ตอนที่แล้วTB:บทที่ 94 รังแกคนไม่มีทางสู้

ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนถัดไปTB:บทที่ 96 ฝุ่นหายไปแล้ว

TB:บทที่ 95 แผนของเฉินหลง

“คุณเต๋าไม่ต้องกังวลไป ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อทำร้ายคุณ ผมอยากบอกอะไรบางอย่างเท่านั้น เพราะเรื่องซ่งหยู่ สกุลซ่งเลยสงสัยผมกับพี่เฉียนไปแล้ว อีกอย่างสกุลซ่งมีคนที่สะกดจิตคนอื่นได้ ผมเลยต้องผนึกความทรงจำของพี่เฉียนเรื่องที่มาไหว้วานคุณฆ่าซ่งหยู่ พูดอีกอย่างคือเขาลืมเรื่องที่เคยสั่งคุณไปแล้ว” เฉินหลงมองภาพของดาบอันเบาหวิวที่มีการป้องกันอันเยือกเย็น เขายกยิ้มเบาๆ เฉินหลงอยากให้เต๋ากวงหานผ่อนคลาย

“วันนี้นายมาทำอะไรที่นี่” เมื่อได้ยินว่าเฉินหลงผนึกความทรงจำได้ เต๋ากวงหานไม่เพียงแต่แปลกใจเขายังรู้สึกกังวลอีกด้วย

ตอนที่เขาเห็นเฉินหลงเป็นครั้งแรก เต๋ากวงหานรู้ว่าเฉินหลงไม่ใช่คนธรรมดา แต่ในตอนนั้นเขามั่นใจมากว่าเขาประมือกับเฉินหลงได้ ในตอนนี้เมื่อเขาได้เห็นเฉินหลงอีกครั้งเขาพบว่าพลังของเฉินหลงกล้าแกร่งเกินเขาจะเทียบได้แล้ว

“ไม่สำคัญหรอก ตั้งแต่พี่เฉียนลืมเรื่องนั้นไป คุณก็ไม่ได้ทำงานให้เขาอีกแล้ว ตอนนี้ผมต้องการคน คุณมาทำงานให้ผมได้ไหม” เฉินหลงมองไปที่มีด

“ตอนนี้ฉันมีปัญหากับสกุลซ่ง นายไม่กลัวฉันจะนำปัญหามาหรือ” หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินหลง ด้วยอะไรบางอย่าง เต๋ากวงหานรู้สึกโล่งใจ

“พลังของสกุลซ่งแข็งแกร่งมาก แต่ไม่ต้องเกรงกลัวไป พวกเขายังทำอะไรไม่ได้” เฉินหลงว่า

หากกล่าวตามจริง เฉินหลงไม่ได้เกรงกลัวสกุลซ่งแต่อย่างใด หากสกุลซ่งต้องการจัดการพวกเขา เฉินหลงก็จะสู้กับสกุลซ่งในท้ายที่สุด หากเขาเท้าเปลือยอยู่ เขาจะเกรงกลัวการใส่รองเท้าหรือ

“นายมั่นใจในตัวเองเสียเหลือเกิน” เต๋ากวงหานมองเฉินหลง

“เพียงคุณมีพลังคุณจะมั่นใจ คิดว่าอย่างไรเล่า คุณอยากจะช่วยผมไหม ถ้าไม่อยากผมขอให้คุณลืมๆไปว่าผมมาที่นี่วันนี้” เฉินหลงไม่อยากบังคับเต๋ากวงหานมากนัก

“ช่วยนายหรือ แล้วนายช่วยฉันจัดการกับสกุลซ่งได้หรือไม่” เต๋ากวงหานยังกล่าวอย่างเยือกเย็น

สิ่งสำคัญคือเขาเอาตัวรอดได้หลังฆ่าคนของสกุลซ่ง หากเขากำจัดสกุลซ่งไปได้คงเป็นการดีที่สุด เขารู้เพียงว่าหนทางยังอีกยาวไกล

“ครับ แต่ในตอนนี้ ผมอยากขอเวลาพัฒนาฝีมือตัวเองจะได้เหยียบสกุลซ่งให้จมดิน”

