บทที่ 500 เธอรักเขาเข้าแล้วจริงๆ

รักหวานอมเปรี้ยว

ผ่านไปสักพัก ชาวเน็ตก็พากันหัวเราะเยาะ

“สุดยอด สุดยอดจริงๆ นี่สินะคือความจริง รูปภาพนั้นมันปลอมชัดๆ!”

“แล้วไหนที่บอกว่าเป็นความรักอันสวยหวานล่ะ โผล่หน้าออกมาหน่อยสิ นี่มันตบหน้าตัวเองแท้ๆ!”

“ฉันบอกแล้วไง แม้ว่าเรด้าจะเป็นลูกสาวของตระกูลที่มั่งคั่ง แต่ตระกูลนี้ก็แทบจะล้มละลายแล้ว เรด้าชอบอวดความร่ำรวยของเธอทางอินเทอร์เน็ต ทำท่าทางเหมือนมั่งคั่งสูงส่ง ไม่มีความสงบเสงี่ยมเลย ส่วนเขาเป็นถึงประธานนวบดินทร์กรุ๊ป เป็นหัวหน้าตระกูลนวบดินทร์ จะสายตาไม่ดีคว้าผู้หญิงแบบนี้มาเป็นภรรยาได้อย่างไร?”

เมื่อเห็นการวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ต มายมิ้นท์ก็พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว

นั่นสิ เธอก็คิดแบบนี้เหมือนกัน

หากว่าเปปเปอร์ชอบเรด้านั่น หมายความว่าเขามีตาหามีแววไม่

โชคดีเหลือเกินที่ดูเหมือนเขาจะยังคงตาสว่างอยู่บ้าง

คิดได้ดังนั้นมุมปากของมายมิ้นท์ก็กระตุกเล็กน้อย ความรู้สึกตะขิดตะขวงใจและความกังวลเกี่ยวกับภาพใบนั้น เมื่อเธอได้ดูคลิปวิดีโอนี้ก็ได้คลายลงทันที

จะว่าไปแล้วก็แปลก หลังจากที่เธอเอ่ยถามเปปเปอร์ถึงเรื่องรูปภาพนั้นไปไม่นาน บัญชีทางการของนวบดินทร์กรุ๊ปก็ได้ออกมาเผยแพร่คลิปวิดีโอนั้น หรือว่าเป็นการเข้าใจผิด?

มันเป็นเรื่องบังเอิญเหรอ?

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดงเรื่อของเธอแล้วปฏิเสธการคาดเดาไปอย่างรวดเร็ว

ไม่สิ เปปเปอร์ไม่เห็นคำถามของเธอที่ถามออกไป ดังนั้นมันคงน่าจะเป็นแค่ความบังเอิญแหละ

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

มายมิ้นท์จัดการกับความคิดของตนเองแล้วเอียงศีรษะไปชะโงกดูโทรศัพท์

เมื่อพบว่าเป็นสายของลาเต้เธอก็ปล่อยเมาส์แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ค่ะลาเต้”

“ที่รัก” น้ำเสียงของลาเต้ดังออกมาจากทางโทรศัพท์

มายมิ้นท์เอียงศีรษะด้วยความรู้สึกสับสน “เป็นอะไรไปคะ?”

“ก็เรื่องเปปเปอร์น่ะสิ” ลาเต้ยกมือเกาศีรษะด้วยความหงุดหงิด ก่อนหน้านี้มีข่าวบอกว่าเขาและเรด้าหมั้นหมายกันไม่ใช่เหรอ? ผมดีใจแทบตายตั้งใจว่าจะเตรียมของขวัญไปให้สักหน่อย สรุปว่าผมยังไม่ทันจะซื้อของขวัญเสียด้วยซ้ำ เปปเปอร์กลับมาชี้แจงว่าข่าวนั้นเป็นข่าวเท็จ ให้ตายสิ โมโหจริง!”

เขาและเปปเปอร์นับว่าเป็นศัตรูทางหัวใจต่อกัน

ในฐานะที่เป็นคู่แข่งด้านความรัก แน่นอนว่าเขาต้องการให้เปปเปอร์ไปคบกับผู้หญิงคนอื่น

เพราะถ้าเป็นแบบนี้เปปเปอร์จะได้ไม่มายุ่งวุ่นวายกับที่รักของเขาอีก

แม้เปปเปอร์จะเคยบอกว่าเขาจะวางมือจากมายมิ้นท์ แต่ใครจะไปรู้ละว่าจริงหรือเท็จ

ดังนั้นถ้าหากว่าเปปเปอร์ไปคบกับผู้หญิงคนอื่นเมื่อไหร่ เขาจึงจะสามารถเชื่อได้ว่าเป็นความจริง

แล้วยังไงล่ะ ผลลัพธ์คือ?

