SD:บทที่ 78 นี่คือเพื่อนของผมทั้งหมด

 

เซียเซี่ยวโม รู้สึกตกใจในทัศนคติของ ลู่หมิง  เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ออกมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอเห็นว่า ซูฉิวไป่ ค่อยๆหันหลังกลับไปเธอเริ่มรู้สึกไม่ดี

“เพื่อนของคุณอย่างนั้นหรอ?”

ซูฉิวไป่ ถามคำถาม เซียเซี่ยวโม อย่างรวดเร็ว

เซียเซี่ยวโม ตอบอย่างเชื่องช้าร่องรอยความโกรธยังคงปรากฏบนใบหน้าที่เย็นชาของเธอ

“เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉัน…ขอโทษด้วย..”

ในขณะที่พูด เซียเซี่ยวโม คว้าเงินจากมือของ ลู่หมิง และโยนใส่เขา

“ถ้านายกล้าที่จะพูดแบบนี้อีกออกไปจากรถคันนี้!”

การกระทำของ เซียเซี่ยวโม ทำให้จินตนาการได้ว่า ลู่หมิง นั้นโกรธเธอมากขนาดไหน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ เซียเซี่ยวโม ทำนั้นเพียงเพื่อประโยชน์ของ ลู่หมิง เท่านั้น หากเขารู้ว่าคนที่พึ่งยกรถตู้ก่อนหน้านี้เป็นเพื่อนของคนขับรถแท็กซี่เขาคงจะรู้สึกขอบคุณหญิงสาวอย่างจริงใจ

ในทางกลับกัน ลู่หมิงกลับไม่คิดแบบนั้น  เขาโกรธการกระทำของ เซียเซี่ยวโม

นางแพศยาคนนี้กล้าทำแบบนี้กับฉันต่อหน้าคนขับรถแท็กซี่!

เขาแทบอยากจะตบหญิงสาวเสียตอนนี้ แต่เขาคิดได้ว่า เซียเซี่ยวโม ยังคงต้องการความช่วยเหลือจากเขาเขาสามารถสอนบทเรียนให้กับเธอหลังจากที่เขาจัดการเธอแล้ว

เมื่อคิดได้อย่างนั้น  ลู่หมิง ยิ้มและนิ่งเงียบไป

รถเริ่มเคลื่อนที่อีกครั้งทั้ง 3 คนกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล  เซียเซี่ยวโม ต้องการที่จะพูดบางอย่างกับ ซูฉิวไป่  อย่างไรก็ตามอารมณ์ของ ซูฉิวไป่ ในตอนนี้แย่มากๆ หากไม่ใช่เพราะโรงพยาบาลอยู่ในเส้นทางที่เขาวางแผนจะผ่านอยู่แล้วเขาคงไม่ให้สองคนนี้ขึ้นรถแท็กซี่ของเขา ถึงแม้ว่าเซี่ยเซี่ยวโมจะเป็นคนสวย แต่ด้วยอารมณ์เย็นชาของเธอ มันอาจเป็นสิ่งล่อใจของผู้ชายหลายคนแต่สำหรับ ซูฉิวไป่ นั้นเขาไม่มีอารมณ์ที่จะคิดถึงเธอเลย

โชคของเขาไม่ค่อยดีเนื่องจากจราจรคับคั่งทำให้รถติดก่อนจะถึงโรงพยาบาล เหลือเพียงอีกไม่กี่ถนนเท่านั้น เซียเซี่ยวโม จึงต้องการลงจากรถ เพื่อแสดงความขอบคุณเธอจึงชวน ซูฉิวไป่ รับประทานอาหารกับเธออีกครั้ง

ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองคนได้พูดคุยทางโทรศัพท์และจะไปรับประทานอาหารด้วยกันเมื่อมีโอกาส ใครจะรู้ว่าโอกาสมาเร็วขนาดนี้

หลังจากไต่ตรองชั่วขณะ ซูฉิวไป่ รู้สึกไม่ดีที่จะปฏิเสธหญิงสาวเป็นครั้งที่ 2 ดังนั้นเขาจึงตกลง

นั่นทำให้ ลู่หมิง เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเป็นเช่นไร ตอนนี้เขารู้สึกราวกับมือที่สาม

จากนั้น ลู่หมิง จึงเป็นคนแนะนำร้านอาหารหรูหราที่อยู่ใกล้ๆ แต่ ซูฉิวไป่ ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะร่วมรับประทานอาหารเหตุที่เขาตกลงกับข้อเสนอของ เซียเซี่ยวโม ในครั้งนี้เพราะเขาไม่ต้องการที่จะปฏิเสธเธอเป็นครั้งที่ 2 อีกอย่างตอนนี้เขารู้สึกหิวเล็กน้อย

ดังนั้นสุดท้ายแล้วพวกเขาทั้งสามคนจึงไปร้านอาหารเล็กๆริมถนน

หลังจากสั่งอาหารบางจานแล้ว  ลู่หมิง ก็พึมพำอย่างลับว่า  “ไม่มีใครขอให้แกมา”

