แดนนิรมิตเทพ บทที่ 924
หยางจื่อหนิงมองศาสตราจารย์เสิ่นด้วยสีหน้านิ่งเฉย “นายแน่ใจว่าจะเสี่ยง?”

สายตาของทุกคนที่มองไปยังศาสตราจารย์เสิ่น ล้วนเต็มไปด้วยความสะใจ ดูสิว่าศักดิ์ศรีของตัวศาสตราจารย์เสิ่นเองที่สำคัญ หรือว่าสิทธิ์เข้าแข่งขันที่ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยหัวหนานทิ้งศักดิ์ศรีไปขอมานั้นสำคัญ

ในขณะที่ทุกคนคิดว่าศาสตราจารย์เสิ่นจะมีความลำบากใจต่อการตัดสินใจ แต่ศาสตราจารย์เสิ่นกลับให้คำตอบออกมาอย่างไม่ลังเลสักนิด

“ผมมั่นใจ!”

“หากว่าฝีมือความสามารถของเฉินโม่ต่ำกว่าที่งานแลกเปลี่ยนกำหนด มหาวิทยาลัยหัวหนานของพวกเรายินดีมอบสิทธิ์การเข้าร่วมแข่งขันคืนให้”

ศาสตราจารย์เสิ่นสีหน้าจริงจัง น้ำเสียงหนักแน่น เด็ดเดี่ยว

“ศาสตราจารย์เสิ่นครับ!” หวางเฉิงตกใจ แม้ว่างานแลกเปลี่ยนสิบแปดครั้งก่อน มหาวิทยาลัยหัวหนานจะอยู่อันดับท้ายมาตลอด แต่ถ้าให้เสียสิทธิ์การเข้าร่วมแข่งขันไปด้วยเลย อย่างนั้นมหาวิทยาลัยหัวหนานก็จะไม่ม่โอกาสในการเอาชนะได้อีก

พวกจางซินเหมิงเองก็มองศาสตราจารย์เสิ่นด้วยสีหน้าร้อนรน หวังว่าเขาจะเปลี่ยนใจ

ศาสตราจารย์เสิ่นไม่สนใจพวกเขา มองไปที่หยางจื่อหนิงด้วยสายตามั่นใจ เขารู้ว่าเพียงแค่ผ่านด่านหยางจื่อหนิงไปได้ คนอื่นๆก็จะไม่พูดอะไรอีก

หยางจื่อหนิงมองศาสตราจารย์เสิ่นอย่างจริงจังอยู่นาน สีหน้าแย่มาก เห็นได้ชัดว่าโมโห

แต่ เขามีมารยาทอย่างมาก ไม่ได้โวยวายอะไร เพียงหันหลังเดินกลับที่นั่ง แล้วพูดว่า “ตกลง ในเมื่อนายยกย่องเขามากขนาดนี้ อย่างนั้นก็ให้เขาได้ลองดู หากแพ้ มหาวิทยาลัยหัวหนานของพวกนายจะถูกยกเลิกสิทธิ์การเข้าร่วมแข่งขันในงานแลกเปลี่ยนตลอดไป!”

นักศึกษาหกคนของมหาวิทยาลัยหัวหนาน รู้สึกเศร้าเสียใจทันที นั่งเหม่อลอยบนเก้าอี้อย่างนิ่งอึ้ง

ศาสตราจารย์เสิ่นกัดฟันแน่น ถึงแม้เขารู้ว่าการให้เฉินโม่เป็นตัวแทนเขา จะต้องแลกเปลี่ยนอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีการขัดขวางหนักขนาดนี้

ศาสตราจารย์เสิ่นยืนมองเฉินโม่ที่อยู่บนเวทีเงียบๆ ในแววตามีความปลื้มใจ “เฉินโม่ สิ่งที่ฉันสามารถทำได้ฉันก็ทำไปแล้ว ที่เหลือต้องพึ่งนายแล้วละ”

เป็นอย่างที่ศาสตราจารย์เสิ่นคาดการณ์ไว้ เมื่อหยางจื่อหนิงไม่พูดอะไร ก็ไม่มีอะไรโวยวายอีก ถึงแม้ทุกคนจะไม่เชื่อใจตัวเฉินโม่ก็เถอะ

เฉินโม่ยืนอยู่บนเวทีเงียบๆ รู้สึกได้ถึงสายตามากมายจากรอบทิศที่มองมา แม้ว่าสายตาพวกนั้นล้วนไม่เป็นมิตร แต่ก็ทำให้เฉินโม่รู้สึกว่ามีภาระบนบ่าหนักมากขึ้นกว่าเดิม

“ผมเริ่มได้หรือยัง?” เฉินโม่สีหน้านิ่งเฉย ถามเสียงเรียบ

พิธีกรเหมือนว่าจะยังไม่ได้สติ แต่เมื่อได้ยินเสียงของเฉินโม่ สะดุ้งทีหนึ่งแล้วรีบร้อนพูดว่า “อ้อ ได้แน่นอน”

เฉินโม่พยักหน้า เดินไปยังตำแหน่งแท่นกล่าวสุนทรพจน์

ด้านล่าง ทุกคนต่างก็จ้องมองเฉินโม่ สายตาเต็มไปด้วยความดูถูก

หานทงยิ้มเยาะ “น่าสนใจจริงๆ ศาสตราจารย์เสิ่นให้มันเข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ระดับอาจารย์แทนตัวเอง แล้วเจ้าคนนี้ก็ช่างกล้าตอบตกลง!”

ในสายตาของหานทง หากให้เขาเข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ระดับอาจารย์ อย่างน้อยก็ต้องรออีกยี่สิบปีข้างหน้า แต่นักศึกษาปีหนึ่งอย่างเฉินโม่ กลับกล้าขึ้นเวทีจริงๆ

รนหาเรื่องอับอายจริงๆ!

อานเข่อเยว่ขมวดคิ้วมองเฉินโม่ สีหน้าเคร่งขรึม “จากที่ฉันรู้จักเขามา หากเป็นเรื่องที่ไม่มีความมั่นใจมากพอ เขาจะไม่มีวันทำ แต่เขาเป็นแค่นักศึกษาปีหนึ่ง ทักษะความสามารถจะสามารถมาเทียบกับผู้อาวุโสมากมายได้ยังไงกัน!”

หมิงเจ๋อเสวียนขมวดคิ้ว มองเฉินโม่ที่อยู่บนเวที พูดเสียงทุ้มว่า “บางทีเขาอาจจะไม่ได้เก่งอย่างที่คิด หรือบางที เขาแต่อยากจะได้ชื่อเสียงสักหน่อย”

เฉินโม่ยืนอยู่ตรงแท่น สีหน้าเรียบเฉย ยืนตัวตรง สายตาที่ลึกซึ้งกวาดมองทุกคนด้านล่าง

แม้เผชิญหน้ากับผู้อาวุโสทางชีววิทยาพวกนั้น หรือสายตาเยือกเย็นของทุกคน หรือแม้การที่ทุกคนรอดูเฉินโม่อับอาย

เฉินโม่ก็ไม่หวาดกลัวสักนิด สีหน้าเรียบเฉย มีความกล้าหาญเผชิญหน้ากับทุกสิ่งอย่าง