ตอนที่ 865

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ก่อนหน้านี้ที่หลิงฮันพูดกระตุ้นทุกคนก็เพื่อให้พวกเขาเชื่อมั่นว่าเขาสามารถสังหารอ้าวเจี้ยนได้ และเขาไม่ต้องการที่จะเปิดเผยความลับว่ากายหยาบของเขานั้นเหนือกว่าหม่าตั๋วเป่าไปแล้วเพื่อทำให้อีกฝ่ายคิดว่าตัวเองได้เปรียบและทำให้อีกฝ่ายประมาท

ถ้าอ้าวเจี้ยนรู้ เขาจะยังคงต่อสู้กับหลิงฮันต่ออีกหรือไม่?

ในเมื่อไม่อาจสังหารอีกฝ่ายได้หรือแม้กระทั่งทำให้บาดเจ็บก็ยังทำไม่ได้ แล้วใครจะมีความคิดที่จะต่อสู้อีก?

หลิงฮันกำลังรอให้อีกฝ่ายติดกับ โดยสร้างโอกาสให้อ้าวเจี้ยนคิดว่าเขาหมดหนทางแล้ว และให้อีกฝ่ายปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดออกมาเพื่อที่หลิงฮันจะได้สวนการโจมตี

— ความแข็งแกร่งของทั้งสองคนค่อนข้างสูสีกัน ในเมื่ออีกฝ่ายสร้างโอกาสให้กับเขา แล้วเขาจะไม่โจมตีได้อย่างไร?

หลิงฮันปล่อยให้อ้าวเจี้ยนคิดว่าการโจมตีของมันนั้นสามารถฆ่าเขาได้เพื่อที่ให้อีกฝ่ายปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา

เมื่อปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมากับการโจมตี พลังป้องกันของอีกฝ่ายเองก็จะลดลงมาก และในตอนนั้นก็จะเป็นตาของหลิงฮันที่จะสังหารอีกฝ่าย

ตอนนี้อ้าวเจี้ยนคิดว่าหลิงฮันจะต้องตายด้วยการโจมตีครั้งนี้อย่างแน่นอน

หอกสีเงินปลดปล่อยเสียงคำรามของมังกรออกมา นี่คือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของอ้าวเจี้ยน

ตู้ม!

อ้าวเจี้ยนเผยสีหน้ามีความสุขออกมาทันที อีกฝ่ายจะต้องตายแน่นอนด้วยการโจมตีของเขา

ทว่าปลายหอกของเขาหยุดอยู่ตรงอกของหลิงฮันและพยายามที่จะทะลวงเข้าไปที่หัวใจของเขา อย่างไรก็ตาม มีเพียงแค่เสื้อผ้าของหลิงฮันเท่านั้นที่ถูกแทงทะลุ แต่ผิวของเขาไม่มีโลหิตไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว

นี่มันกายหยาบอะไรกัน?

อ้าวเจี้ยนตกตะลึง อีกฝ่ายเป็นเผ่ามนุษย์จริงๆอย่างนั้นรึ? เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าตัวเองไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่มาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์?

“รับดาบของข้า!” หลิงฮันใช้โอกาสนี้โจมตีสวนกลับ

อีกฝ่ายเพิ่งจะปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดออกมา ตอนนี้การป้องกันของอีกฝ่ายจึงลดลงเป็นอย่างมาก แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เพียงพอสำหรับหลิงฮันแล้ว

ดาบสังหารของเขาปลดปล่อยแสงสว่างอันไม่รู้จบออกมา และสะบั้นไปที่คอของอ้วยเจี้ยนเพื่อที่จะตัดหัวอีกฝ่าย

ฉัวะ!

ดาบของเขาตัดผ่านลำคอของอีกฝ่ายและมีหัวของคนผู้หนึ่งลอยขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกับเลือดที่พุ่งทะลักออกมาจากลำคอเหมือนกับน้ำพุ

“ตายแล้ว!” เมื่อเจ็ดราชันเห็นฉากที่เกิดขึ้น พวกเขาก็เต็มไปด้วยความสุข

อีกฝ่ายต้องการนำศพองค์จักรพรรดิของพวกเขาไปทำลายทิ้ง ซึ่งทำให้พวกเขาโกรธจนบ้าคลั่ง แต่ตอนนี้อ้าวเจี้ยนได้ถูกหลิงฮันตัดหัวไปแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องมีความสุขและบรรเทาความโศกเศร้าของพวกเขาได้เล็กน้อย

“ยังไม่ตาย!” หลิงฮันส่ายหัวและมองออกไปในระยะไกล

“เป็นไปได้ยังไง ทั้งที่ตัดหัวไปแล้วแต่ก็ยังไม่ตาย?” ราชันทั้งเจ็ดรู้สึกงงงวย

“ร่างกายของมันเท่านั้นที่ตาย แต่ดวงวิญญาณของมันนั้นเพ่นหนีไปแล้ว” หลิงฮันขมวดคิ้ว

เห็นได้ชัดว่าอ้าวเจี้ยนเป็นแค่จอมยุทธระดับทลายมิติ แต่กลับสามารถแยกดวงวิญญาณออกจากร่างได้

“ดูเหมือนมันจะมีสมบัติลับบางอย่างที่ทำให้วิญญาณแยกออกจากร่างและหนีไปได้” หลิงฮันคิดอยู่ในใจและเก็บดาบสังหาร

ถึงแม้เขาจะไล่ตามดวงวิญญาณของอ้าวเจี้ยนไปก็ไล่ประโยชน์ เพราะกายหยาบของมันอยู่ที่นี่

