กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1065 น้ำแข็งผนึกพันลี้
สิ่งที่ฮวาอิ่งได้กลับไปคือการโจมตีอย่าต่อเนื่องของเยี่ยจิ่งหาน ระลอกแล้วระลอกเล่า แต่ละระลอกนั้นหวังจะเอาชีวิตของนาง
ฮวาอิ่งยิ้มอย่างเยือกเย็น “เจ้าขาพิการ ข้าอุตส่าห์จะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับไม่คิดจะแก้ไข”
ควับ……
เส้นน้ำแข็งจำนวนมากปรากฏออกมาด้านหลังของฮวาอิ่ง แต่ละเส้นนั้นโปร่งแสง ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่หากจ้องมองให้ดีก็จะเห็นเป็นเส้นน้ำแข็งบาง ๆ ภายใต้การควบคุมของเยี่ยจิ่งหาน เส้นน้ำแข็งเหล่านั้นกำลังพุ่งเข้ามากลืนกินเยี่ยจิ่งหาน
กู้ชูหน่วนตะโกนส่งเสียง “เส้นน้ำแข็งเหล่านั้นมีพิษ หากถูกพิษของมันเข้าไปแม้แต่นิดเดียว เจ้าจะตายในทันที เสี่ยวเยี่ยเยี่ย ระวังตัวด้วย”
ฟิ้ว……
ด้วยการเคลื่อนไหวนิ้วของฮวาอิ่ง เส้นน้ำแข็งพุ่งเข้าหาเยี่ยจิ่งหานอย่างท่วมท้น เห็นอยู่ว่าเส้นน้ำแข็งนั้นมีขนาดเล็ก แต่ความเร็วของมันนั้นรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ และกลิ่นอายแห่งความตายเองก็อยู่ในจุดสูงสุด
เยี่ยจิ่งหานเปลี่ยนจากรุกเป็นรับ นำขลุ่ยหยกขาวขึ้นมาเพื่อสร้างเป็นโล่ป้องกัน
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว……”
เส้นน้ำแข็งพุ่งเข้ามาทางด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพิษอันรุนแรง ทำให้โล่ป้องกันค่อย ๆ อ่อนกำลังลง
กู้ชูหน่วนรวบรวมสมาธิและคิดหาวิธีการแก้ไขอย่างสุดความสามารถ
และในตอนที่เยี่ยจิ่งหานตกอยู่ในอันตราย และกู้ชูหน่วนเองก็ไม่สามารถหาทางออกได้
ในเวลานั้นเหวินเส่าอี๋ใจจดใจจ่ออยู่กับการหมุนเวียนลมปราณ ใช้น้ำแข็งผนึกพันลี้แช่แข็งป่าไผ่ทั้งหมดรวมถึงเส้นน้ำแข็งและฮวาอิ่งที่อยู่บนท้องฟ้า
อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนหนาวจนตัวสั่น
หิมะหนานุ่มโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าอย่างงดงาม
กู้ชูหน่วนจ้องมองใบหน้าอันซีดเซียวของเหวินเส่าอี๋ เท้าของนางสั่นไหวเล็กน้อย
“น้ำแข็งผนึกพันลี้จำเป็นต้องเผาผลาญพลังภายในถึงจะให้ออกมาได้ และทุกครั้งที่ใช้ออกมา วรยุทธ์ของเจ้าก็จะถดถอยลงไปเป็นอย่างมาก ร้ายแรงที่สุดอาจทำให้อันตรายถึงชีวิต”
เหวินเส่าอี๋จะฟังนางได้อย่างไร
ต่อให้ต้องเผาผลาญพลังภายใน วันนี้เขาก็ต้องสังหารฮวาอิ่งที่นี่ให้ได้
เมื่อนึกถึงความโหดร้ายของฮวาอิ่ง ความเร็วของเหวินเส่าอี๋ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
เยี่ยจิ่งหานมองมาที่เหวินเส่าอี๋ด้วยความสับสน
หากเมื่อครู่เขาไม่เข้ามาช่วย ตนเองต้องตายด้วยเนื้อมือของฮวาอิ่งเป็นแน่
เหวินเส่าอี๋เกลียดเขาถึงกระดูกดำ
แม้เวลานี้จะหารือกันแล้วว่าจะร่วมมือกันจัดการฮวาอิ่ง
แต่……
หากไม่ช่วยตนเองไว้
คู่แข่งของเขาก็จะหายไปหนึ่งคน
คำพูดของฮวาอิ่งยังคงก้องอยู่ในหูของเยี่ยจิ่งหาน
เขากับเหวินเส่าอี๋เป็นพี่น้องพ่อเดียวกันแต่คนละแม่
พี่น้องพ่อเดียวกันแต่คนละแม่
“เยี่ยจิ่งหาน ใส่สิ่งนี้เข้าไปในร่างกายของนาง”
เสียงตะโกนของกู้ชูหน่วนดังขึ้นมาข้างหูของเขา เยี่ยจิ่งหานเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
นำอักขระในมือของกู้ชูหน่วนลากไปหาร่างของฮวาอิ่ง จากนั้นเขาใช้พลังภายในออกมากระตุ้นอักขระของกู้ชูหน่วนเพื่อใส่เข้าไปในร่างกายของฮวาอิ่ง
“เอื้อ……”
เหวินเส่าอี๋กระอักออกมา
เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขาอีกครั้ง
หัวใจของเยี่ยจิ่งหานและกู้ชูหน่วนรู้สึกร้อนรน ทำได้เพียงใช้พลังทั้งหมดนำอักขระเข้าไปในร่างกายของฮวาอิ่งให้เร็วที่สุด
อักขระเหล่านี้ล้วนเป็นอักขระโบราณ ซึ่งเขียนขึ้นจากภาพจิตรกรรมฝาผนังในพื้นที่ต้องห้ามแห่งราชวงศ์ของรัฐปิง
นางเองก็ไม่รู้ว่าอักขระเหล่านี้มีประโยชน์อย่างไร ทำได้เพียงลองดูเท่านั้น
“แครก แครก……”
น้ำแข็งบนร่างกายของฮวาอิ่งแตกออกอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเสียงระเบิดดังขึ้น ฮวาอิ่งทำลายผนึกน้ำแข็ง
“เจ้าคนตาบอด น้ำแข็งผนึกพันลี้นี้ใช้ออกมาได้ดีกว่าพ่อไร้ประโยชน์ของเจ้าเสียอีก”
อักขระผนึกร่างของนางไว้ ฮวาอิ่งไม่ได้รีบร้อนที่จะทำลายมัน ตอนนี้นางกำลังมุ่งเป้าไปที่เหวินเส่าอี๋เพื่อหวังจะแก้แค้น
เมื่อได้ยินเสียงระเบิด หัวกะโหลกจำนวนมากก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนของวิญญาณ
ดวงตาทั้งสองข้างของเหวินเส่าอี๋ไร้ซึ่งแสงสว่าง เขาไม่สามารถมองเห็นพวกมันได้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงทำได้เพียงรับรู้สถานการณ์การต่อสู้ด้วยการฟัง
เวลานี้โครงกระดูกจำนวนมากส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา ทำให้ความสามารถในการตัดสินใจจากการฟังเสียงของเขาลดลง ประกอบกับร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้เขากำลังตกอยู่ในอันตราย
ฮวาอิ่งกล่าวว่า “ดูดเลือดของเขามาให้หมด ข้าอยากให้เขาตายอย่างอนาถ มากกว่าพ่อไร้ประโยชน์ของเขาหมื่นพันเท่า”