ภาค 5 ผู้ขี่มังกรสู่ฟากฟ้า บทที่ 473 เยี่ยนตี๋ออกจากฌาน!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ทุกคนที่อยู่ในเมืองทะเลมรกตร่วมมือกันจู่โจม โดยมีวิชาหมัดถึงตะวันกับกระบี่ทะเลมรกตไร้รูปร่างเป็นศูนย์กลาง ใช้ขวานจามสวรรค์และกระบี่ลวงกระแสเมฆเป็นตัวส่งเสริม ผนวกกับมีปราชญภาพ์วาดผู้อาวุโสม่อคอยสอดรับและส่งเสริม

พลังอันยิ่งใหญ่จากการส่งเสริมของแข็งอ่อน และการให้กำเนิดกันและกันของหยินหยาง ระเบิดออกมาทั้งหมดในชั่วพริบตา อีกทั้งยังมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พวกราชันปีศาจอัคคีจิ่งจงส่งเสียงคำรามน่าสยดสยอง เปลวไฟลุกไหม้รวมตัวกัน

พลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกันกลางอากาศอย่างรุนแรง

ครั้งนี้ ฝ่าเท้าขนาดโอฬารข้างหนึ่งกระทืบลงมาจากเหนือเมืองทะเลมรกต รุนแรงชนิดฟากฟ้าถล่มทลาย!

สีหน้าของพวกซ่งอู๋เลี่ยงกลายเป็นเขียวคล้ำ

ในตอนนี้เปลวไฟลุกไหม้ไร้สิ้นสุดแข็งตัวที่ใต้ฝ่าเท้าขนาดยักษ์พร้อมกัน จากนั้นก็บีบตัวใต้ฝ่าเท้า ทั้งบ้าคลั่งทั้งน่าอึดอัด

ปราชญ์ภาพวาดที่เป็นผู้อาวุโสที่สุดใลลกแปดพิภพ และเคยผ่านการรุกรานครั้งแรกของปีศาจอัคคีครั้งแรก ซึ่งเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดด้วยตัวเอง ในตอนนี้เขามีสีหน้าเคร่งขรึมยิ่ง

“มหาราชันปีศาจ!”

ความจริงไม่จำเป็นต้องผ่านสงครามครั้งนั้นก็ได้ เพราะทุกคนที่อยู่รอบๆ ล้วนมีความรู้สึกตกตะลึงสุดขีด!

พลังงานอันน่ากลัวกดอัดทำลายแสงสีทองและทะเลสีมรกตอย่างต่อเนื่อง

พวกหวงกวงเลี่ยและซ่งอู๋เลี่ยงส่งเสียงตวาดต่ำพร้อมกัน ญาณจริงแท้อันยิ่งใหญ่รวมตัวกัน ก่อนจะพุ่งขึ้นด้านบน กลายเป็นคลื่นคลั่งไร้สิ้นสุด ขวางการก้าวย่างของอีกฝ่าย

เงาร่างขนาดใหญ่กลางอากาศ ในตอนนี้ปรากฏให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงแล้ว

ใหญ่โตเหมือนกับภูเขา ร่างส่วนล่างเหมือนวัว ร่างส่วนบนเหมือนเสือ มีศีรษะขนาดใหญ่เป็นวัว บนศีรษะมีเขาวัวโค้งงอ ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยลวดลายเปลวไฟซึ่งกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง

ลูกตาสีแดงฉานก้มลงมองค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดเบื้องล่างอย่างดุร้าย

ท่ามกลางเสียงคำรามสนั่น ค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดก็พังทลายอย่างสะเทือนเลือนลั่น!

