Dual Cultivation บทที่ 633 สาวนักฟน

 

“ข้า … ข้าไม่เป็นไร … ข้าไม่เป็นไรจริงๆ … ” ศิษย์จีพูดด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ําตาดูราวกับว่าเธอสามารถร้องไห้ได้ทุกเมื่อ

 

“ช่างเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถในการฟื้นตัว ข้าคงจะต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ ถ้าข้าต้องรับอวัยวะเพศที่ใหญ่ขนาดนั้นอย่างแรง ตอนที่เป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์มาก่อน” โหลวหลานจีนึกใจใจแอบชื่นชมศิษย์จีในใจเงียบๆ

 

“ให้ข้าช่วยบรรเทาความเจ็บปวดแก่เจ้า” จากนั้นซูหยางก็จิ้มท้องของเธอด้วยนิ้วชี้ที่เปล่งประกายแสงอันอบอุ่น

 

อย่างรวดเร็วศิษย์จสามารถรู้สึกได้ว่าความเจ็บปวดที่ส่วนล่างได้สลายตัวไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความเจ็บปวดจะหายไป แต่เลือดก็ไม่ได้หยุดไหลยังคงไหลออกจากถ้ําของเธอ

 

“วันนี้เจ้าต้องการหยุดเพียงแค่นี้ไหม” ซูหยางถามเธอในเวลาต่อมา

 

“ม-ไม่” เธอส่ายหน้าอย่างรวดเร็วก่อนจะพูดว่า “ข้ารับมือได้ มันแค่เจ็บและมีเลือดนิดหน่อย ในที่สุดมันก็จะหยุด”

 

เมื่อเห็นท่าทางกล้าหาญและดื้อรั้นบนใบหน้าที่สง่างามของเธอ ซูหยางก็พยักหน้าและพูดว่า “ตอนนี้เจ้าสามารถเคลื่อนไหวได้ตามความต้องการของเจ้าเอง เมื่อเจ้ารู้สึกสบายขึ้นแล้วขาก็จะเริ่มขยับ”

 

“เจ้าค่ะ”

 

จากนั้นศิษย์ก็หายใจเข้าและหายใจออกลึกๆ สองสามครั้งก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืน ต่อจากนั้นเธอก็เริ่มขยับสะโพกขึ้นและลงในขณะที่ควบขับแก่นกายของซูหยางด้วยการเคลื่อนไหวที่เงอะงะแต่เร่าร้อน

 

ปั่บ ปั่บ ปั่บ

 

ซูหยางรู้สึกได้ว่าบั้นท้ายนุ่มของเธอกระทบกับหัวเหน่าทุกครั้งที่เธอขยับ

 

“ฮ่าาาาา…ฮ่าาา..ฮ่าาาาา…”

 

ศิษย์จีครางออกมาด้วยเสียงน่ารัก ขณะที่เธอรู้สึกว่าแท่งแกร่งของซูหยางครูดผนังด้านในของเธอทุกจังหวะ ทําให้ดอกไม้ของเธอมีน้ํารักไหลออกมา

 

และหลายนาทีต่อมาเมื่อความเจ็บปวดทั้งหมดของเธอหายไป ซูหยางก็จับสะโพกของเธอและพูดว่า “ข้าจะดูแลเจ้าต่อจากนี้”

 

เมื่อศิษย์จีพยักหน้า ซูหยางก็ดึงร่างของเธอลงพร้อมกับดันสะโพกไปข้างหน้า

 

“อ้าาาาา”

 

เมื่อรู้สึกว่าแก่นกายของซูหยางแทงถึงส่วนที่ลึกที่สุดในถ้ําของเธอ ศิษย์จีกรีดร้องด้วยความยินดีในขณะที่ร่างกายของเธอนั้นสั่นสะท้านจากความสุข ซูหยางใช้เพียงการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวเพื่อกระชากวิญญาณของเธอเข้าสู่สวรรค์

 

