บทที่ 1203 ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน
เยี่ยหวันหวั่นพยายามย้อนนึก กลับพบว่าไม่ได้อะไรสักอย่าง
แปลก เธอความจำดีขนาดนี้ ไม่มีเหตุผลที่จะจำเรื่องซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วไม่ได้เลยสักนิด?
ตอนที่เธอออกแรงคิดต่อ กลับพบว่าส่วนลึกของสมองราวกับถูกโจมตีจากแรงภายนอก เจ็บแปลบขึ้นมาทันที…
“นอนเถอะ”
ร่างกายพลันถูกอ้อมกอดอบอุ่นโอบไว้ เสียงของซือเยี่ยหานที่ข้างหูทำให้สบายใจหาใดเปรียบ
ความเจ็บปวดนั้นเหมือนภาพมายาโดยพลัน หายไปราวกับหมอกควัน
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า นวดคลึงดวงตาที่อ่อนล้า คาดว่าคงเพราะช่วงนี้มีแรงกดดันมากเกินไป ยุ่งจนเกินไป
…
หลายวันต่อมา ตึกใหญ่ของบริษัทเยี่ยกรุ๊ป
เยี่ยหงเหวยเรียกรวมคนเบื้องบนทุกคน และเปิดการประชุมใหญ่ของกรรมการบริหาร
ในห้องประชุม ตำแหน่งทางซ้ายของเยี่ยหงเหวยคือเยี่ยเส่าอัน ตำแหน่งที่สองคือเยี่ยอีอี ข้างๆ กับเยี่ยอีอีคือกู้เยว่เจ๋อ
ส่วนข้างขวาของเยี่ยหงเหวยคือเยี่ยมู่ฝาน ข้างๆ เยี่ยมู่ฝานคือเยี่ยหวันหวั่น
เหล่าผู้นำเบื้องบนและกรรมการบริหาร ลำพังแค่เห็นตำแหน่งที่นั่งนี้ก็ได้แต่มองหน้ากันไปมา ไม่กล้าหายใจแรง
ตั้งแต่ผลของรางวัลจินหลานออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อน รวมถึงเรื่องที่งานเลี้ยงแพร่สะพัดออกมา ทั่วทั้งเยี่ยกรุ๊ปก็แตกตื่น
ทุกคนต่างรู้กัน เกรงว่าบริษัทนี้จะเปลี่ยนขั้วอำนาจแล้ว
เยี่ยหงเหวยที่อยู่ด้านข้างกระแอมเสียงเบาก่อนเอ่ยปาก “ทั้งสองคนข้างๆ ฉัน ทุกคนน่าจะรู้จักดีแล้ว ประธานของจูเสินสือไต้เยี่ยมมู่ฝาน กับผู้อำนวยการฝ่ายจัดการนักแสดงเยี่ยหวันหวั่น นอกจากนั้น ทุกคนต่างรู้ว่าก่อนหน้านี้ ตำแหน่งผู้จัดการของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์มีคุณกู้เยว่เจ๋อรับผิดชอบตำแหน่งชั่วคราว”
เยี่ยหงเหวยพูดพลางมองไปทางกู้เยว่เจ๋อ “เยว่เจ๋อ ช่วงนี้ต้องขอบคุณเธอที่ช่วยแล้ว”
กู้เยว่เจ๋อสีหน้าท่าทางสุขุมมีมารยาท เอ่ยอย่างถ่อมตัวว่า “ประธานกรรมการเยี่ยเกรงใจแล้วครับ ต่างก็ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ผมสมควรทำครับ”
เยี่ยอีอีที่อยู่ด้านข้างไม่เอ่ยวาจา บนใบหน้าอมยิ้มบางๆ ดูเหมาะสม ทว่าในใจมืดครึ้มนานแล้ว
หลายวันนี้เธอคิดวิธีนับไม่ถ้วนอย่างสุดความสามารถ และยังคาดหวังสูงว่าผู้อาวุโสจะไม่มีทางวางใจเยี่ยมู่ฝานขนาดนั้น แต่นึกไม่ถึงว่าเรื่องยังพัฒนามาถึงจุดที่แย่ที่สุด
เยี่ยหงเหวยเห็นแบบนั้นก็พยักหน้าพอใจ จากนั้นเขามองเยี่ยมู่ฝานแล้วพูดต่อ “หลังการสังเกตการณ์ในช่วงนี้ ความสามารถของเยี่ยมู่ฝาน คิดว่าทุกคนก็เห็นชัดกันแล้ว ดังนั้นฉันตัดสินใจว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะให้เยี่ยมู่ฝานรับผิดชอบตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์”
พริบตาที่เยี่ยหงเหวยพูดจบ ทุกคนนิ่งเงียบหนึ่งวินาทีก่อน คนไม่น้อยมองไปทางเยี่ยเส่าอันกับเยี่ยอีอีโดยไม่รู้ตัว สีหน้าเหมือนลังเลอยู่บ้าง
แต่ยังคงมีเสียงปรบมือดังประปราย สุดท้ายก็เป็นเสียงปรบมืออย่างอุ่นหนาฝาคั่งทั่วทั้งห้องประชุม
