ผู้กำกับมือปีศาจ

 

 

 

 

หลังประกาศตัวทีมนักแสดงนำแล้วไม่เพียงแต่หลินหว่านเท่านั้น แม้แต่นักแสดงบทบาทอื่นๆ ของหนังเรื่องนี้ต่างก็ต้องเผชิญกับแรงต่อต้านจากบรรดาแฟนหนังสือมากบ้างน้อยบ้าง 

 

 

ขณะที่แฟนหนังสือกับชาวเน็ตส่วนใหญ่ไม่คาดหวังกับหนังเรื่องนี้ ฝ่ายผู้สร้างหนังก็ประกาศตัวผู้กำกับหนังเรื่องนี้ทางอินเทอร์เน็ต นั่นคือ ซวี่กวง 

 

 

เรียกว่าซวี่กวงเป็นผู้กำกับที่กำลังเป็นที่สนใจมาแรงในช่วงปีสองปีนี้เลยทีเดียว 

 

 

เขาอายุยังน้อยแต่มีความสามารถโดดเด่น ตั้งแต่เข้าวงการมามักจะมีผลงานออกสู่สายตาสาธารณชนเป็นระยะ และผลงานทุกชิ้นล้วนแต่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีและเสียงชื่นชมมากมาย 

 

 

ซวี่กวงได้รับฉายาจากผู้คนภายนอกว่า ‘ผู้กำกับปีศาจ’ เนื่องจากเขาเป็นอัจฉริยะ ผลงานทุกชิ้นจึงมีสไตล์เฉพาะตัว หลายปีมานี้ด้วยผลงานแต่ละชิ้นของเขาไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับบรรดาผู้ชม ทั้งยังได้รับรางวัลจากวงการภาพยนตร์อีกหลายรางวัลด้วย 

 

 

แต่ว่าในวงการภาพยนตร์ เรื่องที่คุ้นหูเป็นที่รู้กันดียิ่งกว่าความเป็นอัจฉริยะของเขาก็คือ อุปนิสัยของเขา 

 

 

ข่าวลือว่าซวี่กวงไม่ได้เจ้าอารมณ์เหมือนผู้กำกับคนอื่นๆ แต่เขาจู้จี้จุกจิกเอาเรื่องมากๆ  

 

 

พูดให้ถูกก็คือเขาเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ[1] พูดแบบไม่น่าฟังก็คือพวกเรื่องมากคอยจับผิดในเรื่องเล็กๆ น้อย 

 

 

เคยมีนักแสดงนำหนังเรื่องหนึ่งของซวี่กวงให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า ครั้งหนึ่งตอนเขาถ่ายหนังซวี่กวงไม่พอใจฉากฉากหนึ่งของหนังจึงถ่ายซ้ำไปยี่สิบเอ็ดครั้ง วันนั้นเขาแทบจะเป็นบ้าเพราะซวี่กวง 

 

 

แต่ว่านักแสดงคนนี้เองที่ภายหลังได้รับรางวัลในระดับดารานำยอดเยี่ยมจากหนังเรื่องนี้เอง ‘กิตติศัพท์’ความจับผิดเล็กจับผิดน้อยของซวี่กวงนี้จึงกลายเป็นที่รู้กันไปทั่วโลก 

 

 

ข่าวที่ว่าซวี่กวงเป็นผู้กำกับพอประกาศออกไป อินเทอร์เน็ตก็เหมือนระเบิดลง 

 

 

[จริงเหรอ สไตล์ของผู้กำกับซวี่ไม่เหมือนใคร ไม่รู้ว่าเขาจะถ่ายหนังแฟนตาซีออกมาเป็นไงน่ะสิ ชักอยากรอดูหนังเรื่องนี้แล้ว] 

 

 

[ไม่ปลื้มทีมนักแสดงนำของหนังเรื่องนี้ แต่หวังว่ามีผู้กำกับปีศาจเข้ามาจะช่วยชีวิตหนังเรื่องนี้ได้บ้างนะ] 

 

 

[น่าสงสารนักแสดงทั้งก๊กเลย…] 

 

 

การเข้าร่วมทีมของซวี่กวงช่วยเพิ่มความสนใจของชาวเน็ตที่มีต่อหนังเรื่องนี้ จากนั้นตามมาด้วยการประกาศตัวผู้เขียนบทและทีมงานถ่ายทำของหนังเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ  

 

 

ผู้เขียนบทเป็นนักเขียนบทหญิงมือหนึ่ง…เสวี่ยลี่ ส่วนทีมงานถ่ายทำเป็นทีมงานเอฟเฟ็กต์จากฮอลลีวูด บวกกับผู้กำกับปีศาจอย่างซวี่กวง ทีมงานถ่ายทำของหนังเรื่องนี้เรียกว่าได้สมบูรณ์แบบมากทีเดียว 