ม่านน้ำถูกฉีกกระชาก ร่วงลงจากท้องฟ้าเหมือนน้ำหลาก พุ่งลงสู่เมืองทะเลมรกตบนเกาะมังกรตะวันออก

แต่ยังไม่รอให้น้ำหลากตกถึงพื้น ก็ถูกไฟลุกโชนระเหยกลายเป็นไอหมอกหนา

เงาร่างขนาดใหญ่โตสายหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากในไอน้ำสีขาว

เจ้าสำนักเขาไร้พรมแดนฉู่เหยี่ยนที่อยู่ใกล้ที่สุดเกือบจะตอบสนองไม่ทัน อาศัยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ขวานจามสวรรค์ในมือบังคับให้ยกขวานขึ้นฟันใส่

อากาศถูกผ่าเป็นรอยแยกอันน่ากลัว แต่ว่าร่องแยกกลับถูกไฟเติมเต็มในชั่วพริบตา

แม้จะมีเปลวไฟคอยเผาทำลาย แต่รอยแยกในอากาศกลับสมานตัวอย่างคาดไม่ถึง

พริบตาถัดมา ฉู่เหยียนและขวานจามสวรรค์ก็กระเด็นออกไปด้านหลังพร้อมกัน!

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ขวานจามสวรรค์ถูกกระแทกหลุดมือ ประกายแสงสีดำรอบตัวริบหรี่ลงไป

เลือดของเจ้าสำนักเขาไร้พรมแดนฉู่เหยี่ยนกระเด็นเต็มฟ้า ใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ

แสงจันทร์สุกสกาวของมงกุฎแห่งจันทราที่อยู่ด้านข้างสั่นไหวไม่หยุดเหมือนกับสายน้ำ

สีหน้าของเมิ่งหวานที่ถูกครอบคลุมอยู่ในแสง บัดนีซีดขาวยิ่งกว่าเดิม มุมปากมีเลือดไหลออกมา

เมื่อครู่นางลงมือปกป้อง ฝืนรักษาชีวิตของฉู่เหยียนไว้ได้ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ฉู่เหยี่ยนก็เกือบจะถูกสังหาร อาวุธศักดิ์สิทธิ์ขวานจามสวรรค์ยิ่งได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

มหาราชันปีศาจอัคคีที่มีลักษณะเหมือนวัวตัวนั้นยืนตระหง่านกลางท้องฟ้า แค่การโจมตีเดียวก็ทำให้เจ้าสำนักเขาไร้พรมแดนที่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์เกือบเสียชีวิต

มันไม่ได้ไล่โจมตีต่อ เพราะพวกหวงกวงเลี่ย ผู้อาวุโสม่อ และซ่งอู๋เลี่ยง เคียงบ่าเคียงไหล่กันโจมตีอีกครั้ง!

หวงกวงเลี่ยต่อยหมัดหนึ่งออก แสงสีทองส่องสว่าง ฟ้าดินรอบๆ กลายเป็นสีทองเรืองรอง

พระอาทิตย์สีทองบนฟากฟ้าในตอนนี้ คล้ายกับตกลงมาจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ส่องสว่างไปทั่วบริเวณ

แม้ว่าค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดจะถูกทำลาย แต่ซ่งอู๋เลี่ยงก็ใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์กระบี่สัตยาทะเลมรกต ประกายกระบี่ไร้รูปร่างพุ่งเข้าหามหาราชันปีศาจอัคคีเหมือนกับคลื่นยักษ์

ถึงแม้ว่าจะอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ขั้นหนึ่ง แต่ซ่งอู๋เลี่ยงใช้กระบี่สัตยาทะเลมรกตได้เชี่ยวชาญยิ่งกว่าฉู่เหยี่ยนที่ใช้หวานจามสวรรค์อย่างเห็นได้ชัด

เจตจำนงกระบี่วรยุทธิ์และอาวุธศักดิ์สิทธิ์สอดประสานกัน ช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประกายกระบี่ไร้รูปร่างทรงพลังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับมิอาจตรวจจับได้

ผู้อาวุโสม่อมีสีหน้าเคร่งขรึม แต่ครั้งนี้กลับไม่วาดภาพใส่อากาศอีก

จุดลมปราณทั่วร่างของเขามีเลือดหลายสายพ่นออกมา และถูกญาณจริงแท้ของตนเองลากเป็นม้วนภาพสีเลือดภาพหนึ่ง

ปราชญ์ภาพวาดฆ่าคน ใช้เลือดศัตรูต่างภาพวาด คงอยู่กลางอากาศเป็นเวลานาน เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าอันน่ากลัวในโลกแปดพิภพ