ตอนนี้ พลังของเฉินหลงและเครื่องมือกึ่งอาวุธพวกนั้นแข็งกล้ามาก แต่จากที่เจิ้งอี้บอกว่า เขาเป็นพลังหลักที่คุมทั้งหมดดังนั้นเพื่อจะพัฒนาพลัง เขาต้องการเวลา

ในท้ายที่สุดแล้ว คงจะเป็นการดีที่สุดหากคนหลักที่คุมควรมีผลซื่อสัตย์คอยควบคุมเพื่อที่จะไม่มีการหักหลัง

“ผลซื่อสัตย์” ต้องใช้แต้มแลกเปลี่ยน ในขณะที่ความสามารถหลักต้องการเวลา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะจัดการในเวลาสั้นๆหรือทำครึ่งๆกลางๆได้

ในใจเฉินหลงมีแผนอยู่ หากสกุลซ่งไม่ใช่ตระกูลใหญ่แล้วจะยังมีพลังอยู่ไหม จากนั้นเขาจะหาพรรคพวกมาดูว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน

“เครื่องกำจัดฝุ่น” เป็นโอกาสแรกที่จะสร้างชื่อให้บริษัท หลังจากนั้นเฉินหลงจะทำการแลกเปลี่ยนเครื่องมือจากระบบให้นานกว่าสิบหรือยี่สิบรุ่น และสร้างบริษัทของเขาให้เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก

หากคนอื่นเป็นเจ้าของความคิดนี้คงกลายเป็นเรื่องตลก แต่สำหรับเฉินหลงแล้วเขามั่นใจอย่างมาก

“ต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน” เต๋ากวงหานพูด

“อย่างมากก็ห้าปี”

เฉินหลงเริ่มธุรกิจของเขาไปแล้ว หากเขามีอิทธิพลที่ทรงพลังไม่ได้ในห้าปี เขาคงถึงคราว “ซวย”จริงๆแล้ว

“เอาล่ะ ห้าปีก็ห้าปี หากนายยังแก้แค้นให้ฉันไม่ได้ในห้าปี ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย” เต๋ากวงหานครุ่นคิดและตอบตกลง

เขายอมรับว่าเหตุผลที่เขาตอบตกลงส่วนใหญ่มาจากพลังของเฉินหลงที่แข็งแกร่งขึ้นภายในเวลาอันสั้น

“ยินดีเลย” เฉินหลงยื่นมือของเขาไปที่เต๋ากวงหาน

“อยากให้ผมทำอะไรละ เจ้านาย” เต๋ากวงหานถาม เขาและเฉินหลงจับมือตกลงกัน

“ไม่ยากเลย คุณแค่ต้องช่วยผมหาคนที่แข็งแกร่ง ต้องสู้ได้และไม่ได้สังกัดประเทศหรือสกุลไหน รวบรวมข้อมูลพวกเขาซะแล้วเอามาให้ผม” เฉินหลงแจกแจงรายละเอียดภารกิจให้เต๋ากวงหาน

งานประเภทนี้เหมาะกับเต๋ากวงหานที่สุดแล้วเพราะต้องอาศัยความรอบคอบและระมัดระวัง

“เจ้านาย แล้วผมจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จตามที่สั่ง” เต๋ากวงหานกล่าวอย่างจริงจัง

หากต้องการให้ใครมาแก้แค้นให้ ก็ควรแสดงว่ามีค่าพอให้ทำ และถ้าทำตามคำสั่งแรกไม่สำเร็จ เต๋ากวงหานก็ไม่มีหน้าไปให้เฉินหลงช่วยแก้แค้นหรอก หลังจากตกลงกันแล้วเฉินหลงให้ร้อยล้านยวนกับเต๋ากวงหานแล้วพวกเขาก็แยกกันไป

เฉินหลงอยากรวบรวมคนเก่งมาจากต่างประเทศด้วยไม่ใช่เพียงแค่ในจีน ดังนั้นทุนที่เขาให้กับเต๋ากวงหานจึงไม่น่าจะมากไป เพื่อให้ได้คนมีความสามารถมาเงินทองเท่าไหร่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

