บทที่ 2194+2195

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2194 บีบให้แต่ง 2

แน่นอน เขาหลอกถามได้แยบยลนัก หากมิใช่ว่ากู้ซีจิ่วเฉียบแหลมล่ะก็ แทบจะจับเจตนาจากบทสนทนาของเขาไม่ออกเลย

“กว่าร้อยปีมานี้พวกเขาถูกขังไว้ในหุบเขาแห่งนั้นมาตลอดเลยหรือ? ผู้คนที่รอดชีวิตในปีนั้นเหลือเพียงหัวหน้าเผ่าของพวกเจ้าคนเดียวสินะ?”

กู้ซีจิ่วพยักหน้า

“ใช่แล้ว”

เย่หลิงหมุนจอกสุราในมือ ยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น พลางเอ่ยถามประโยคหนึ่ง

“ผู้ที่หนีรอดออกมาในครั้งนี้ มีบุตรธิดาของเขาอยู่กี่คน?”

กู้ซีจิ่วมองดูนิ้วมือที่สวมปลอกนิ้วของเขา ตั้งใจมองนิ้วก้อยของเขาแวบหนึ่ง เอ่ยตอบว่า

“ไม่มี เขามีลูกชายคนเดียว แต่โดนสัตว์ร้ายฉีกทึ้งไปแล้ว”

เย่หลิงหรี่ตาลงนิดๆ แววยะเยือกวาบผ่านนัยน์ตา ทว่าแย้มยิ้มแวบหนึ่ง

“เป็นถึงหัวหน้าเผ่า แต่กลับปล่อยให้บุตรชายคนเดียวถูกสัตว์เขมือบได้ ไร้ประโยชน์นัก! ภรรยาของเขาไม่สู้ตายกับเขาหรืออย่างไร?”

“ภรรยาเขาจากโลกไปนานแล้ว”

กู้ซีจิ่วก็ไม่เคยเจอเหมือนกัน แต่เคยได้ยินหัวหน้าเผ่าเล่า ภรรยาของเขาเคยเป็นสาวใช้คนหนึ่งของเขา…

เย่หลิงหมุนจอกสุราในมือ

“ที่แท้ก็ตายไปแล้ว หัวหน้าเผ่าของพวกเจ้าช่างโชคร้ายเสียจริง!”

กู้ซีจิ่วไม่พูดอะไร เธอรู้สึกว่าในวาจาของเจ้าเมืองผู้นี้คล้ายจะแฝงความยินดีในคราวเคราะห์ของผู้อื่นเอาไว้ และคล้ายว่าจะโกรธเกรี้ยวด้วย…

รวมๆ แล้วค่อนข้างประหลาด

ทั้งสองดื่มกันอีกสองสามจอก สายตาของเย่หลิงจดจ่ออยู่ที่หน้าเธอ จู่ๆ ก็เอ่ยยิ้มๆ ว่า

“แม่นางกู้กับคุณชายตี้ท่านนั้นดูไม่คล้ายคนของพวกเราทางนี้จริงๆ…”

กู้ซีจิ่วยิ้มแวบหนึ่งไม่พูดอะไร

รูปลักษณ์ของเธอกับตี้ฝูอีไม่ค่อยเหมือนผู้คนในเมืองนี้จริงๆ คนที่นี่เบ้าตาลึก จมูกสูงโด่ง ผิวพรรณถึงแม้จะขาว แต่ก็ไม่นับว่าเนียนละเอียด…

“ทั้งสองท่านมาจากที่ใดหรือ? แล้วไปที่หุบเขาแห่งนั้นได้อย่างไร?”

“เพียงคนตกยากที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ไยท่านเจ้าเมืองต้องเค้นถามถึงประวัติความเป็นมาด้วย? ส่วนที่ไปถึงหุบเขาแห่งนั้นก็บังเอิญหลงเข้าไปเท่านั้น”

ดวงตาของเย่หลิงจ้องมองเธออยู่พักหนึ่ง จู่ๆ ก็ยิ้มออกมา

“ในหุบเขาแห่งนั้นมีเขตแดนกางกั้น คนนอกยากจะเข้าไปได้ ไม่น่าเชื่อว่าทั้งสองท่านจะบังเอิญพลัดหลงเข้าไป พบเห็นได้ยากโดยแท้”

กู้ซีจิ่วก็ยิ้มเช่นกัน

“ที่แท้ท่านเจ้าเมืองก็ทราบด้วยว่าที่นั่นมีเขตแดนผนึกอยู่ เห็นทีว่าท่านเจ้าเมืองจะเคยไปที่นั่นมาก่อนกระมัง?”