ซูฉิวไป่ ไม่ได้ยินมันแต่ เซียเซี่ยวโม ที่นั่งอยู่ด้านข้างได้ยินอย่างชัดเจน ดังนั้นเธอรู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้นแต่ดูเหมือนว่า ซูฉิวไป่ จะไม่พูดอะไรออกมา

อย่างไรก็ตามความเงียบของเขาทำให้ ซูฉิวไป่ รู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น  เซียเซี่ยวโม สังเกตเห็นว่าการเคลื่อนไหวของ ซูฉิวไป่ เป็นไปตามธรรมชาติ เขาไม่ได้สนใจและไม่ได้จ้องมองเธอเหมือนกับคนอื่นทำ

แต่…ทำไมล่ะหรือว่าฉันยังสวยไม่พอสำหรับเขา

บางครั้งผู้หญิงเองก็แปลกจริงๆ เธอคิดเช่นนั้นได้อย่างไร?

ซูฉิวไป่ ไม่สนใจว่าทั้งสองคนที่ร่วมโต๊ะอาหารของเขานั้นจะคิดอะไร ตอนนี้เขารู้สึกหิวและคิดว่าควรที่จะรับประทานอะไรดี

ไม่ช้าอาหารทั้งหมดก็มาเสิร์ฟทั้ง 3 คนเริ่มรับประทานอาหาร  ลู่หมิง ไม่สนใจ ซูฉิวไป่ และเริ่มพูดคุยกับ เซียเซี่ยวโม ด้วยหัวข้อก่อนหน้านี้

“เซี่ยวโมตราบใดที่คุณยอมเป็นแฟนกับผม ผมจะโทรหาลุงของผมทันทีเพื่อให้เขาจัดการเรื่องโอนย้ายผู้ป่วยแม้กระทั่งจัดหาแพทย์ที่ดีที่สุดเพื่อทำการตรวจรักษา”

รอยยิ้มที่ชั่วร้ายปรากฏอยู่บนใบหน้าของ ลู่หมิง เขาหรี่ตาเล็กน้อย ในตอนแรก เซียเซี่ยวโม รู้สึกกังวลใจว่า ลู่หมิง จะบังคับเธอให้เป็นแฟนสาวของเขาต่อหน้า ซูฉิวไป่ สุดท้ายสิ่งที่เธอคิดเอาไว้ก็ถูกต้อง

ใบหน้าของเธอแสดงออกอยากเย็นชาและจ้องมองไปที่ ลู่หมิง

“ ลู่หมิง ฉันจะพูดกับนายอีกครั้ง ฉันจะดูแลหลานสาวของฉันเอง นายไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก!”

เพราะหญิงสาวโกรธมากจนทำให้มือของเธอสั่นในขณะที่เธอพูด

“อย่าคิดอย่างนั้นสิ เซียเซี่ยวโม มันเป็นเพียงแค่การโอนย้ายผู้ป่วย ผมสามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายตราบใดที่..”

ลู่หมิง แสดงความกล้าหาญอย่าโง่เขลา เขาพูดกับเซี่ยเซี่ยวโมในขณะที่มือข้างหนึ่งของเขาแตะไปยังต้นขาของเธอ

เซียเซี่ยวโม รู้สึกโมโหมากในตอนนี้ เธอไม่สนใจว่าเธอจะอยู่ในร้านอาหารอีกต่อไปเธอยืนขึ้นและตบ  ลู่หมิง ทันที จากนั้นต่อยซ้ำอีกครั้ง

“ออกไป!”

ลู่หมิง ไม่คาดคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะทุบตีเขา เธอเคยเป็นอย่างนี้ในช่วงเธอเรียนหนังสือใครจะรู้ว่าเธอยังคงเหมือนเดิมเมื่อผ่านไปหลายปีแล้ว?

เขาถูคางตัวเองและลุกจากพื้น  ลู่หมิง ก็รู้สึกโกรธเช่นกัน

“ เซียเซี่ยวโม  อย่าคิดว่าผมจะกลัวคุณ!ผมจะบอกเลย ถ้าคุณไม่ตกลงในข้อเสนอของผม ก็อย่าได้คิดเรื่องที่จะย้ายหลานสาวของคุณมาที่โรงพยาบาลตงไห่!”

แม้ว่าจะมีหลายคนอยู่ในร้านอาหารแต่ ลู่หมิง ก็ไม่สนใจอีกต่อไป

เซียเซี่ยวโม รู้สึกราวกับว่าหัวของเธอจะระเบิดเธอไม่คิดว่า  ลู่หมิง จะน่ารังเกียจขนาดนี้!

“ออกไปเดี๋ยวนี้!”

จริงๆแล้ว เซียเซี่ยวโมอยากจะดึงปืนพกของเธอออกมา ถ้าเธอมีมันอยู่ในตอนนี้

“เหอะ ผมจะรอให้คุณมาอ้อนวอนผม!”