ในเวลาต่อมาปราณหยินก็ไหลออกมาจากถ้ําของศิษย์จีราวกับน้ําตก

 

“นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น” ซูหยางพูดในขณะที่เขายังคงเคลื่อนไหวต่อไปแม้ว่าเธอจะถึงจุดสุดยอดไปแล้ว

 

“อ้าาาาา “

 

ถ้ำของศิษย์จีพ่นปราณหยินราวกับว่ามันเป็นเพื่อนที่พังทลายลง อาบย้อมผนังห้องด้านหลังด้วยของเหลวที่เป็นประกายระยิบระยับ

 

“ช-ช่างเป็นสาวนักพ่นที่มีความสามารถอะไรเช่นนี้ … ” โหลวหลานจีพิมพ์ด้วยเสียงที่งงงันหลังจากเห็นวิธีที่ศิษย์จีย้อมผนังห้องด้วยปราณหย์ และนั่นช่วยให้เธอหวนนึกถึงการพบครั้งแรกของเธอกับซูหยางในระหว่างการประเมินศิษย์ใน ซึ่งเธอได้สัมผัสกับวิชาขั้นเทพของเขาเป็นครั้งแรกและส่งผลให้เธอพ่นน้ํารักของเธอไปทั่วทุกบริเวณ

 

“โอ้ นี่ช่างน่าอัศจรรย์…” แม้กระทั่งหยางเองก็ยังยกย่องความสามารถในการพ่นของเธอ เมื่อเธอยังไม่หยุดพ่นแม้แต่จะผ่านไปแล้วสักพัก จนทําให้เขาต้องการทดสอบขีดจํากัดของเธอมากยิ่งขึ้น

 

ดังนั้นเขาจึงดันแท่งร้อนของตนเองเข้าไปในร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดปราณหยินหยดสุดท้ายของเธอได้แห้งเหือดในอีกสองสามนาทีต่อมา

 

“เจ้าช่างน่าประทับใจ มันทําให้สงสัยว่าทําไมเจ้าถึงมิเป็นผู้ฝึกฝนวิชาคู่แทน” ซูหยางพูดกับเธอในภายหลัง

 

อย่างไรก็ตามศิษย์จีไม่ได้ตอบสนองเนื่องจากเธอเหนื่อยล้าเกินไป

 

“เอาล่ะ ให้ข้ามอบรางวัลแก่เจ้าที่อดทนมามากมายในวันนี้…”

 

ทันใดนั้นกระบี่ที่ยังฝังอยู่ในร่างของศิษย์จีก็เริ่มสั่นสะท้าน และในเวลาต่อมามันก็ปล่อยนักรบตัวจิ๋วนับร้อยล้านเข้าสู่ร่างกายของเธอ จากนั้นนักรบสีขาวตัวจิ๋วก็วิ่งผ่านสนามรบจนไม่สามารถรุกคืบเข้าไปได้อีกต่อไป เติมเต็มทุกซอกทุกมุมในถ้ําของศิษย์จี

 

“ข้ารู้สึก…อิ่มมาก…” ศิษย์จีพิมพ์ด้วยสีหน้างงงัน

 

ซูหยางถอดแห่งแกร่งของเขาออกจากรูของเธอหลังจากนั้นชั่วขณะ สามารถมองเห็นนักรบสีขาวตัวจิ๋วที่ตกลงมาจากถ่ของเธอ

 

“บางทีเราควรฝึกเธอให้เป็นผู้ฝึกฝนวิชาคู่แทน” โหลวหลานจีพูดด้วยน้ําเสียงล้อเลียนหลังจากนั้น “คงจะเป็นการเสียเปล่าถ้าคนที่มีความสามารถเช่นเธอกลายเป็นผู้ฝึกยุทธธรรมดา”

 

ซูหยางยิ้มให้กับค่าพูดของเธอและกล่าวว่า “ใครจะรู้ บางทีเธออาจจะกลายเป็นผู้ฝึกวิชาคู่โดยสมัครใจหลังจากสิ่งที่เธอประสบในวันนี้”

