กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1066 เปิดเผยความลับ
เหวินเส่าอี๋กอดพิณของเขาไว้แน่น แม้เขาจะรู้ว่าการเคลื่อนไหวที่เหนือความคาดหมายอาจจะพลิกสถานการณ์ได้ และสิ่งที่รอเขาอยู่คือความตาย เขาก็ยังคงแน่วแน่และกุมความหวังสุดท้ายจนตัวตาย
คิดไม่ถึงว่า นอกจากเสียงโหยหวนอันวุ่นวายของเหล่าโครงกระดูกแล้ว ยังมีเสียงของการต่อสู้เกิดขึ้นด้วย
นั่นคือเสียงของเยี่ยจิ่งหานและกู้ชูหน่วน และเป็นเสียงลมหายใจของพวกเขา
ทั้งสองกำลังร่วมมือกันเพื่อช่วยเขา
แม้ดวงตาจะมองไม่เห็น แต่จากเสียงการต่อสู้เหล่านั้น เขาก็สามารถรับรู้ได้ว่าการต่อสู้นั้นรุนแรงเพียงใด
“ควับ……”
แรงกดดันกดทับลงมาด้านหน้าของเขา ทำให้เขาหายใจแทบไม่ออก เหงื่อไหลทั่วร่างกาย พยายามลุกขึ้นหลายครั้งแต่ก็ทำไม่สำเร็จ
“อักขระโบราณ มันก็เท่านั้น ต่อให้พวกเจ้าสามารถคนร่วมมือกันแล้วมันยังไง?”
ฮวาอิ่งโน้มตัวเข้าไปใกล้หูของเหวินเส่าอี๋ ใช้เสียงที่มีแต่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน “เหวินเส่าอี๋ ข้าจะบอกความลับบางอย่างกับเจ้า แผ่นค่ายกลของเผ่าเพลิงฟ้า ข้าเป็นคนเอาไปเผยแพร่ให้หุบเขาตันหุย เพื่อทำให้คนของหุบเขาตันหุยเข่นฆ่าเผ่าเพลิงฟ้า”
“บูม”
เหวินเส่าอี๋ราวกับถูกฟ้าผ่า เงยหน้าขึ้นมองฮวาอิ่งด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง
“เจ้าพูดอะไร”
“ข้าบอกว่า เผ่าเพลิงฟ้าที่ซ่อนตัวอยู่ในภูมิประเทศ กับดักต่าง ๆ ยอดฝีมือมากมาย การที่คนทั่วไปคิดจะเข้ามาทำลายเผ่าเพลิงฟ้าคงเป็นเรื่องอันโง่เขลา นอกเสียจากจัดการกับผู้อาวุโสของเผ่าเพลิงฟ้าสักสองสามคน รวมถึงรู้ภูมิประเทศในจุดต่าง ๆ และข้า……จัดการกับผู้อาวุโสสองสามคนที่เหลืออยู่ของเผ่าเพลิงฟ้า และมอบแผ่นภาพค่ายกลให้กับหุบเขาตันหุย เพื่อให้หุบเขาตันหุยสามารถจัดการกับเผ่าเพลิงฟ้าได้สำเร็จ”
อุณหภูมิในร่างกายของเหวินเส่าอี๋ลดลงอย่างรวดเร็ว
การล่มสลายของเผ่าเพลิงฟ้าเป็นบาดแผลในใจของเขามาโดยตลอด
เวลานี้ศัตรูมาอยู่ตรงหน้า พลังแห่งความอาฆาตและความเกลียดชังบนร่างกายของเขาปะทุขึ้นทันที
ในระหว่างการต่อสู้ กู้ชูหน่วนสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของเหวินเส่าอี๋ นางตะโกนออกมาอย่างเยือกเย็น “ยายเฒ่า หากจ้ากล้าทำอะไรเขา ข้าสัญญาว่าข้าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น ต่อให้ร้องขอชีวิตก็ไม่มีวันให้เห็นใจ”
“ฮึ……แค่ปกป้องตัวเองยังทำไม่ได้ ยังคิดจะปกป้องเขา ฝันลม ๆ แล้ง ๆ”
เหวินเส่าอี๋อดทนต่อความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในร่างกายของเขา ค่อยๆ ลุกขึ้นและสบตากับนาง
“เผ่าเพลิงฟ้ารับเข้ามาเลี้ยง เหตุใดเจ้าต้องแก้แค้นต่อผู้มีพระคุณด้วย?”
“พระคุณ? ฮ่าฮ่าฮ่า บุญคุณอะไร? ที่เก็บข้าไว้ก็เพื่อต้องการเหยียดหยามข้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าถึงให้กำเนิดเยี่ยจิ่งหาน? เพราะเผ่าเพลิงฟ้ากับเผ่าหยกเป็นศัตรูกันมาหลายชั่วอายุคน ดังนั้นข้าจึงอยากรู้ว่าพวกเขาจะทำอย่างไรหากมีเด็กที่เกิดขึ้นมามีสายเลือดของเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าหยก ฮ่าฮ่าฮ่า……”
คำพูดนี้เสียงค่อนข้างดัง เยี่ยจิ่งหานเองก็ได้ยินมัน
หัวใจของเขาแข็งจนถึงขีดสุด
เขาเสียใจที่มีแม่แบบนี้
นางให้กำเนิดเขา แต่ทั้งหมดก็เพื่อแก้แค้นเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าหยก
“เหวินเส่าอี๋ ข้าจะบอกความลับให้เจ้าฟังอีกหนึ่งอย่าง เดิมทีรองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่ได้ต้องการสังหารครอบครัวของเซี่ยวอวี่เซวียน ข้าเป็นคนยุยงเขาเอง ฮ่าฮ่าฮ่า……ข้าก็แค่อยากเห็นคนที่รักกันฆ่ากันเองก็เท่านั้น”
ใบหน้าของเหวินเส่าอี๋ไร้ซึ่งความรู้สึก ไม่มีความสุขหรือเศร้าใจ ไม่ได้ตกใจเท่ากับเรื่องที่เขาได้ยินมาเมื่อครู่
ฮวาอิ่งรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย นางลูบผมของตนเองและกล่าวออกมา
“เจ้ารู้ไหมว่าแม่ของเจ้าตายยังไง?”
“เป็นฝีมือของเจ้าอีกแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“เรื่องนั้นมันแน่นอน ทั้งหัวใจของเหวินเฉิงเทียนมีเพียงผู้หญิงคนนั้น จะให้ข้าไม่อิจฉานางได้อย่างไร ตอนแรกเขาไม่ได้ต้องการเป็นหัวหน้าเผ่า เป็นข้าเองที่ผลักดันเขา ทำให้เขาต้องเป็นหัวหน้าเผ่าโดยปริยาย และก็เป็นข้าเองที่เป็นผู้ผลักดันให้แม่ของเจ้าเผ่าตัวเอง จากโลกใบนี้ไปอย่างอนาถ”
ที่ผ่านมาเหวินเส่าอี๋เป็นคนอ่อนโยน เวลาโกรธจะไม่แสดงออกมาทางสีหน้า แม้วันนี้ท่าทางของเขาก็ยังถือว่าเงียบสงบ แต่ก็สามารถสังเกตได้จากมือซึ่งกำแน่นของเขา ว่าเขากำลังระงับความเกลียดชังที่มีอยู่
“และยังมีเรื่องพ่อของเจ้า เจ้ารู้ไหมว่าพ่อของเจ้าตายยังไง?”