เวลานี้เบื้องบนทุกคนต่างถอนหายใจไม่จบสิ้น ใครจะคาดเดาได้ว่า ครอบครัวเยี่ยเส่าถิงถูกไล่ออกไปไม่ต่างจากหมาจรจัดเมื่อสามปีก่อนจะยังมีวันได้กลับมา
เยี่ยมู่ฝานตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว พวกเขายังต้องดูไปก่อน อย่าล่วงเกินเป็นดี
ยิ่งไปกว่านั้น…ข้างเขายังมีเยี่ยหวันหวั่น…ผู้ช่วยที่แข็งแกร่งขนาดนี้…
สองพี่น้องนี่ต่างก็ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน**[1]**
เทียบกับลูกเขยกู้เยว่เจ๋อแล้ว ไม่ว่ามองยังไงเยี่ยมู่ฝานหลานชายคนนี้ก็ใกล้ชิดมากกว่า
ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ทุกอย่างยังไม่แน่นอน…
เมื่อเห็นภาพรวมถูกตัดสินแล้ว ในที่สุดเยี่ยเส่าอันก็ทนจนไม่อาจทนได้ ตบโต๊ะอย่างแรง “ผมไม่ยอมรับ! คุณพ่อ เจ้าเด็กนี่มันนิสัยยังไง คุณพ่อยังไม่เข้าใจดีเหรอ คุณพ่อลองคิดดูตอนที่เด็กนี่อยู่ในบริษัท มันทำลายบริษัทจนกลายเป็นยังไงบ้าง”
เยี่ยหงเหวยมองลูกชายคนรองที่เสียความเยือกเย็นของบ้านตน คิ้วขมวดเล็กน้อย…
——————————————————————————
บทที่ 1204 ใครมีความสามารถก็ได้ตำแหน่ง
เยี่ยหงเหวยเอ่ยเสียงเข้ม “เส่าอัน ฉันเคยบอกนานแล้ว เยี่ยกรุ๊ปคือเลือดเนื้อของฉัน ไม่ว่ากับใครฉันก็จะไม่ลำเอียงทั้งนั้น มีแค่หลักการเดียวคือ ใครมีความสามารถก็ได้ตำแหน่ง
ก่อนหน้านี้ผลงานของมู่ฝานในเยี่ยกรุ๊ปไม่ดีจริง ฉันเลยให้เขารับบทลงโทษ แต่ตอนนี้เขาใช้ความสามารถพิสูจน์ตัวเองแล้ว ฉันเลยให้โอกาสเขาอีกครั้งเหมือนเก่า ถ้าเขาทำไม่ดี ฉันก็ให้เขาออกไปเหมือนเดิม”
เป็นอย่างที่เยี่ยหวันหวั่นคาดการณ์ ผู้อาวุโสไม่ได้สนใจข้อกังขาของเยี่ยเส่าอัน
สิ่งที่ผู้อาวุโสใส่ใจมากที่สุดคือทรัพย์สินของตระกูลที่เขาเสียเลือดเนื้อแรงใจสร้างขึ้นมา ดังนั้นก็เหมือนอย่างที่เขาพูด เงื่อนไขที่เขาจะยอมรับคนมีอย่างเดียวคือ ‘ใครมีความสามารถก็ได้ตำแหน่ง’
การสร้างความประทับใจก่อนหน้านี้เป็นแค่ของเสริม สุดท้ายมีแค่อย่างเดียวที่โน้มน้าวผู้อาวุโสได้ นั่นก็คือความสามารถ
ขอแค่สร้างผลงานได้ ไม่ว่าเยี่ยเส่ากับเยี่ยอีอีจะเต้นเร่าอีกอย่างไร โวยวายอีกแค่ไหน เยี่ยหงเหวยก็จะไม่เปลี่ยนความคิดเด็ดขาด
ยิ่งไปกว่านั้นแต่ไหนแต่ไรผู้อาวุโสก็ไม่ได้ไว้วางใจกู้เยว่เจ๋อทั้งหมด
ตอนนั้นเป็นแค่เพราะตระกูลเยี่ยโกลาหล ไร้คนใช้งานจริงๆ จึงยอมรับกู้เยว่เจ๋อมารับตำแหน่งชั่วคราวภายใต้การโน้มน้าวของเยี่ยอีอีกับเยี่ยเส่าอัน
สุดท้าย เรื่องที่เยี่ยมู่ฝานเข้าหวงเทียนเอ็นเตอร์เทนเมนต์ก็ยังคงกำหนดไว้แบบนี้
การประชุมจบลงท่ามกลางบรรยากาศหนักอึ้ง เยี่ยเส่าอันไม่สนการห้ามปรามของเยี่ยอีอี ล้มโต๊ะก่อนจากไปด้วยความฉุนเฉียว
นอกห้องประชุม
เยี่ยอีอีปกปิดความอิจฉาเกลียดชังในดวงตา “มู่ฝาน ยินดีต้อนรับกลับ จากนี้ไปต้องทำงานด้วยกันแล้ว มีตรงไหนไม่เข้าใจ ถามฉันได้เต็มที่เลย”
เยี่ยมู่ฝานแค่นหัวเราะเบาๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อน บางทีเขาอาจยังถูกลูกพี่ลูกน้องหญิงที่ดูอ่อนโยนเอาใจใส่คนนี้หลอกเอาจริงๆ
ตอนนี้ ยังมองเขาเป็นคนโง่อยู่เหรอ?
