เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 776
ลู่ฝานกำหมัดอย่างตื่นเต้น หลังจากนั้นเขารู้สึกว่าจู่ๆ ก็มีอะไรอยู่ในมือ

เมื่อก้มลงมอง ลู่ฝานเห็นยาต่อชีวิตอยู่ในมือเขาแล้ว สัมผัสแข็งทนทาน เหมือนที่กำอยู่ไม่ใช่สมุนไพร แต่เป็นโลหะ แต่พลังลึกลับที่ออกมาจากข้างใน ทำให้เขาอึ้งไป ถึงขนาดที่รู้สึกว่าเส้นลมปราณและกระดูกในตัวเขา ส่งเสียงออกมาอย่างมีความสุข

เสียงของเจดีย์เสวียนเก้ามังกรดังขึ้น “เอ๊ะ สมุนไพรนี้แปลกมาก ไม่เคยเห็นมาก่อน”

ลู่ฝานยิ้มบางๆ เขานึกว่าเจดีย์เสวียนเก้ามังกรจะรู้หมดทุกอย่างเสียอีก ที่แท้บนโลกนี้ มีสิ่งที่มันไม่รู้ด้วย

หันมามองเซียนอวี่ซาน อีกฝ่ายยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร เหมือนอยู่ดีๆ เขาก็โยนของมา มีวิทยายุทธสูงส่งจริงๆ ฝีมือระดับนี้ ลู่ฝานไม่เคยเห็นมาก่อน

พูดจริง ถ้ามีฝีมือแบบนี้ แอบไปขโมยของบ้านคนอื่น ต้องดีมากอย่างแน่นอน

ลู่ฝานเก็บมันเอาไว้ในเข็มขัด หลังจากนั้นเอาเลือดสารจำเป็นของกุยวัวให้เซียนอวี่ซาน

ยื่นหมูยื่นแมว นี่เป็นข้อปฏิบัติ ในเมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว ลู่ฝานก็ไม่อยากสร้างความทรงจำที่ไม่ดีกับเซียนอวี่ซาน

เซียนอวี่ซานเก็บเลือดสารจำเป็นของกุยวัวโดยไม่มองเลย

แต่โลหิตเย็นของมังกรโลหิตสามหัวขวดนั้น เซียนอวี่ซานกลับเก็บเอาไว้ติดตัว

ใช่ ไม่ได้ดูผิด เซียนอวี่ซานทำแบบนี้จริงๆ

ราวกับของอย่างอื่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ มีเพียงโลหิตเย็นขวดนี้ที่สำคัศที่สุด

ของที่ผู้ฝึกชี่เก็บไว้ติดตัว ก็เหมือนอาวุธวิถีบู๊ชั้นยอดของนักบู๊ ถ้าไม่ถึงตาย ไม่มีทางเอาออกมาให้

ลู่ฝานพบว่าเขาดูถูกโลหิตเย็นไปหน่อยหรือเปล่า

มังกรโลหิตสามหัวเป็นสัตว์อสูรแข็งแกร่งที่พังพินาศไปพร้อมกับอริยปราชญ์สวรรค์บันดาล เลือดของมันคงไม่ธรรมดาขนาดนั้น

แต่ในมือของเขามีเป็นกอง เอาออกมาขวดเดียว ก็ไม่นับประสาอะไร

เมื่อจัดการเรื่องพวกนี้เสร็จ จู่ๆ เซียนอวี่ซานปรบมือ หลังจากนั้นมีผู้ชายร่างกายเปลือยเปล่า ออร่าแข็งแกร่ง ปรากฏตัวขึ้นในหอแดนสวรรค์

คนพวกนี้ผลักประตูห้อง แล้วยืนอยู่หน้าประตู

ทุกคนส่งเสียงพูดคุย คนจำนวนไม่น้อยมีสีหน้าโกรธ เห็นได้ชัดว่าเกิดเรื่องแบบนี้ที่หอแดนสวรรค์เป็นครั้งแรก