และในตอนนี้ เขาก็ใช้เลือดของตัวเองเป็นภาพวาด ภาพวาดนั้นเป็นภาพฟ้าดินพังทลาย

ในตอนนี้ท้องฟ้าของจริงคล้ายกับหลอมรวมกับภาพวาดของผู้อาวุโสม่อ เกิดเป็นสภาวะฟ้าดินพังทลาย

มหาราชันปีศาจตัวนั้นส่งเสียงหัวเราะแปลกประหลาด จากนั้นก็ระเบิดเสียงคำรามปานฟ้าผ่าออกมา

มันพรุ่งกรงเล็บทั้งสองออกพร้อมกัน กรงเล็บข้างซ้ายปะทะกับหวงกวงเลี่ย กรงเล็บข้างขวาปะทะกับผู้อาวุโสม่อ

มือซ้ายมีเปลวไฟลุกไหม้รวมตัวกัน ครอบคลุมหวงกวงเลี่ยเอาไว้เหมือนกับกรงขัง

วรยุทธ์อันเหี้ยมหาญ สุริยันทิศบูรพาของหวงกวงเลี่ย ถูกกรงไฟขังเอาไว้ ถึงกับใช้ออกมาไม่ได้

ดวงอาทิตย์สีทองส่งเสียงระเบิด ปะทะกับเปลวไฟ สุดท้ายตัวมันก็แหลกสลายไป

แสงสีทองกับไฟสีแดงลอยว่อน หวงกวงเลี่ยส่งเสียงกระอักพร้อมกับถอยหลังไป

มือขวาของมหาราชันปีศาจอัคคีคว้าใส่ภาพวาดของผู้อาวุโสม่ออย่างดุดัน

ฟ้าดินที่อยู่ในสภาวะพังทลายในตอนแรก ครั้งนี้แหลกสลายลงโดยสิ้นเชิง!

แต่ว่ามือของมหาราชันปีศาจอัคคีกลับไม่ได้รับผลกระทบใด ยังคงพุ่งมาหาผู้อาวุโสม่อ เหมือนกับทะลุท้องฟ้า

ส่วนประกายกระบี่ของซ่งอู๋เลี่ยง ปีศาจอัคคีตัวนี้อ้าปากพ่นเปลวไฟออกมาหลายสาย

เปลวไฟจำนวนนับไม่ถ้วนกลายเป็ลวดลายอาคมจำนวนนับหมื่นกลางอากาศ ทุกลวดลายต่างเขียนจากเปลวไฟ เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง

ลวดลายอาคมจากเปลวไฟนับหมื่นนับแสนรวมตัวกันกลายเป็นทะเลเพลิง ทำลายประกายกระบี่ของซ่งอู๋เลี่ยงหมดสิ้น

ทะเลเพลิงเหยียดตัวไปสุดลูกหูลูกตา ยิ่งใหญ่และทรงพลังมากกว่าประกายกระบี่ไร้รูปร่าง ที่ทอดตัวยาวเหยียดปานน้ำทะเลสีมรกตจำนวนนับไม่ถ้วนเสียอีก!

หลังจากทำลายการโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของพวกหวงกวงเลี่ยสามคนไปแล้ว มหาราชันปีศาจอัคคีตัวนั้นก็ก้าวไปด้านหน้าทันที

เท้าทั้งสองที่เหมือนกับกีบเท้าวัวเหยียบย่ำอากาศ เปลวไฟเดือดพล่านเหยียดขยายไปรอบๆ ในชั่วพริบตา โดยมีฝ่าเท้าของมันเป็นศูนย์กลาง

น้ำทะเลของทะเลตะวันออกมากมายถอยห่าง ฟ้าดินกลายเป็นทะเลเพลิง

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้การเปลี่ยนแปลงของแก่นแท้แห่งไฟใต้ดิน และถึงแม้พื้นที่ที่ส่งผลกระทบจะลดลงมาก แต่ว่าในวินาทีนี้ จุดที่มหาราชันปีศาจอัคคียืนอยู่ ถึงกับเกิดเป็นสภาวะเพลิงเผาทะเล