“องค์จักรพรรดิ!” ราชันทั้งเจ็ดถอนหายใจอีกครั้ง วันนี้เป็นวันแห่งความโศกเศร้าของจักรวรรดิจันทราม่วง การที่องค์จักรพรรดิของพวกเขาตาย ทำให้จักรวรรดิจันทราม่วงหายไป

หลิงฮันถอนหายใจและพูดว่า “ไม่ว่าจะโศกเศร้าเพียงใด พวกเราก็ต้องสานต่อหน้าที่ของพี่ชายหม่าให้สำเร็จ”

ราชันทั้งเจ็ดเริ่มยอมรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

เหล่าผู้คนที่มาเพื่อดูพิธีเปิดสวรรค์ แต่มันกลับกลายเป็นดูช่วงเวลาสุดท้ายของหม่าตั๋วเป่า และทุกคนรู้สึกเคารพเขาอย่างสุดซึ้ง ถึงแม้เขาจะเปิดสวรรค์ล้มเหลวในตอนท้ายก็ตาม แต่ถ้าไม่มีเขาใครจะเป็นคนที่จะเริ่มต้นการเปิดสวรรค์กัน?

ในเมื่อองค์จักรพรรดิของพวกเขาตายไปแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องจัดงานศพส่งเขาให้สมเกียรติ งานศพของหม่าตั๋วเป่าจะถูกจัดขึ้นเป็นเวลาหนึ่งเดือน และร่างกายของหม่าตั๋วเป่าจะถูกส่งไปยังแกนกลางของโลกโดยหลิงฮันฃ

ต่อไปนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่พวกเขาต้องทำ

แน่นอนว่าการส่งมอบจักรวรรดินั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีรายละเอียดมากมายรวมถึงเรื่องยิบย่อยที่ต้องจัดการ โชคร้ายที่เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนถูกพาตัวไปแล้ว แต่ก็ยังโชคดีที่มีจักรพรรดิพิรุณคอยจัดการแทน

ในขณะเดียวกัน เฮ่อหลียนเทียนหยุนกลับไปที่มหาสมุทรเหนือเพื่อรวมรวบมหาสมุทรทั้งสี่ให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง ตอนนี้อ้าวเจี้ยนไม่อยู่แล้ว ที่หลงเหลืออยู่มีเพียงแค่ดวงวิญญาณเท่านั้น และถ้ามันปรากฏตัวออกมา อีกฝ่ายจะต่อกรกับเฮ่อเหลียนเทียนหยุนได้อย่างไร?

ต้องรู้ก่อนว่าเฮ่อเหลียนเทียนหยุนนั้นเคยมีพลังต่อสู้ระดับทลายมิติยี่สิบดาวที่ไม่ด้อยไปกว่าหม่าตั๋วเป่า และตอนนี้เขาก็ทะลวงผ่านระดับทลายมิติแล้ว ซึ่งเขาเชื่อว่าอีกไม่นานเขาก็จะกลับไปอยู่บนจุดสูงสุดอีกครั้ง

ส่วนหลิงฮันกำลังฝึกฝนบ่มเพาะพลังอย่างหนัก ตอนนี้เขายังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเปิดสวรรค์ได้ และเพื่อความปลอดภัย เขาจะต้องทะลวงผ่านระดับทลายมิติขั้นเก้าซะก่อน

เมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็เริ่มลืมเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าหม่าตั๋วเป่าจะพยายามอย่างมากเพื่อเปิดสวรรค์ แต่หลังจากที่ผ่านไปครึ่งปีทุกคนก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง และมีน้อยคนมากที่จะพูดถึงเรื่องน่าเศร้าที่เกิดขึ้น

แต่หลิงฮัน และราชันคนอื่นๆยังไม่ลืมความโกรธแค้น พวกเขาจะต้องเปิดสวรรค์ให้ได้และขึ้นไปกวาดล้างห้านิกายโบราณและตระกูลอ้าว!

นี่ไม่ใช่เรื่องที่ทำสำเร็จได้ง่าย แต่พวกเขาจะต้องไม่ขาดความอดทนและความพยายาม

เฮ่อเหลียนเทียนหยุนรวบรวมมหาสมุทรทั้งสี่ให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง และมหาสมุทรทั้งสี่ก็กลายเป็นอาณาเขตของจักรวรรดิต้าหลิง ครั้งนี้หลิงฮันกลายเป็นจักรพรรดิของคนทั้งโลก เขาสามารถเข้าใจการเคลื่อนไหวของทุกที่บนโลกได้ตราบใดที่เขาต้องการ

หลังจากผ่านไปอีกหกเดือน ในที่สุดหลิงฮันก็ทะลวงผ่านระดับทลายมิติขั้นเก้าด้วยวัยแค่ยี่สิบสองปีเท่านั้น

“ข้ามาถึงจุดสูงสุดของระดับทลายมิติแล้ว แต่พลังต่อสู้ในปัจจุบันของข้าอยู่ที่ระดับทลายมิติสิบดาวเท่านั้น” หลิงฮันกำลังประเมินพลังต่อสู้ของตัวเอง

“แต่ถ้าข้าใช้ความพยายามและความสามารถทั้งหมด พลังต่อสู้ของข้าน่าจะบรรลุระดับทลายมิติยี่สิบดาว”

นี่ไม่ใช่ขีดจำกัดของหลิงฮัน เพราะเขาเพิ่งจะทะลวงผ่านระดับทลายมิติขั้นเก้าท่านั้น เขายังมีเวลาขัดเกลาพลังอีกนาน บางทีเขาจะมีทะลวงผ่านพลังต่อสู้มากกว่ายี่สิบดาวก็เป็นไปได้!