“ผ่านทางไปบ้างยามที่ไปล่าสัตว์ ด้วยเหตุนี้จึงทราบความ เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าด้านในจะมีประชาชนถูกขังไว้มากมายปานนี้ ที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่าคือยอดฝีมือเช่นแม่นางก็ถูกขังไว้ด้านในด้วย…”

กู้ซีจิ่วโคลงจอกสุราในมือ

“ทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น”

จู่ๆ เย่หลิงก็ถอนหายใจ

“แม่นางเป็นเช่นนี้ อันที่จริงแล้วเหมือนคนผู้หนึ่งยิ่งนัก”

“หืม เหมือนผู้ใด?”

“ฮูหยินของข้า”

กู้ซีจิ่วชะงักไปแวบหนึ่ง เป็นวิธีตีสนิทที่ห่วยสิ้นดี!

เธอยิ้มแวบหนึ่ง

“นั่นช่างเป็นเกียรติของซีจิ่วโดยแท้”

เธอยื่นจอกสุราไปชนจอกกับเย่หลิง ออกแรงที่มือมากไปหน่อย ในการชนครั้งนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะชนจนจอกสุราของอีกฝ่ายแตก สุราหกรดมือเย่หลิง

“ไอ๋หยา ขออภัยด้วย”

กู้ซีจิ่วขอโทษ พลางหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวผืนหนึ่งออกมาเช็ดมือให้อีกฝ่าย

ในการเช็ดครั้งนี้ ได้นำปลอกนิ้วที่มือของอีกฝ่ายมาเช็ดด้วย

ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ได้เห็นนิ้วก้อยมือขวาของอีกฝ่ายแล้ว ด้วนไปเล็กน้อยจริงๆ…

แววตาเย่หลิงวูบไหว มองดูกู้ซีจิ่ว นัยต์ตาคล้ายมีระลอกคลื่นอยู่

“แม่นางกู้…”

ยื่นมือออกไปหมายจะจับมือของกู้ซีจิ่ว ทว่ากู้ซีจิ่วกลับชักกลับไปอย่างไร้สุ้มเสียง มือซ้ายของเขาก็คว้าลงบนมือขวาของตนเท่านั้น

————————————————————————————-

บทที่ 2195 บีบให้แต่ง 3

เขาถอนหายใจเบาๆ

“แม่นางกู้ปราดเปรื่องงดงาม ไม่ทราบว่าวางแผนการวันหน้าไว้อย่างไร? เจ้าน่าจะรู้นี่ เมืองลั่วฮวาแห่งนี้อยู่ยาก คนที่เจ้าพามาพวกนั้นส่วนใหญ่เป็นได้เพียงชนชั้นต่ำสุดของที่นี่…”

กู้ซีจิ่งพลันเอ่ยขึ้น

“ด้วยความสามารถของข้า ไม่มีทางปล่อยให้พวกเขากลายเป็นชนชั้นต่ำ!”

เย่หลิงยิ้มแล้ว

“ฝีมือของแม่นางกู้แกร่งกล้ายิ่งนักจริงๆ ตามกฎของเมืองลั่วฮวา สามารถไปถึงตำแหน่งแม่ทัพได้ มีคฤหาสน์มีข้ารับใช้ แต่ก็จำกัดเพียงพวกเจ้าสองคนเท่านั้น ในเมืองลั่วฮวามีการแบ่งชนชั้นประชากรอย่างเข้มงวด ถึงแม้เจ้าจะได้รับคฤหาสน์ แต่ข้ารับใช้ในจวนก็ต้องเป็นคนที่เจ้าเมืองอย่างข้าคัดเลือกส่งไปให้ ไม่อาจใช้คนของตนได้ ชาวบ้านเหล่านั้นที่เจ้าพามาไม่อาจเป็นข้ารับใช้ของเจ้าได้ พวกเขาสามารถหาเลี้ยงชีพได้ตามกฎของเมืองลั่วฮวาเท่านั้น…”

กล่าวอีกอย่างก็คือ เหล่าบุรุษต้องทำงานหยาบกระด้างเหนื่อยล้า เหล่าสตรีก็ต้องไปเป็นทาสเป็นสาวใช้หรือแม้กระทั่งนางโลม…

เย่หลิงมองเธอ สายตาคมกริบดุจใบมีด

“นี่คือกฎของเมืองลั่วฮวา นอกเหนือจากข้าผู้เป็นเจ้าเมืองแล้ว ใครหน้าไหนก็ไม่อาจฝ่าฝืนได้!”

กู้ซีจิ่วเม้มปากเล็กน้อย จู่ๆ ก็ยิ้มแวบหนึ่ง ถึงแม้ผิวเธอจะยังเป็นสีน้ำตาลอ่อนอยู่ แต่เครื่องหน้างดงามล้ำเลิศ รอยยิ้มนี้จึงปานบุปผาล้ำค่าที่เบ่งบาน

“เช่นนั้นต้องทำอย่างไรท่านเจ้าเมืองถึงจะยอมผ่อนผัน?”

นัยน์ตาหงส์ที่ส่องประกายวาววามคู่นั้นของเย่หลิงมองดูเธอ ค่อยๆ กล่าวออกมาไม่กี่คำ

“มาเป็นสตรีของข้า!”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วทันที

“หือ?”