เมื่อเฉินหลงกลับไปถึงวิลล่าแล้วเขาใช้ระบบเพื่อหาเครื่องมือที่เหมาะสมกับงาน

ในระบบมีเครื่องมือมากมายที่ใช้ได้ อย่างซุปเปอร์ไฟร์วอล หรือ ซุปเปอร์ฮาร์ดดิสก์ เมื่อได้ยินชื่อ นิว บี แล้วก็สามารถรู้ได้ในทันทีว่าเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยม และเพื่อแลกเครื่องมือพวกนั้นเขาจำต้องใช้แต้มแลกเปลี่ยนกว่าพันแต้ม

และแม้ของพวกนี้จะทำให้เฉินหลงรู้สึกโลภ แต่เขาไม่ได้มีแต้มแลกเปลี่ยนเพียงพอจะแลก อีกอย่างเครื่องมือพวกนี้มีคู่แข่งอยู่แล้วในโลก เครื่องมือบนโลกที่เขาอยากเป็นผู้นำในด้านนั้นล้าสมัยกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นด้วย เขาจึงยอมแพ้ไปก่อน เพราะหลังจากสร้างชื่อให้บริษัทได้และเมื่อจำหน่ายเทคโนโลยีพวกนี้แล้วจะได้ไม่มีคู่แข่งใดมาสู้ได้

ในที่สุดเฉินหลงเลือกเครื่องมือฉายภาพเสมือนสุดทันสมัยมาจากระบบ การทำงานของเครื่องมือนี้คล้ายกับหมวกฉายภาพเสมือนในพวกนิยายเกมออนไลน์ เพียงแต่ของที่แลกมานั้นทรงพลังกว่า เพราะเครื่องมือนี้สามารถสร้างภาพดิจิทัลจากของที่มีอยู่จริงได้ แม้การทำงานด้านนี้อาจจะไม่ได้ยอดเยี่ยมมาก แต่อีกการทำงานหนึ่งยอดเยี่ยมนัก ระบบการสร้างภาพเสมือนไม่ว่าจะเป็นความรู้ที่มีหรือความสามารถทางกายจากร่างจริงมาสร้างเป็นภาพเสมือนได้ ระบบนี้เคยใช้กันในด้านการทหารเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างมากของกองทัพ

ทว่าเครื่องมือสร้างภาพเสมือนนี้ต้องใช้แต้มแลกเปลี่ยนกว่าห้าพันแต้ม

และเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับแต้มแลกเปลี่ยนแล้ว เรื่องพวกนี้ทำให้เฉินหลงปวดหัว เทียนซิงจื่อผู้แป็นอาจารย์ก็ใช้แต้มแลกเปลี่ยนแลกอาหารได้อีกต่อไปแล้ว ช่วงนี้เฉินหลงไม่รู้ว่าจะแลกเปลี่ยนกับเขาอย่างไรด้วย

เฉินหลงเหลือแต้มแลกเปลี่ยนอยู่เพียงไม่มากนัก

“นายอยากจะขายเครื่องมือระดับกึ่งเทวาอีกจริงหรือ”

เครื่องมือทั้งสี่สิบแปดชิ้นที่เขาได้มาจากวิหารมีวิธีการทำงานที่ต่างกัน แต่ของบางชิ้นเฉินหลงก็ไม่ได้ต้องการใช้

เขาจึงต้องการแลกของที่ไม่จำเป็นพวกนั้นเป็นของที่จำเป็น

“ลืมๆไปเถอะ ขายสักอันมาแลกคะแนนดีกว่า” แม้ใจเขาไม่อยากจะยอมแพ้แต่เพื่อให้ได้แต้มมาแล้ว เฉินหลงจำต้องประกาศขายเครื่องมือของเขาในร้าน

เครื่องมือชิ้นนี้ ชื่อ “เชือกแห่งความมืด” การทำงานของเครื่องมือนี้คือเมื่อผู้ใช้สวมแล้วจะล่องหน แม้จะเป็นผู้ที่แข่งแกร่งระดับ “ปรมารจารย์ระดับดวงดาว” ก็ไม่สามารถมองเห็นได้