 

 

เสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตบางส่วนที่รับไม่ได้กับทีมนักแสดงนำและทีมงานถ่ายทำลดน้อยลงไปมาก แต่ก็ยังมีแฟนหนังสือบางส่วนยังไม่ปลื้มกับตัวนักแสดงนำ…ไม่ปลื้มหลินหว่าน 

 

 

[ไม่เห็นด้วยอย่างแรงที่ให้หลินหว่านเป็นนางเอก หลินหว่านช่วยไสหัวไปจากหนังเรื่องนี้ด้วย ขอบคุณ] 

 

 

แฟนหนังสือคนหนึ่งโพสต์ข้อความต่อต้านหลินหว่านลงเวยปั๋ว กลายเป็นคำค้นหายอดนิยมขึ้นมาเพราะมีอันซิงกดถูกใจ 

 

 

นับตั้งแต่ที่โรงแรม อันซิงได้รู้ว่าเฉิงเฉิงมีใจให้กับหลินหว่านแล้ว อันซิงก็เก็บกักความโมโหที่มีต่อหลินหว่านเอาไว้แน่นอกไม่มีทางระบายออก 

 

 

พอเห็นข่าวที่หลินหว่านจะได้เล่นเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งในหนังของซวี่กวง เธอก็ยิ่งริษยาจนแทบคลั่ง 

 

 

อันซิงสู้หลินหว่านไม่ได้ตรงไหนกัน ทำไมไม่ว่าจะเป็นวงการบันเทิงหรือว่าในใจของเฉิงเฉิง เธอจึงสู้หลินหว่านไม่ได้  

 

 

โดยเฉพาะบทนางเอกของหนังเรื่องนี้ยังไม่ทันไรหลินหว่านก็ได้มันมาแล้ว 

 

 

อันซิงเห็นข่าวบนอินเทอร์เน็ตแล้วความริษยาก็พุ่งปรี๊ดขึ้นจุกอก 

 

 

ในวงการมักมีข่าวอันซิงกับหลินหว่านกินเกาเหลากันหลุดออกมาเป็นครั้งคราว แต่อย่างน้อยเปลือกหน้าทั้งสองคนยังรักษาท่าทีเป็นเพื่อนกันไว้ ตอนนี้อันซิงกดถูกใจโพสต์ต่อต้านหลินหว่านในเวยปั๋วจึงทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจ 

 

 

แฟนคลับของหลินหว่านและชาวเน็ตพากันมาที่เวยปั๋วของอันซิงด่าเธอว่าหน้าเนื้อใจเสือ แทงหลินหว่านข้างหลัง แฟนคลับของอันซิงเห็นแล้วก็ด่ากลับทันที 

 

 

ด้วยเหตุนี้จึงมีเรื่องจิกกัดกันไม่เลิกบนสังคมออนไลน์ 

 

 

ตอนเกิดเรื่องพวกนี้ หลินหว่านกำลังอ่านบทอยู่ที่บ้าน 

 

 

ต้นฉบับนิยายของหนังเรื่องนี้เป็นนวนิยายแฟนตาซีระดับคลาสสิกเรื่องหนึ่ง มีแฟนหนังสือในประเทศมากมาย ดังนั้นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงบทจากนวนิยายเรื่องนี้จึงกล่าวได้ว่าเป็นลิขสิทธิ์หนังระดับประเทศเลยทีเดียว 

 

 

สำหรับประเด็นนี้นั้นดูจากกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนังเรื่องนี้บนอินเทอร์เน็ตก็พอจะเห็นได้ชัด 

 

 

ดังนั้นหลินหว่านจึงให้ความสำคัญกับหนังเรื่องนี้อย่างมาก ตอนเช้าหลังจากหลินหว่านถ่ายโฆษณาเสร็จไปหนึ่งชิ้น ตอนบ่ายเธอก็อยู่ที่บ้านอ่านบทอยู่เงียบๆ คนเดียว 

 

 

“ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง” ทันใดนั้น หลินหว่านได้ยินเสียงกริ่งประตูดังขึ้น 

 

 

หลินหว่านวิ่งไปเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นอวิ๋นซีก็อุทานอย่างแปลกใจ “อวิ๋นซี ทำไมเธอมานี่ได้” 

 

 

“หว่านหว่าน บทเธออ่านไปถึงไหนแล้ว” 

 

 

พออวิ๋นซีเข้ามาแล้ว เห็นบทหนังของหลินหว่านวางทิ้งอยู่บนโซฟาก็ถาม 

 

 

