“ไอ้เวรพวกนี้ ลงมือกันเร็วจริงนะ” เฉียวฉู่กระซิบขณะหมอบเหมือนแมวอยู่หลังพุ่มไม้เพื่อดูวิญญาณมนุษย์ที่เดินไปมารอบๆบ้านน่าหลานเยว่
“พวกนั้นตั้งใจจะจับจงจงให้ได้ เสี่ยวเสีย เจ้าเดาได้ไหมว่าทำไมพวกนั้นถึงอยากจับจงจงมากขนาดนี้?” ฟ่านจั๋ว “ผู้คลั่งไคล้สัตว์ขนปุยนุ่มนิ่ม” เหมือนกันหรี่ตามองวิญญาณมนุษย์พวกนั้น เนื่องจากภูติประจำตัวของเขาเป็นวิญญาณอาวุธ และจงจงที่มีขนปุกปุยนุ่มนิ่มยอมให้เขาลูบมันมากเท่าที่เขาต้องการ พอเห็นวิญญาณมนุษย์พวกนี้พยายามทำร้ายจงจง ก็ทำให้ฟ่านจั๋วรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
จวินอู๋เสียส่ายหน้า นางคิดมาตลอดทั้งคืน แต่ก็ยังไม่เข้าใจเหตุผลเบื้องหลังเรื่องนี้ น่าหลานเยว่เคยบอกว่าอูจิ่วไม่ได้ไปฝึกที่หอคอยโยวหลิงเลย และไม่ว่าจะมองยังไง พลังวิญญาณที่หนาแน่นเข้มข้นในหอคอยโยวหลิงกับไฟวิญญาณที่โตขึ้นเรื่อยๆก็ดูเหมือนไม่ใช่สิ่งที่จะนำพลังมาให้วิญญาณมนุษย์ได้เลย.novel-lucky
พลังของอูจิ่วไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ใช้พลังของคนอื่นมาเพิ่มพลังของตน
แล้วอูจิ่วต้องการสร้างหอคอยโยวหลิงไปทำไม? แถมยังทำถึงขั้นสังเวยลูกศิษย์ของตัวเองด้วย?
“คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่โลกวิญญาณก็ยังปั่นป่วนถึงขนาดนี้” หรงรั่วกล่าวพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
พวกเขาเฝ้าดูอยู่อีกพักหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปพักผ่อนในป่า
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เงาร่างหนึ่งก็ลอยผ่านท้องฟ้าของโลกวิญญาณไปอย่างเงียบๆ ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสลัว ไม่มีใครเห็นร่องรอยของเงาที่ผ่านไปเลยสักคน
ภายในบ้านเล็กๆในป่าแห่งหนึ่ง ครูวิญญาณกำลังคุกเข่าอยู่ในบ้าน บนโต๊ะเตี้ยๆตรงหน้าเขามีกล่องไม้วางอยู่ ในกล่องนั้นมีชิ้นส่วนคริสตัลที่แตกหักบางส่วน ครูวิญญาณมองชิ้นส่วนคริสตัลนั้นอยู่นาน
“ท่านครู ท่านจ้าววิญญาณไม่ยอมให้ท่านเข้าพบหรือ?” ลูกศิษย์เห็นครูวิญญาณดูหดหู่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
ครูวิญญาณเงยหน้าขึ้นมองไปนอกหน้าต่าง ดวงตาฉายแววกังวลพร้อมกับส่ายหน้า
“ท่านจ้าววิญญาณยังไม่ยอมพบข้า”
ตั้งแต่วันที่คริสตัลแตก ครูวิญญาณก็ไปขอเข้าพบจ้าววิญญาณทันที คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะปิดประตูใส่หน้าเขา
“ทำไมท่านครูไม่ให้ท่านวิญญาจารย์อูจิ่วไปคุยกับท่านจ้าววิญญาณล่ะขอรับ?” ลูกศิษย์ยังคงไม่เข้าใจ
แต่ครูวิญญาณกลับโบกมือไล่เขาออกไป ลูกศิษย์ไม่กล้าถามอะไรมาก จึงถอยออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
เมื่อเหลือแต่ครูวิญญาณอยู่ในห้องที่ว่างเปล่าเพียงคนเดียว เขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ทันใดนั้น สายลมเย็นก็พัดผ่านหน้าเขา เมื่อครูวิญญาณเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นร่างสูงปรากฏตัวขึ้นในห้องของเขาโดยที่ไม่มีใครรู้
พอครูวิญญาณสบตาเข้ากับดวงตาสีม่วงที่คุ้นเคยคู่นั้น หัวใจเขาก็แทบหยุดเต้น!
มือของครูวิญญาณสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าตนจะได้เจอกับคนผู้นี้อีกครั้ง
จวินอู๋เหยาเลิกคิ้วมองครูวิญญาณที่กำลังตะลึง มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย เขาเดินช้าไปนั่งที่เก้าอี้ด้านข้าง ขาเรียวยาวของเขาไขว้กันอย่างสง่างาม เขาวางแขนลงบนที่พักแขนอย่างสบายๆ
“ไม่ได้เจอกันนานนะครูวิญญาณ สบายดีรึเปล่า?”
เสียงที่ไม่ได้ยินมาพันปีดังขึ้นให้ครูวิญญาณได้ยินอีกครั้ง ในใจเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว สมองขาวโพลนไปหมด ครูวิญญาณทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างตื่นตระหนกขณะจ้องมองชายผู้ซึ่งเป็นเหมือนฝันร้าย
“จักรพรรดิแห่งความมืด……” เสียงของครูวิญญาณติดขัด ดวงตาล่อกแล่ก ไม่กล้ามองสบตาสีม่วงคู่นั้นตรงๆ
วันหนึ่งเมื่อพันปีก่อน จักรพรรดิแห่งความมืดได้ก้าวเข้ามาในโลกวิญญาณ และทำลายความสงบสุขของโลกวิญญาณลง ด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่เหนือผู้ใด เขากำราบวิญญาณทุกดวงในโลกวิญญาณ แม้แต่จ้าววิญญาณก็ไม่สามารถทำให้เขาก้มหัวยอมจำนนได้