แดนนิรมิตเทพ บทที่ 928
ที่จริงแล้ว ศาสตราจารย์เสิ่นไม่รู้เกี่ยวกับความรู้ที่เฉินโม่กล่าวออกมาเลย เพียงแค่เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบนิเวศของดาวเคราะห์ที่มีชีวิตที่มีเทคโนโลยีสูงเท่านั้น หากว่ารู้ ศาสตราจารย์เสิ่นและคนในที่นี้ คงจะตื่นเต้นจนเป็นลมแน่นอน!

เมื่อหานทงตกตะลึงไปสักพักแล้ว สีหน้าก็มืดขรึม ถลึงตาใส่เฉินโม่อย่างโกรธแค้น

“ให้ตายสิ ทำไมมันถึงได้ประสบความสำเร็จด้านนิเวศวิทยาขนาดนี้!มันก็แค่นักศึกษาปีหนึ่งเท่านั้น ความรู้พวกนี้มองไปทั่วโลกก็มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถกล่าวออกมาได้!แล้วมันทำได้ยังไงกัน?”

หานทงไม่สนใจว่าสุนทรพจน์นี้ของเฉินโม่จะให้ผลประโยชน์ต่อโลกมากแค่ไหน เขารู้แค่ว่า ถ้าหากเขาแพ้ จะต้องคุกเข่าขอโทษเฉินโม่!

คนที่มีความคิดเช่นนี้ ยังมีอานเข่อเยว่และหมิงเจ๋อเสวียนที่อยู่ด้านหลัง ในตอนนี้ เขาเองก็กำลังมองเฉินโม่ด้วยสีหน้ามืดขรึม

“เป็นไปไม่ได้!จากอายุของเขาไม่มีทางสามารถมีความรู้ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับนิเวศวิทยาได้มากขนาดนี้ เขาจะต้องมีความลับที่คนอื่นไม่รู้อยู่แน่นอน!” ในสายตาของหมิงเจ๋อเสวียนเป็นประกาย สมองรีบนึกคิดหาวิธี

ใบหน้าของอานเข่อเยว่มีความสิ้นหวังเหมือนครั้งที่เธอได้รับรู้ว่าเฉินโม่คือเฉินไต้ซือเมื่อตอนที่อยู่อู่โจว ความไม่พอใจ โมโห เสียใจแบบนั้นแทบจะทรมานความรู้สึกของอานเข่อเยว่จนตาย เวลาผ่านไปหลายเดือน มันก็ได้เกิดขึ้นกับเธออีกครั้ง

คนที่ทำให้เธอรู้สึกทรมานแทบตาย ก็ยังเป็นชายหนุ่มคนนั้นที่เธอทิ้งมาอย่างไร้เยื่อใย

“เหอะๆ….แม้แต่ระบบนิเวศนายยังประสบความสำเร็จมากขนาดนี้ เฉินโม่ เฉินไต้ซือ นายยังมีความลับอีกมากมายแค่ไหนซ่อนอยู่กันแน่?”

“ฉันก็แค่ผิดพลาดไปครั้งเดียวเท่านั้น ถึงกับต้องผิดพลาดไปตลอดชีวิตเลยงั้นหรอ? หรือว่านี่คือบทลงโทษที่พระเจ้าให้กับฉัน?” อานเข่อเยว่ยิ้มขมขื่น ความขมขื่นใจแผ่ซ่านไปทั่วร่าง

มองดูคนที่ทำให้ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญชื่อดังมากมายต่างก็ยกย่องนับถือ ผู้ชายที่เป็นเหมือนดั่งเทพพระเจ้า ใบหน้าของอานเข่อเยว่มีความรู้สึกไม่พอใจปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ทุกคนต่างก็ตะลึงต่อสุนทรพจน์ของเฉินโม่ รวมทั้งผู้ตัดสินที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงทั้งสิบคนนั้น

วินาทีนี้ไม่มีใครกล้าดูถูกเฉินโม่อีก ตำแหน่งของเฉินโม่ภายในใจของผู้คนตอนนี้สูงมากขึ้นเทียบเท่ากับหยางจื่อหนิงแล้ว หรือถึงขั้น สูงมากกว่า!

แปะๆๆ!

เสียงปรบมือดังขึ้น โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มปรบมือก่อนคนแรก

ตามด้วย คนที่สอง คนที่สาม…ทุกคนต่างก็เริ่มปรบมือให้กับเฉินโม่

หยางจื่อหนิง ศาสตราจารย์ลู่ ผู้ตัดสินทั้งสิบท่าน บนใบหน้าของเกือบทุกคนล้วนมีความยกย่องนับถือปรากฏให้เห็น

พิธีกรปรบมือเสียงดัง เธอกำลังรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เธอโจมตีเฉินโม่ก่อนหน้านี้ ที่แท้ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้กำลังนอน แต่เพราะไม่สนใจกับสุนทรพจน์พวกนั้น เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์อย่างแท้จริง!

ต่อมา เฉินโม่พูดในส่วนที่เหลือจนจบ ระหว่างนั้นไม่มีใครกล้าออกมาขัดแย้งใดๆอีก

ในตอนที่เฉินโม่กล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้จบ พิธีกรก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นักศึกษาเฉินโม่ ความรู้พรสวรรค์ของนายทำให้ฉันชื่นชมมากจริงๆ นายช่วยบอกกับพวกเราหน่อยได้ไหมว่า สิ่งใดทำให้นายประสบความสำเร็จในด้านนิเวศวิทยามากถึงขนาดนี้?”

ด้านล่าง ทุกคนต่างก็เงียบกริบ

ใช่แล้ว สิ่งใดที่ทำให้นักศึกษาปีหนึ่งอย่างเฉินโม่วิจัยนิเวศวิทยาที่ลึกซึ้งขนาดนี้มาได้?

คำถามนี้ถามอยู่ในใจของทุกคนมากหลายครั้งแล้ว แต่ทุกคนต่างก็ตกตะลึงต่อสุนทรพจน์ของเฉินโม่ คำถามนี้จึงถูกพวกเขาลืมไป

ตอนนี้ถูกพิธีกรถามออกมา ต่างก็ดึงดูดความสนใจจากทุกคน

แม้แต่ศาสตราจารย์เสิ่นเองก็อยากรู้ ว่าวิจัยนิเวศวิทยาที่ลึกซึ้งขนาดนี้เฉินโม่ไปศึกษาที่ไหนมา?

เฉินโม่เหลือบมองพิธีกรสาวสวย จากแววตาของพิธีกรสาว เฉินโม่ดูออกว่าไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่อง

พิธีกรเองก็น่าจะเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชิงหัว คงจะรู้สึกสนใจกับการที่เฉินโม่ประสบความสำเร็จด้านนิเวศวิทยาทั้งที่อายุยังน้อยอย่างนี้มากแน่นอน