พลเอกทั้งสี่คนมองชายที่ปรากฏตัวหน้าประตู พูดด้วยแววตาเย็นชาว่า “นี่หมายความว่าอะไร”

สุ่ยเชียนโหรวมองชายกำยำที่ปรากฏตัวหน้าประตู แล้วพูดเบาๆ ว่า “จัดการ”

ผู้หญิงชุดเหลืองด้านหลังฉางเจี๋ยหน้าผี มองผู้ชายตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ้มแล้วพูดว่า “หน้าตาไม่เลว วันนี้นายอาบน้ำหรือยัง”

ศิษย์พี่หานเฟิงมองผู้ชายหน้าประตู ขมวดคิ้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ตอนนี้คิดจะหนีคงไม่ได้แล้ว”

“ทุกท่าน ใจเย็นๆ เอาไว้ อย่าเพิ่งวู่วามให้อดทนรอดูเหตุการณ์ไปก่อน”

เสียงเซียนอวี่ซานดังก้อง กลบเสียงพูดคุยของทุกคนเอาไว้

“ก่อนอื่นต้องขอโทษทุกท่าน ของชิ้นที่สามที่จะประมูลในวันนี้ มีความสำคัญมาก ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการนี้ แค่ทุกท่านไม่ละเมิดข้อปฏิบัติ จะไม่เกิดเรื่องอะไร ฉันรู้ว่าคนจำนวนไม่น้อย มาเพื่อของชิ้นที่สาม หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจกับสิ่งที่ฉันทำ! ถ้าไม่เข้าใจ ได้โปรดอย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่น”

เซียนอวี่ซานกวาดตามองทุกคนด้วยแววตาดุดัน

ส่วนลู่ฝานรู้สึกไม่แคร์ กลับมีความอยากรู้เพิ่มขึ้นอีก

“ของอะไรที่มีความสำคัญขนาดนี้ ดีกว่ายาวิเศษอีกเหรอ”

หลิงเหยาพูดว่า “ต้องใช่แน่นอน เป็นเครื่องรางของอริยปราชญ์อีกหรือเปล่า”

หานเฟิงส่ายหน้าพูดว่า “น่าจะไม่ใช่ ดูสิ ฉันรู้สึกว่าวันนี้ฉันจะได้เปิดหูเปิดตา”

พวกลู่ฝานทั้งสามคนหัวเราะขึ้นพร้อมกัน

เซียนอวี่ซานสูดหายใจลึก หลังจากนั้นเอาของอย่างหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ

เมื่อมองแวบแรก ลู่ฝานคิดว่าเป็นก้อนสีดำที่ดำสนิท ดำเหมือนตอนกลางคืน สีดำที่ดูดวิญญาณ

หลังจากนั้น ลู่ฝานเพิ่งเห็นว่านี่คือก้อนสีดำที่เคลื่อนไหวได้ เป็นรูปหัวใจ มีเสียงดังขึ้นเป็นจังหวะ

“หัวใจแห่งความมืด มาจากที่ที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ชัดเจน ระเหเร่ร่อนมาที่ตงหวา ผู้มีความสามารถได้รับมันมา แต่ไม่กล้าครอบครอง ทำได้เพียงขายให้หอแดนสวรรค์ ฉันก็ไม่กล้าโลภเก็บไว้เพียงคนเดียว ของล้ำค่าขนาดนี้ เป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถครอบครองได้ เชิญทุกท่านเสนอราคาได้เลย”

เมื่อเซียนอวี่ซานพูดจบ ก็หันไปมองอีกด้าน ราวกับว่าถ้ามองหัวใจแห่งความมืดนานกว่านี้ จะโดนมันดึงดูดใจ

ทุกคนในที่นี้โดนหัวใจที่กำลังเต้นดึงดูดไปแล้ว ลู่ฝานรู้สึกว่าจังหวะการเต้นของหัวใจตนเอง แทบจะเหมือนกับหัวใจแห่งความมืดอันนี้

ตุ้บ ตุ้บ!

จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกว่ามือขวาของตัวเองร้อนระอุขึ้นมาโดยไร้สาเหตุ