บทที่ 634 สํานักระดับสูง

Dual Cultivation ร่วมเรียงเคียงเซียน

Dual Cultivation บทที่ 634 สํานักระดับสูง

 

ยามเมื่อถึงตาของโหลวหลานจีที่จะฝึกฝนกับซูหยาง เธอก็ถอดเสื้อผ้าออกและแกะยันต์ของเธอออกในเวลาต่อมา ปล่อยให้ปราณหยางที่เก็บไว้อยู่ด้านในนั้นไหลออกมาตามต้นขา

 

“มีปราณหยางของเจ้าเหลืออยู่เพียงเล็กน้อยภายในนั้น” เธอกล่าวกับเขา

 

เขาพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “มิต้องเป็นกังวล ข้าจักเดิมมันให้เต็มภายหลัง”

 

“แต่ก่อนที่ข้าจะทําเช่นนั้น เรามาชะล้างปราณหยางเดิมกันก่อน”

 

ซูหยางเริ่มนวดร่างกายของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง และใช้นิ้วมืออีกข้างหนึ่งกับถ้ําแฉะ เพื่อให้ปราณหยินของเธอล้างปราณหยางออกจากร่างกาย

 

สองสามนาทีให้หลังเมื่อโหลวหลานจีล้างปราณหยางออกจากร่างของเธอแล้ว ซูหยางก็สอดกระบี่ของเขาเข้าไปในถ้ําสีชมพูของเธอที่กระตุกด้วยความกระหายอยาก

 

“อ้าาาาา “

 

เมื่อรู้สึกได้ถึงแก่นกายขนาดใหญ่ที่เสียดสีกับผนังถ้ําด้านใน โหลวหลานจีก็ครวญครางเสียงดังลั่น และร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านจากความสุขสันต์

 

ปั่บ ปั่บ ปั่บ

 

ซูหยางที่มทะลวงร่างของโหลวหลานจีราวกับว่าเขากําลังผึ้งานชิ้นเอกด้วยค้อนของเขา จนทําให้โหลวหลานจีรู้สึกราวกับว่าทั้งร่างของเธอลุกเป็นไฟ

 

“ใช่ ใช่แล้ว จุดนั้นแหละ ทําให้หนักขึ้น ทิ่มข้าให้แรงขึ้น ซูหยาง” โหลวหลานจีมองเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความต้องการ สายตาเธออ้อนวอนขอมากกว่านั้น

 

ปั่บ ปั่บ ปั่บ

 

เตียงขนาดใหญ่นั้นเริ่มสั่นเล็กน้อยเมื่อซูหยางเพิ่มความรุนแรง และเสียงของโหลวหลานจีก็เพิ่มทั้งระดับเสียงและความบาดหู

 

หลายนาทีของการฝึกฝนหลังจากนั้น ซูหยางก็ปล่อยปราณหยางเข้าไปในถ้ําของโหลวหลานจี

 

“อ้าาาาาาา – ร้อนจัง “

 

โหลวหลานจีรู้สึกราวกับว่ามีภูเขาไฟปะทุอยู่ในท้องของเธอ แต่มันกลับไม่ได้เจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย กลับสุขสบายอย่างไม่น่าเชื่อแทน และเพียงไม่กี่อึดใจท้องของเธอก็เต็มไปด้วยปราณหยาง

 

จากนั้นซูหยางก็เอายันต์ออกมาและผนึกทางเข้าถ้ําของเธออย่างรวดเร็ว โดยไม่ปล่อยให้รั่วไหลแม้แต่หยดเดียว

 

“ว้าว นี่รู้สึกอิ่มกว่าปกติด้วยซ้ํา” โหลวหลานจีกล่าวกับเขาหลังจากนั้น

 

“นั่นเป็นเพราะจริงๆแล้วข้าได้ปล่อยปราณหยางออกมามากกว่าปกติ เต็มกระเพาะของเจ้าจนถึงขีดจํากัด เขาพูดกับเธอ “เพราะสระสวรรค์ที่เร่งความเร็วในการฝึกฝนวิชาของเจ้า เจ้าจําเป็นจะต้องใช้ทรัพยากรมากกว่าปกติ”

 

“ข้าเข้าใจ…” โหลวหลานจีพยักหน้าด้วยใบหน้าเข้าใจ

 

ไม่กี่นาทีต่อมาซูหยางมองไปที่โหลวหลานจีและศิษย์เงินแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้าสองคนมสามารถที่จะทําต่อได้เพราะผนึก”

 

จากนั้นเขาก็หันไปมองศิษย์จและหญิงรับใช้ “แล้วพวกเจ้าสองคนล่ะ เราสามารถทํากิจกรรมกันได้มากเท่าที่พวกเจ้าต้องการ”

 

“ข้าต้องการทําอีก” ศิษย์จีพูดโดยไม่ลังเล

 

“ถ้า… ถ้าเป็นไปได้ ผู้ต่ําต้อยคนนี้ก็ต้องการที่จะทําให้นายน้อยพึงพอใจต่อไปอีก” หญิงรับใช้กล่าวด้วยสีหน้าขวยเขิน

 

ซูหยางพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้าจักพาพวกเจ้าทั้งคู่ร่วมทางไปด้วยจนกว่าพวกเจ้าจะพอใจ”

 

ดังนั้นซูหยางจึงเริ่มทํากิจกรรมอีกครั้งกับศิษย์จีและหญิงรับใช้ และพวกเขาก็ได้ฝึกฝนต่อไปกระทั่งเหล่าสาวๆถึงขีดจํากัด และทรุดกายลงด้วยความเหนื่อยล้า