 

ในเวลาต่อมาซูหยางหันไปสนใจศิษย์อีกคน ศิษย์เฉิน

 

“ข้าจะเติมเต็มร่างกายของเจ้าให้เต็มไปด้วยปราณหยาง เพื่อที่เจ้าจะได้ฝึกฝนในสระสวรรค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” เขาพูดกับเธอ

 

“ได้โปรดดูแลข้าด้วย..” เธอพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มตื่นเต้นบนใบหน้า ในเมื่อน้องสาวของเธอรู้สึกรุ่มร้อนและเสียวซ่านมาระยะหนึ่งแล้ว

 

“ในเมื่อเจ้าแฉะแล้วเราก็มจําเป็นต้องเล่าโลมกันอีก ใช่ไหม” เขาพูดกับเธอหลังจากเห็นว่าเธอมีน้ํารักไหล แล้วขณะที่เธอถอดเสื้อผ้า

 

“ได้เลย…เสียบมันเข้าไปในตัวข้า…” ศิษย์เฉินนอนอ้าขาบนเตียง

 

ในเวลาต่อมาซูหยางก็ดันแก่นกายของเขาเข้าไปในถ้ําลื่นของเธออย่างง่ายดาย

 

“อ้าาาาา”

 

ศิษย์เฉินครวญครางอย่างหลงใหล รู้สึกราวกับว่าเธอเข้าสู่สวรรค์

 

หลายนาทีต่อมาซูหยางก็ปล่อยปราณหยางของเขาเข้าไปในร่างกายของเธอ เติมถ้ําของเธอจนมันเริ่มทะลักล้นออกมาจากทางเข้า

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ถอดแก่นกายของเขาออกจากรูของเธอในทันที แต่เปิดแหวนมิติของเขาเพื่อหยิบยันต์ออกมาแทน

 

“ข้าจะผนึกปราณหยางไว้ในตัวเจ้าเพื่อที่เจ้าจะได้ใช้มันในสระสวรรค์ อย่าแกะมันออกหรือฝึกฝนวิชาจนกว่าจะถึงเวลานั้น” เขาพูดกับเธอ

 

“ข้าจะไม่ตั้งครรภ์รึ ถ่าข้ามฝึกฝนปราณหยางทันที” ศิษย์เฉินถามเขาพร้อมกับเล็กคิ้ว ไม่ใช่ว่าเธอคิดจะมีลูกกับเขา

 

“ปราณหยางของข้านั้นพิเศษ เจ้าจะมีมีปัญหา” เขาตอบอย่างมั่นใจ

 

“ข้าสามารถรับรองคําพูดของเขาได้” โหลวหลานจีพลันกล่าวขึ้น

 

จากนั้นซูหยางก็หันไปมองเธอและพูดว่า “ถึงตาเจ้าแล้ว”

 

“ถึงเวลาแล้ว” เธอพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม

 

ในเวลาต่อมาโหลวหลานก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออก และด้วยความประหลาดใจของศิษย์เฉิน เมื่อมียันต์ประทับอยู่บนร่างกายของเธอแล้ว พวกเขาทําแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทําไม่โหลวหลานจีถึงรับรองให้เขา

 

———————————————–

 

สาวนักพ่น* (เพิ่งไปแปลศัพท์นี้มา ขอใช้คํานี้แทนก็แล้วกันนะครับ) ความหมาย –

Squirter (สเควอเตอร์,สาวนักพ่น)

 

The magnificent and rarely seen art of female ejaculation.

 

เพลงการหลั่งของหญิงที่เลิศหรูยากที่จะเห็น

 

That can result in a spurt of lady love juice that can also be mistaken for urine…but strangely smells of rose water

 

ที่จะส่งผลให้น้ํารักของหญิงนั้นพุ่งกระฉูดที่อาจทําให้เข้าใจผิดว่าเป็นปัสสาวะได้… แต่จะเป็นกลิ่นแปลกๆ ของน้ํากุหลาบ