืองปิงสิครับ รถยนต์ของเราก็ใช้แบรนด์ซงเจียงเหมือนกัน ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในแบรนด์นี้และรถยนต์ของเราก็ขายดี แบรนด์นี้ยังช่วยเพิ่มยอดขายรถจักรยานยนต์ของเราอีกด้วย”

 

“คุณกำลังจะบอกว่าเราควรจัดตั้งบริษัทหลักและสร้างแบรนด์หลักก่อน จากนั้นเราค่อยสร้างแบรนด์ย่อยหรือหมวดหมู่สินค้าที่แตกต่างกันให้อยู่ภายใต้แบรนด์นั้นหรอ?”

 

“ถูกต้องครับ” เฝิงหยู่ทำสีหน้ารำคาญ มันช่างเหมือนครูที่กำลังสอนนักเรียนจริงๆ

 

จางรุ่ยเฉียงไม่สนใจเขาและถามต่อไป “นั่นหมายความว่าคุณคิดว่ามันโอเคใช่มั้ยที่เราที่จะทำทุกอย่างพร้อมกันและจะไม่มีปัญหาอะไร?”

 

“ทำไมจะต้องมีปัญหาด้วยล่ะครับ? ฟังนะครับ เราสามารถแยกธัญพืชที่มีคุณภาพดีกว่าจากพืชผลอื่นๆ และนำมาขายเป็นธัญพืชระดับพรีเมี่ยมได้ ส่วนที่เหลือก็เอาไปแปรรูปเพื่อผลิตอาหารสัตว์สำหรับวัว แพะ ไก่ เป็นต้น แบบนี้คุณสามารถลดต้นทุนในการผลิตอาหารสัตว์ได้ด้วย”

 

“สัตว์ที่คุณเลี้ยงก็สามารถเอามาขายได้เป็นเนื้อสัตว์ และคุณจะได้รับไข่จากไก่และเป็ด ซึ่งสามารถนำไปขายได้เช่นกัน คุณสามารถแปรรูปไข่เป็นไข่เค็มหรือไข่เยี่ยวม้าได้ มูลสัตว์ก็สามารถแปรรูปเป็นปุ๋ยสำหรับพืชของคุณได้อีก คุณยังสามารถใช้เรื่องนี้เป็นจุดขาย พวกนี้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์อาหารของคุณที่ใช้ปุ๋ยธรรมชาติและไม่ใช้ยาฆ่าแมลงใดๆ เลย ปศุสัตว์ก็ถูกเลี้ยงด้วยธัญพืชธรรมชาติ คุณยังสามารถใช้วิธีการเลี้ยงปล่อยสำหรับไก่และเป็ดได้ด้วย สัตว์ปีกที่ได้รับการเลี้ยงปล่อยและไข่จะสามารถดึงราคาให้สูงขึ้นได้”

 

“คุณสามารถเลี้ยงโคนมและแพะมากขึ้น และขายนมวัวและนมแพะได้ นมแพะมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่านมวัว หากคุณสามารถผลิตนมผงแพะได้ กำไรของคุณก็จะยิ่งสูง คุณยังสามารถผลิตผลิตภัณฑ์นมได้อีก ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องผลิตภัณฑ์นม ผมสามารถชวนให้เลอฮ่าฮามาจัดตั้งโรงงานในเมืองปิงเพื่อผลิตโยเกิร์ตได้ คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการขายนมของคุณเลย”

 

“การผลิตทั้งหมดนี้มีความเกี่ยวข้องกัน หากคุณทำสิ่งพวกนี้พร้อมกัน ค่าใช้จ่ายของคุณจะลดลงและได้รับผลกำไรที่สูงขึ้น เรายังสามารถทำการตลาดให้บริษัทกลายเป็นฟาร์มเกษตรกรรมระบบนิเวศ เราจะใช้เกษตรกรรมเป็นพื้นฐานและพัฒนาอุตสาหกรรมระดับที่สองและสาม เราจะสามารถอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้และในขณะเดียวกันก็ได้รับผลิตภัณฑ์ตามที่เราต้องการ นี่จะเป็นครั้งแรกในประเทศจีน แค่แนวคิดนี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับจังหวัดที่จะได้รับเงินทุนจากผู้นำระดับสูง โอ้ บริษัทใหม่นี้จะใช้ชื่อว่าอะไรหรอครับ?”

 

“กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง” เลขาหลิวตอบ

 

ห้ะ? กลุ่มบริษัทเป่ยต้าฉาง? เป็นเพราะผมที่ทำให้แบรนด์นี้เกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมงั้นหรอ?