ลู่หมิง  ลุกแล้วจากไป

ซูฉิวไป่ ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม จานอาหารที่อยู่ตรงหน้าเขาเกือบจะหมดแล้ว เขาเข้าใจสถานการณ์อย่างคร่าวๆแต่สุดท้ายแล้วเขาไม่ได้สนิทสนมกับ เซียเซี่ยวโม  ดังนั้นคงไม่ใช่เรื่องดีถ้าเขาจะไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเธอ

ถ้าเป็น เซี่ยหรงหรง แล้วล่ะก็  ลู่หมิง คงไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้

หลังจากที่ เซียเซี่ยวโม สงบสติอารมณ์เธอก็นึกได้ว่าเธอควรที่จะสนใจ ซูฉิวไป่ ในตอนนี้ดังนั้น เซียเซี่ยวโม จึงนั่งลง

“ฉันขอโทษ…มันน่าอายมาก”

เซียเซี่ยวโม มองไปที่ ซูฉิวไป่ และขอโทษ เธอโกรธจนนิ้วของเธอเปลี่ยนเป็นสีขาว

“ไม่มีปัญหา…เขาเป็นหมอในโรงพยาบาลตงไห่งั้นหรอ”หลังจากลังเลสักครู่ ซูฉิวไป่ ก็ถามขึ้น

“ใช่แล้ว ลุงของเขาเป็นรองผู้อำนวยการแผนกกุมารเวชในโรงพยาบาลตงไห่ หลานสาวของฉันป่วยหนักมากฉันคิดที่จะพาเธอมารักษาที่โรงพยาบาลตงไห่แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโอนย้ายผู้ป่วยดังนั้นฉันจึงคิดที่จะ…”

สถานการณ์ดูน่าเกลียดดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่

“แล้ว…ลุงของเขาชื่ออะไร”หลังจากไต่ตรองสักครู่ ซูฉิวไป่ ก็ถามขึ้นอีกครั้ง

เซียเซี่ยวโม รู้สึกแปลกเล็กน้อยเธอไม่เข้าใจว่า ซูฉิวไป่ ถามคำถามนี้ทำไม

แม้ว่าเธอไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเขากำลังทำอะไรแต่ เซียเซี่ยวโม ยังคงตอบว่า

“ เขาชื่อจางจงฟา คุณอยากรู้ไปทำไม?”

“จางจงฟา..โรงพยาบาลตงไห่ใช่ไหม?รอสักครู่”

ทันทีที่พูดจบ ซูฉิวไป่ ลุกขึ้นและเดินออกไป  เซียเซี่ยวโม รู้สึกแปลกๆเธอไม่รู้ว่า ซูฉิวไป่ กำลังพยายามทำอะไร

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที ซูฉิวไป่ ก็เดินกลับมาพร้อมกับกระดาษสีขาวกองหนึ่ง  เธอไม่รู้ว่ากระดาษพวกนี้คืออะไรแต่กระดาษทุกแผ่นมีบางสิ่งที่เขียนอยู่

ซูฉิวไป่ นั่งลงบนเก้าอี้และเริ่มพลิกกระดาษไปมาบนโต๊ะ

“นี่คือ…”

เซียเซี่ยวโม ไม่เข้าใจสิ่งที่ ซูฉิวไป่ กำลังทำอยู่ดังนั้นเธอค่อนข้างลังเล

“นี่คือเพื่อนของผมทั้งหมด ผมกำลังดูว่ามีใครบ้างที่มาจากโรงพยาบาลตงไห่”

ซูฉิวไป่ ตอบด้วยรอยยิ้มและยังคงพลิกหน้ากระดาษต่อไป

ในที่สุด เซียเซี่ยวโมก็เข้าใจว่า ซูฉิวไป่ กำลังพยายามช่วยเธอ  ในขณะเดียวกันเธอเองก็ต้องการปฏิเสธความช่วยเหลือของชายหนุ่มโดยสัญชาตญาณ หลังจากที่เฝ้าดูอาการเจ็บป่วยของหลานสาวใน 2-3 วันที่ผ่านมา เธอเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าโรงพยาบาลตงไห่นั้นเป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงระดับประเทศมันยากเกินไปที่จะย้ายหลานสาวของเธอมาที่นี่

ถึงแม้ว่า ซูฉิวไป่ จะเป็นคนลึกลับแต่เขาก็คงไม่สามารถแก้ปัญหาของเธอได้

อย่างไรก็ตามในขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรออกมาอยู่ๆ ซูฉิวไป่ก็หัวเราะเสียงดัง

“ เจอแล้ว! หลิวเทียนหมิง..รอเดี๋ยวผมจะโทรหาเขา”

เมื่อพูดเสร็จ ซูฉิวไป่ ก็ดึงโทรศัพท์ออกมาพร้อมกับกฎหมายเลข  เซียเซี่ยวโม พูดไม่ออกหลิวเทียนหมิงเป็นชื่อที่ดูเหมือนเคยได้ยินมาก่อน

จากนั้นเธอก็จำได้ว่า…เขาคือผู้อำนวยการของโรงพยาบาลตงไห่!

———————————————