เยี่ยมู่ฝานกำลังจะเอ่ยปาก ก็พบว่าเยี่ยหวันหวั่นกับกู้เยว่เจ๋อหายไปพร้อมกันแล้ว จึงสบถเบาๆ จากนั้นหันมองเยี่ยอีอีด้วยสีหน้าถมึงทึง “ฉันไม่รบกวนเธอให้เป็นห่วงหรอก ดูผู้ชายของเธอให้ดีๆ อย่าให้มายั่วหวันหวั่น ไม่งั้นรับผิดชอบผลที่ตามมาด้วย!”
เยี่ยมู่ฝานพูดจบก็รีบร้อนไปหาคน
พริบตาที่เยี่ยมู่ฝานหันกายจากไป สีหน้าของเยี่ยอีอีมืดทะมึนถึงขีดสุดทันที
สุดทางระเบียงที่ไร้ผู้คน
กู้เยว่เจ๋อมองเยี่ยหวันหวั่นตรงหน้าที่ดูราวกับเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิง สายตาพินิจมองตัวของหญิงสาวขึ้นลง “หวันหวั่น ยินดีด้วย”
เยี่ยหวันหวั่นมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “มีอะไรก็พูดมาตามตรง”
กู้เยว่เจ๋อเอ่ยอย่างเป็นสุภาพบุรุษ “คืนนี้ว่างไหม ไปดื่มด้วยกันสักแก้วเอาไหม?”
เวลานี้ ในดวงตาของกู้เยว่เจ๋อฉายประกายอย่างนักล่า
เยี่ยเส่าอันแทรกซึมเข้าไปในตระกูลเยี่ยสามปี ฝังรากลึกมั่นคงแล้ว ด้วยความสามารถของเยี่ยมู่ฝานตอนนี้ อยากจะสั่นคลอนเขายังไม่แน่ว่าจะทำได้
ดังนั้นเขาไม่ร้อนใจแม้แต่น้อย แต่นั่งบนภูดูเสือกัดกัน
ตอนนี้สิ่งทำให้เขาสนใจมากที่สุดกลับเป็น…เยี่ยหวันหวั่น…
ผู้หญิงคนนี้…ทำให้เขาสนใจมากขึ้นทุกที…
ทำไมเมื่อก่อนไม่เคยค้นพบ ยัยโง่ที่ทำให้คนขยะแขยงนั่นกลับมีหน้าตาน่าดึงดูดขนาดนี้…
ความจริงเยี่ยหวันหวั่นไม่อยากมาแม้แต่น้อย แต่ไม่รู้ทำไม ความสนใจที่มีต่อกู้เยว่เจ๋อในจิตใต้สำนึกก็ยังทำให้เธอมา
ผลคือได้ยินประโยคเอ่ยชวนด้วยตัวเองนี้ของกู้เยว่เจ๋อ
กู้เยว่เจ๋อที่มองเธอเป็นสัตว์ประหลาดกลับเป็นฝ่ายออกปากชวน อีกทั้งท่าทียังเกรงใจกันแบบนี้ พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกชัดๆ
เมื่อก่อนมีครั้งไหนบ้างไม่ใช่เธอที่พัวพันและคอยตามก้นเขา จากนั้นก็ได้รับความรังเกียจและเย็นชากลับมา
ในโลกที่มองคนที่หน้าตานี้…
………………………………………….
[1] ไม่ใช่ตะเกียงประหยัดน้ำมัน หมายถึง คนมากเรื่อง คนที่จัดการได้ยาก