“ฉันอ่านไปพอสมควรแล้วล่ะ” หลินหว่านตอบ 

 

 

“ดีมากเลย หว่านหว่าน” อวิ๋นซีเอ่ยปากชม 

 

 

แต่ว่า คำพูดต่อมาของเธอกลายเป็นว่า “หว่านหว่าน เธอก็รู้ว่าหนังเรื่องนี้สำคัญกับเธอมากขนาดไหน ดังนั้นนะ เพื่อให้เธอได้ตั้งจิตสมาธิอ่านบทจะได้แสดงบทนางเอกนี่ให้เลิศ ฉันตัดสินใจว่า…” 

 

 

ตัดสินใจอะไร หลินหว่านมองอวิ๋นซีอย่างสงสัย 

 

 

อวิ๋นซีหยิบมือถือของหลินหว่านบนโซฟาขึ้นมา แล้วไปที่ห้องของหลินหว่านกวาด iPad คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดออกมา 

 

 

“อวิ๋นซี นี่เธอจะทำอะไรน่ะ” หลินหว่านเห็นอาการอวิ๋นซีแล้วดูเหมือนจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง เธอถามขึ้นอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี 

 

 

“อะแฮ่ม ที่ฉันทำนี่ก็เพื่อเธอจะได้ไม่ต้องถูกรบกวนจากคำวิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตยังไงล่ะ” อวิ๋นซีอธิบาย แล้วหอบเครื่องมือสื่อสารที่เธอกวาดเก็บมาไว้กับอก “เพื่อไม่ให้กวนใจเธอ ของพวกนี้ระหว่างนี้ก็เอาไว้กับฉันก่อน ส่วนเธอก็อ่านบทให้ดีๆ ล่ะ จะได้พร้อมสำหรับหนังเรื่องนี้ เข้าใจหรือยังล่ะ” 

 

 

“อวิ๋นซี…” หลินหว่านฟังแล้วมองอวิ๋นซีด้วยสายตาจิกปนโศก 

 

 

“หว่านหว่าน นี่ฉันหวังดีกับเธอหรอกนะ บนอินเทอร์เน็ตตอนนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เธอมากเกินไป ฉันกลัวว่าเธออ่านแล้วจะส่งผลกับจิตใจเธอน่ะ” อวิ๋นซีแจกแจง 

 

 

คำพูดบนอินเทอร์เน็ตขนาดเธอเห็นยังอดโมโหฮึดฮัดแทนไม่ได้เลย อย่าว่าแต่เจ้าตัวเองเลย เธอกลัวว่าหลินหว่านพอเห็นเข้าจะคิดมากทำให้ส่งผลต่อการเตรียมบทของเธอ 

 

 

หนังเรื่องนี้สำคัญสำหรับหลินหว่านมาก เธอไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด 

 

 

“อวิ๋นซี…เธอเห็นว่าฉันเหมือนคนที่จะอ่อนไหวไปกับเรื่องพวกนี้งั้นเหรอ” หลินหว่านพูดอย่างระอาใจ 

 

 

หลังจากถูกทำให้เสียโฉมด้วยฮอร์โมน บนโลกใบนี้ก็ไม่มีอะไรจะทำลายเธอได้อีก 

 

 

คำพูดบนอินเทอร์เน็ตนั้นก่อนอวิ๋นซีจะมาถึง หลินหว่านได้เห็นแล้วเธอไม่ใส่ใจกับมันนัก 

 

 

จิตใจของเธอไม่อ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ตอนนี้เธอเข้มแข็งถึงขนาดที่เสียงข่าวลือจากภายนอกไม่อาจทำร้ายเธอได้อีก 

 

 

อันซิงก็ดี ชาวเน็ตก็เถอะ หลินหว่านจะไม่เศร้าเสียใจหรือโมโหหุนหันเพราะพวกเขาอีกแล้ว 

 

 

หลินหว่านอ้อนวอนอวิ๋นซี อวิ๋นซีมองหลินหว่านแล้วพูดออกมาในที่สุด “เอาเถอะ หลินหว่าน อีกสิบวันข้างหน้าหนังเรื่องนี้จะถ่ายฟิตติ้งกัน กว่าจะถึงตอนนั้นฉันจะดูแลอุปกรณ์พวกนี้ให้เธอเอง เธอต้องตั้งใจอ่านบทให้ดี ตั้งใจเข้าให้ถึงบทบาทเข้าใจไหม” 

 

 

หลินหว่านได้แต่ยอมแพ้ 

 

 

สุดท้าย อวิ๋นซีเก็บกวาดอุปกรณ์สื่อสารของหลินหว่านไปทั้งหมด แล้วออกจากบ้านเธอไป