ลาเต้หัวเราะออกมาเหอะๆ

มายมิ้นท์ได้ยินประโยคนั้นของลาเต้เธอก็รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยจนขมวดคิ้วเข้าหากัน “มีอะไรให้น่าหงุดหงิดกันคะ มันไม่ใช่เรื่องจริงตั้งแต่แรก คุณจะไม่ให้เขาออกมาชี้แจงเหรอ ถ้าเป็นคุณ คุณอยากจะจมอยู่กับเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้เหรอคะ?”

“แน่นอนว่าผมก็ไม่ชอบหรอก แต่นี่มันไม่เหมือนกัน” ลาเต้เอามือขึ้นกุมศีรษะแล้วพูดขึ้น

มายมิ้นท์พ่นลมหายใจออกมา “แตกต่างกันยังไง?”

“ก็ตรงที่……เดี๋ยวนะที่รัก” ลาเต้พูดได้เพียงครึ่งหนึ่งจู่ๆ ดูเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ท่าทางการแสดงออกของเขาดูจริงจังขึ้นมาทันใด “ที่รัก ทำไมผมถึงพบว่าคุณดูมีความสุขที่เปปเปอร์ออกมาชี้แจงว่างานการหมั้นของเขานั้นเป็นข่าวเท็จ ไม่เพียงเท่านี้ คุณยังช่วยเขาพูดอีกด้วย ตอนที่ผมกำลังว่าเปปเปอร์เมื่อสักครู่คุณก็ออกมาตอบโต้ทันที ที่รัก คุณ……”

“ฉันไม่ได้สนใจเปปเปอร์เลยนะคะ” เขายังไม่ทันพูดจบ มายมิ้นท์ก็สะดุ้งและรีบตอบกลับทันที

และด้วยประโยคนี้ ทำให้ท่าทางการแสดงออกของลาเต้สงบขึ้น อารมณ์ของเขาดูหนักอึ้งมากกว่าเดิม

เขาสูดลมหายใจเข้า พยายามทำน้ำเสียงให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด “ที่รัก ผมยังไม่ได้บอกว่าคุณสนใจเปปเปอร์หรือเปล่าเลย แต่คุณกลับโต้ตอบผมมาว่าคุณไม่ได้สนใจเขา นี่คุณกำลังยอมรับออกมาเองใช่ไหม?”

มายมิ้นท์ผงะลงก่อนจะได้สติกลับคืนมาและรับรู้ว่าปฏิกิริยาของเธอเมื่อครู่ดูผิดปกติไป เธอต้องการจะซ่อนมันเอาไว้

เมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้ รูม่านตาของมายมิ้นท์ก็สั่นคลอน เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพบว่ามือของเธอก็สั่นเล็กน้อย ดวงตาของเธอคู่นั้นเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและสับสน

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ทำไมเธอถึงต้องการจะปิดซ่อนมันไว้?

มายมิ้นท์กัดริมฝีปากของตนเองแน่น หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าในใจเธอจะมีคำตอบบางอย่างจึงได้ขยับริมฝีปาก คล้ายกับจะพูดอะไรออกมา แต่เมื่อเสียงนั้นกำลังจะเปล่งออกไป มันก็กลับจางหายไปอีกครั้งเพราะพูดไม่ออก

สัญชาตญาณในใจของเธอบอกกับตัวเองว่าอย่าบอกคำตอบนั้นออกมา เพราะถ้าหากเธอพูดมันออกมา ชีวิตของเธอก็คงจะมีแต่ความยุ่งเหยิง

อีกฝ่ายหนึ่งของโทรศัพท์ ลาเต้พบว่ามายมิ้นท์นิ่งเงียบไม่ตอบสิ่งใดเขาก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ว่า เธอไม่ได้สนใจเปปเปอร์อีกแล้ว

เขาเข้าใจว่า ตอนนี้เธอเริ่มสนใจเปปเปอร์ขึ้นมาจริงๆ

บางทีเธออาจจะตกหลุมรักเปปเปอร์อีกครั้ง

ไม่อย่างนั้น ตอนที่เธอได้ยินเขาพูดถึงเปปเปอร์ก็คงไม่รีบโต้ตอบแทนแบบนั้นหรอก

เมื่อคิดได้ดังนั้น ริมฝีปากของลาเต้ก็ดูบิดเบี้ยวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น

เฮ้อ เขาแพ้ให้กับเปปเปอร์อีกแล้ว

เขาต้องมองดูเธอตกหลุมรักเปปเปอร์อีกครั้งหนึ่งแล้วเหรอเนี่ย?

“หึๆ ไร้ประโยชน์จริง” ลาเต้เอนตัวไปข้างหลัง ยกแขนขึ้นข้างหนึ่งแล้วปิดดวงตาเอาไว้เล็กน้อย เขาอ้าปากเผยอหายใจเอาความเจ็บปวดออกมา

มายมิ้นท์ขมวดคิ้วขึ้น “ลาเต้คุณหมายถึงฉันเหรอ?”

“เปล่า ผมหมายถึงตัวผมเอง” ลาเต้ตอบด้วยน้ำเสียงอันเยาะเย้ย

เขาไร้ประโยชน์เหรอ?