ศีรษะวัวขนาดใหญ่โตก้มลงเล็กน้อย ยื่นเขาวัวบนหัวออกมา ฉับพลันนั้นอากาศคล้ายกับพังทลาย

เจ้าเมืองทะเลมรกตซ่งอู๋เลี่ยงได้รับบาดเจ็บในทันทีประกายแสงของกระบี่สัตยามรกตสลัวลง

มันคว้ากรงเล็บทั้งสองใส่ฟ้าดิน

พวกหวงกวงเลี่ยกับผู้อาวุโสม่อถอยหลังพร้อมกัน มิอาจป้องกันได้ มุมปากของคนทั้งสองมีเลือดไหลออกมา

อีกด้านหนึ่ง อันชิงหลิน เมิ่งหวาน ฉู่เหยียน ยังมีจอมยุทธ์เมืองทะเลมรกตทุกคน ถูกพวกจิ่งจงกดดันอยู่ในจุดวิกฤต!

ท่ามกลางเสียงหัวเราะของราชันปีศาจอัคคี ร่างกายขนาดใหญ่โตก็ลอยตัวลงบนเกาะมังกรตะวันออก

หลังจากลอยตัวลงบนพื้นแล้ว เกาะมังกรตะวันออกเริ่มแตกทลาย!

เมืองทะเลมรกตที่อยู่บนเกาะสั่นไหว คล้ายกับปราสาททรายที่เผชิญหน้ากับคลื่นทะเล

ผู้อาวุโสม่อพูดเสียงคลุมเครือง “ที่นี่จะต้านต่อไม่ไหวแล้ว!”

ทุกคนล้วนมีใบหน้าขื่นขม

ไม่ใช่แค่ต้านไม่ได้เท่านั้น ทุกคนที่อยู่รอบๆ นอกจากผู้อาวุโสม่อกับหวงกวงเลี่ยแล้ว คนอื่นยังไม่มีแม้แต่โอกาสในการหนีเอาชีวิตรอด!

เขากับหวงกวงเลี่ยจะหนีฝ่าวงล้อมสำเร็จได้หรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ

ซ่งอู๋เลี่ยงมองเมืองทะเลมรกตและเกาะมังกรตะวันออกด้วยความเจ็บปวด กระชับกระบี่ในมือ สายแต่แน่วแน่

จอมยุทธิ์เมืองทะเลมรกตสิ้นหวัง เงยหน้ามองร่างกายขนาดใหญ่โตที่เหมือนกับเทพปีศาจนั้น

ทันใดนั้น พวกเขาก็พบว่าในดวงตาสีเลือดเลือดขนาดใหญ่ของมหาราชันปีศาจอัคคีตัวนั้น ปรากฏความรู้สึกเหนือความคาดหมาย สายตามองออกไปไกล

ขณะทีทุกคนงงงัน ก็หันไปมองโดยสัญชาตญาณ

เห็นที่ขอบฟ้ามีแสงสีม่วงสายหนึ่งสว่างแวบขึ้น เสียงมังกรคำรามดังขึ้น

แสงสีม่วงยิ่งมายิ่งโชติช่วง สุดท้ายก็กลายเป็นลำแสง แยกทะเลเพลิงไร้สิ้นสุดด้วยราวกับจะผ่าท้องฟ้าออก!

ในประกายดาบอันดุดัน บุรุษผู้หนึ่งเดินออกมาถึงบริเวณใกล้ๆ ในชั่วอึดใจ

ภายนอกเขาดูมีอายุไม่เกินสามสิบกว่าปี แต่จอนผมกลับเป็นสีขาวดอกเลานิดหน่อยแล้ว

ทว่าคนไม่ปรากฏความเซื่องซึม กลับเผยประกายคมกริบ ดูดื้อรั้นแข็งกร้าวถึงขีดสุด คล้ายกับดาบยาวที่ใช้ฟันท้องฟ้า

ทุกคนมองเขาอย่างยินดี แต่รู้สึกตกตะลึงยิ่งกว่า “เยี่ยนตี๋!”

“ท่านบรรลุธรรมสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์แล้วหรือ!”