“เจ้าเมืองอย่างข้าปราณีต่อสตรีของตนเท่านั้น”

กู้ซีจิ่วเงียบไปพักหนึ่ง

“ท่านเจ้าเมืองกล่าวเช่นนี้มิเกินไปหน่อยหรือ? แล้วลูกน้องที่จงรักภักดีเหล่านั้นของท่านเล่า? เขากระทำเรื่องราวเพื่อท่านมากมายถึงเพียงนั้น ท่านไม่เมตตาปราณีพวกเขาหรือ?”

เย่หลิงหยักยิ้มมุมปาก

“เจ้าเมืองอย่างข้ามองพวกเขาเป็นเพียงสุนัขรับใช้เท่านั้น”

ขอเพียงมอบเนื้อมอบกระดูกให้เพียงพอ เขาก็ไม่ต้องพะวงแล้วว่าพวกเขาจะทรยศ ยิ่งไปกว่านั้นคือเมืองลั่วฮวาแห่งนี้ขาดเขาไม่ได้…

กู้ซีจิ่วถอนหายใจเบาๆ

“ท่านเจ้าเมืองกล่าวเช่นนี้ย่อมเป็นการหักหาญน้ำใจของเหล่าลูกน้อง หากว่าแพร่งพรายออกไปล่ะก็…”

เย่หลิงกล่าวขึ้นว่า

“ไม่มีทางแพร่งพรายออกไปได้”

พลางหันกลับไปมองหญิงทั้งสองนางที่อยู่ด้านหลัง หญิงสาวสองนางนั้นหน้าซีด ฝืนแย้มยิ้มแสดงความภักดี

 “ท่านเจ้าเมืองวางใจเถิดเจ้าค่ะ พวกบ่าวไม่แพร่งพรายออกไปเด็ดขาด”

เย่หลิงยิ้ม ยื่นมือไปรินสุราสองจอกแล้วส่งให้

“เด็กดี ตกรางวัลสุรานี้ให้พวกเจ้าแล้วกัน”

หญิงสาวสองนางนั้นมองหน้ากับแวบหนึ่ง ไม่กล้ารับ

สีหน้าเย่หลิงขรึมลงทันที

“ทำไม? สุราที่เจ้าเมืองอย่างข้าตกรางวัลให้พวกเจ้าก็ไม่กล้าดื่มหรือ? กลัวว่าเจ้าเมืองอย่างข้าจะวางยาพิษพวกเจ้าหรือไง?”

หญิงสาวทั้งสองคุกเข่าลงเสียงดังตุบ ไม่กล้าแม้แต่จะปริปาก แต่ละคนต่างรีบยื่นมือไปรับสุรามาดื่มลงไป…

….

สีหน้าสตรีทั้งสองเขียวคล้ำ ตายคาที่

เย่หลิงวางยาพิษพวกนางจริงๆ ซ้ำยังเป็นพิษสามอึดใจตายที่ร่ำลือกันด้วย สตรีสองนางนั้นดื่มสุราลงไปยังไม่ถึงสิบวินาที พิษนั้นก็ออกฤทธิ์แล้ว สตรีสองนางนั้นทรุดลงบนพื้นร้องอุทานออกมาเพียงคราเดียว ก็สิ้นลมแน่นิ่งไปทันที  ว่องไวยิ่งกว่าใช้ดาบตัดหัวเสียอีก!

พิษร้ายแรงเช่นนี้ต่อให้เป็นกู้ซีจิ่วก็ไม่อาจช่วยเหลือได้ทัน เธอนั่งอยู่ตรงนั้น ในมือยังคงกุมจอกสุราไว้ ฝ่ามือมีเหงื่อเย็นเฉียบซึมออกมา

เย่หลิงมองดวงหน้าน้อยๆ ที่ซีดเซียวอยู่บ้างของนาง แย้มยิ้ม เอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน

“มีเพียงคนตายถึงจะรักษาความลับไว้ได้จริงๆ เจ้าเมืองอย่างข้าเชื่อใจเพียงคนตายเท่านั้น”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว

“พวกนางมิใช่สตรีของท่านหรือ?”

เย่หลิงส่ายหน้า

“แน่นอนว่าไม่ใช่ พวกนางเป็นเพียงนางบำเรอเท่านั้น ผู้ที่สามารถเป็นสตรีของเจ้าเมืองอย่างข้าได้มีไม่ถึงห้าคน ซีจิ่ว เจ้าก็นับเป็นหนึ่งในนั้นได้”

ไอ้ปีศาจที่น่าตาย วิปริต!

นิ้วมือภายในแขนเสื้อของกู้ซีจิ่วทำมุทราไว้ ทว่าสีหน้ากลับเรียบเฉย ยิ้มจางๆ แวบหนึ่ง

———————————————–