ทั้งๆ ที่เขาเป็นคนที่รู้จักเธอมาเนิ่นนานที่สุด คนที่อยู่กับเธอนานที่สุดก็เป็นเขา คนที่ตกหลุมรักเธอนานที่สุดและเป็นคนแรกก็คือเขา

จากเหตุผลแล้ว ควรจะเป็นเขาที่อยู่ข้างกายเธอ

แต่เป็นเพราะความขี้ขลาดของเขา จึงทำให้ไม่กล้าจะแสดงความรู้สึกของตัวเองออกไป เธอไม่อาจรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่เขามีต่อเธอ ดังนั้นจึงทำให้ต้องมองดูเธอตกหลุมรักผู้ชายคนอื่นถึงสองครั้งติดต่อกัน

และผู้ชายคนนั้นกลับเป็นคนคนเดียวกัน

วินาทีนี้ ลาเต้ไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดใจและโทษตัวเองว่าไร้ประโยชน์เช่นนี้มาก่อนเลย

แม่พูดไม่ผิด เขามันไร้ประโยชน์ เป็นเพียงแค่ขยะที่ไม่เคยคิดจะต่อสู้เพื่อตัวเอง เอาแต่จะมอบคนที่ตนรักไปให้คนอื่นด้วยตัวเอง

ลาเต้หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงอันเหน็บแนม หางตาของเขาเป็นสีแดง น้ำตาระยิบระยับอยู่ที่หางตาเป็นประกาย

ผ่านไปหลายวินาทีเลยทีเดียว ในที่สุดเขาก็เอามือที่วางไว้ตรงดวงตาออก เผยอยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมดูขมขื่นว่า “เอาล่ะครับที่รัก พอดีผมยังมีธุระ แค่นี้ก่อนนะ”

เมื่อเขาพูดจบ ก็รีบวางโทรศัพท์ลง

ผู้หญิงคนที่เขารัก ตกหลุมรักคนอื่นอีกแล้ว นี่คือความจริงและเขาไม่อาจยอมรับมันได้

ดังนั้นเขาจึงต้องการความสงบเงียบเงียบสักพัก

อีกด้านหนึ่งเมื่อมายมิ้นท์พบว่าโทรศัพท์ของเธอถูกวางสายลง คิ้วได้รูปของเธอก็ขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากของเธอพึมพำว่า “ลาเต้……”

เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ลาเต้ถึงเป็นแบบนี้ แต่เธอรู้สึกได้ว่าอารมณ์ของเขาดูไม่ปกตินัก

มันทั้งโกรธทั้งน้อยเนื้อต่ำใจและไร้สิ้นหนทาง……

รสชาติต่างๆ มากมายผสมผสานกัน

ในความทรงจำของเธอนั้น เขาเป็นคนที่มีชีวิตชีวาเสมอ ดูเหมือนกับมีพลังงานที่ใช้ไม่มีวันหมดสิ้น

แต่จู่ๆ อารมณ์ของเขากลับกลายเป็นเชิงลบแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกกังวลมาก

เมื่อคิดได้ดังนั้นมายมิ้นท์จึงลุกขึ้นแล้วหยิบเสื้อคลุมที่แขวนไว้ขึ้นมา แล้วเดินตรงไปที่ประตูห้องทำงาน

เธอตั้งใจจะเดินทางไปที่บริษัทของลาเต้เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา

ขณะเดียวกันนั้นที่ตระกูลจักรีศานส์

ชนศักดิ์และบุตรสาวเมื่อเห็นข่าวและวิดีโอของตระกูลนวบดินทร์ที่ออกมาชี้แจงเรื่องของรูปภาพนั้น สีหน้าของเธอก็ดูถอดสีและตื่นตระหนก

“พ่อคะ ทำยังไงดี!” เรด้า ใช้มือจับไปที่กระโปรงของเธอแน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก “ประธานเปปเปอร์ไม่เพียงแต่ออกมาปฏิเสธเรื่องข่าวลือการหมั้นหมายของหนูกับเขา ตอนนี้เขาออกมาชี้แจงเรื่องรูปถ่ายแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเขาจะรู้หรือไม่ว่าเป็นพวกเรา……”

“อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป” ชนศักดิ์ยกมือขึ้นขัดจังหวะเธอ “เขาน่าจะไม่รู้ว่าเราเป็นคนวางแผนทั้งหมดนี้ คงจะคิดว่าเป็นปาปารัสซี่ถ่ายเอาไว้โดยบังเอิญจึงทำให้เกิดข่าวลือเหล่านี้ขึ้น คนปกติทั่วไปคงไม่มีใครคิดหรอกว่าเรื่องนี้จะมีคนวางแผนจัดฉากไว้ เพราะประธานเปปเปอร์เป็นคนใหญ่คนโต มักจะถูกปาปารัสซี่จับตามองไม่ใช่เรื่องแปลก”