 

ในเวลาเดียวกันนั้น โหลวหลานจีและศิษย์เฉินก็ได้เฝ้าดูด้วยความอิจฉา และพวกเธอก็เสียใจที่ผนึกช่องรักเร็วเกินไปหน่อย

 

เมื่อเห็นเช่นนี้ ซูหยางก็พูดกับพวกเธอด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “ถ้าเจ้าต้องการ เราสามารถปลดผนึกของเจ้าออกเสียก่อน เพื่อที่เราจะได้ฝึกฝนวิชามากกว่านี้ และเราจะปิดผนึกอีกครั้งในตอนท้าย”

 

“เจ้าทําเช่นนั้นได้ ทําไมเจ้ามพูดอย่างนั้นเสียตั้งแต่แรก” โหลวหลานจีไม่ยอมเสียเวลา ฉีกผนึกของเธอออกจากกันปล่อยให้ปราณหยางในท้องของเธอไหลออกมาเหมือนน้ําตก

 

ศิษย์เฉินทําตามโหลวหลานจี ปลดผนึกของเธอออกเช่นเดียวกัน และทั้งสามคนก็พากันฝึกฝนจนถึงเช้าของวันรุ่งขึ้น

 

“ซูหยางเจ้าตื่นหรือยัง” เสียงของซีซิงฟาง ดังมาจากข้างนอกตั้งแต่เช้าตรู่

 

“ใช่ ข้าตื่นแล้ว ขอเวลาข้าแต่งตัวสักวินาที” ซูหยางพูดกับเธอ

 

เมื่อเขาแต่งตัวเต็มเรียบร้อยแล้วซูหยางก็เปิดประตูถามเธอว่า “มีอะไร”

 

“สวัสดีตอนเช้า

 

“สวัสดีตอนเช้า ซูหยาง ข้าเพียงแค่สงสัยว่าเจ้าต้องการจะทานอาหารเช้ากับเราหรือไม่” ซีซิงฟางถาม

 

“อาหารเช้ารึ แน่นอน” เขาพยักหน้า

 

“แล้วคนอื่นล่ะ…” เธอถามเขาด้วยร่างกายของเธอที่ไม่ค่อยจะเป็นสุขอยู่บ้าง

 

ซูหยางมองไปที่บรรดาสาวๆที่นอนนิ่งสนิทบนเตียงก่อนจะพูดว่า “ข้ามิคิดว่าพวกเธอจะสามารถไปได้”

 

“ข้าเข้าใจว่า… แม้ว่ามันจะโชคร้าย แต่พวกเราก็ยังมีมื้อเย็นกันในค่ําคืนนี้” เธอกล่าว

 

ในเวลาต่อมา ซีซิงฟางก็ได้พาซูหยางไปยังห้องอีกห้องซึ่งตระกูลซีและเยี่ยนเยี่ยนได้มาถึงก่อนแล้ว และได้นั่งอยู่รอบโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารที่เปล่งพลังวิญญาณออกมาอย่างเต็มเปี่ยม

 

“นี่ค่อนข้างเป็นมื้อแพงที่แม้กระทั่งสาหรับตระกูลที่มีฐานะเช่นพวกเจ้า อย่าบอกนะว่าพวกเจ้าทานอาหารแบบนี้ทุกเช้า” ซูหยางพูดหลังจากเห็นอาหารวิญญาณบนโต๊ะ

 

“นี่เป็นโอกาสพิเศษ ปกติเรามกินอาหารเช้ากันด้วยซ้ํา อย่าว่าแต่จะฟุ่มเฟือยแบบนี้” เจ้าชีพูดกับเขา

 

“หืม ทําไมเจ้าอยู่คนเดียวล่ะ พวกผู้หญิงล่ะ” ซีหวังถามเขา หลังจากที่สังเกตเห็นว่าคนอื่นไม่ได้อยู่กับเขา

 

“ขอพูดแต่เพียงว่าพวกเธอตื่นตลอดคืนและฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง” ซูหยางตอบด้วยรอยยิ้มสงบบนใบหน้า

 

ซีหวังพูดไม่ออกอย่างสิ้นเชิงกับความซื่อสัตย์ของซูหยาง เมื่อคิดว่าเขากล้าพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ในบ้านของคนอื่น แถมยังพูดถึงเรื่องนี้ได้โดยไม่อาย

 

“สมกับที่คาดไว้สําหรับผู้ฝึกวิชาคู่ พวกเจ้าล้วนเกินคน” ซีหวังแอบส่ายหน้า

 

“ข้าจะถือว่านี่เป็นค่าชม” ซูหยางกล่าวขณะที่เขาลงไปนั่งที่โต๊ะ

 

“ยังไงก็ตาม เราค่อนคุยกันหลังจากกินเสร็จแล้ว มิเช่นนั้นอาหารก็จักเย็น” เจ้าชีพูดก่อนที่จะเอื้อมมือไปที่อาหาร

 

อีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เมื่อทุกคนอิ่มท้องแล้ว คนรับใช้ก็เริ่มทําความสะอาดโต๊ะ

 

เมื่อทําความสะอาดโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เจ้าซีก็มองไปที่ซูหยาง และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้ารู้คําตอบของคําถามนี้แล้ว แต่ข้าก็ยังต้องการถามเจ้าเรื่องนี้อีกครั้ง”

 

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเขาพูดต่อ “เจ้ายินดีที่จะรับตําแหน่งสํานักระดับสูง สําหรับนิกายกุสุมาลย์พันพิสัยหรือไม่”