กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1067 สร้างความแปลกแยก
หัวใจของเหวินเส่าอี๋แทบจะหยุดเต้น
แม้เขาจะรู้ว่าพ่อของเขาถูกกู้ชูหน่วนสังหารอย่างโหดเหี้ยม แต่เขาก็ยังมีความหวังอยู่เล็กน้อยว่าเรื่องทั้งหมดนั้นจะเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด
แต่ทว่า……
ฮวาอิ่งกลับมองมาที่เขาเหมือนเป็นตัวตลก
มุมปากสั่นไหว พูดออกมาทีละพยางค์ “แน่นอนว่าถูก……ถูกคนที่เจ้ารักที่สุดอย่างกู้ชูหน่วนฆ่าตาย”
ความหวังอันริบหรี่ที่เหลืออยู่สลายไปอย่างสิ้นเชิง ราวกับตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง
ภาพการตายในน่าสลดใจของพ่อเขาผุดขึ้นมาในความคิดของเขาอีกครั้ง
เขาเห็นด้วยตาตัวเองว่าเนื้อและเลือดพ่อของเขาถูกตัดออก เหลือเพียงแค่กระดูก เห็นด้วยตาตัวเองว่าเขาถูกตัดหูและจมูก เลือดไหลออกมา เห็นด้วยตาตัวเองว่าเป็นคนกู้ชูหน่วนถือมีดฟันคอพ่อของเขา
เสียดายที่ศีรษะพ่อของเขาตกอยู่บนพื้น แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ตายตาไม่หลับ
เมื่อนึกถึงภาพดังกล่าว เหวินเส่าอี๋ก็กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
แววตาของเขาเปลี่ยนไป เยือกเย็นจนไม่กล้าสบตากับใคร
เมื่อเห็นเขาทุกข์ทรมาน ฮวาอิ่งรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
“เจ้ารู้หรือไม่ว่า ก่อนที่พ่อของเจ้าจะตายเขาได้ผ่านอะไรมาบ้าง? ฮึฮึ……เขาถูกไฟน้ำแข็งมัวเมา พิษของไฟน้ำแข็งมัวเมาแข็งแกร่งเพียงใด เจ็บปวดและทรมานเพียงใด ข้าคิดว่าคงไม่ต้องให้ข้าพูดมาก”
“เขายังถูกพิษแมงมุมพิษหลากสี แมงมุมพิษหลากสีบ่อนทำลายไขกระดูกและอวัยวะภายในของเขา ทำให้เขาเหมือนกับตายทั้งเป็น”
“แมงมุมพิษหลากสีเป็นวิชาต้องห้ามของเผ่าหยก เนื่องจากมันโหดร้ายเกินไป เผ่าหยกจึงสั่งให้ไม่ให้ฝึกฝนในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมา แต่เพื่อกำจัดเผ่าเพลิงฟ้าอย่างพวกเจ้า เพื่อฆ่าพ่อของเจ้า เพื่อต่อต้านสวรรค์ นางจึงแอบฝึกฝนวิชานี้”
ศีรษะของเหวินเส่าอี๋ถูกปกคลุมไปด้วยความเย็น ท่าทางของเขาดูผิดไปจากปกติเป็นอย่างมาก
กู้ชูหน่วนไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเผ่าหยก และนางเองก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วใช่วิชาแมงมุมพิษหลากสีอย่างที่กล่าวมาหรือไม่
แต่เยี่ยจิ่งหานกลับกล่าวออกมาว่า “อย่าไปฟังคำพูดเหลวไหลของนาง ข้ารู้จักกับเผ่าหยกมาหลายปี แต่ไม่เคยได้ยินเรื่องของแมงมุมพิษหลากสีมาก่อน”
“ฮึฮึฮึ……เจ้าลืมไปแล้วงั้นหรือ ก่อนที่พ่อของเจ้าจะตายมีแมงมุมพิษหลากสีสองสามตัวเกาะอยู่ตรงหน้าอก และแทะไขกระดูกของเขาอยู่ตลอดเวลา”
เหวินเส่าอี๋ยกมือขึ้นมากุมหน้าอกไว้แน่น ความเจ็บปวดบนใบหน้าของเขาไม่สามารถปกปิดได้
แมงมุมพิษหลากสี……
มีแมงมุมพิษหลากสี……
“นอกจากจะถูกพิษ ข้ายังเห็นนางแล่เนื้อพ่อของเจ้าออกมาทีละชิ้น ไม่ว่าพ่อของเจ้าจะร่ำร้องออกมาสักเพียงใด นางก็ไม่เคยแสดงท่าทีเห็นใจออกมาให้เห็น”
“น่าเสียดายที่พ่อของเจ้าถูกกดจุดไว้ ทำได้เพียงเฝ้ามองเนื้อของตนเองถูกแล่ออกไปทีละชิ้น ฮึฮึฮึ……มันต่างกันเกินไป ข้าเองยังรู้สึกเจ็บปวดแทนพ่อของเจ้า”
เหวินเส่าอี๋ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “พอได้แล้ว หยุดพูดได้แล้ว”
“เจ้ารู้ไหมว่ากู้ชูหน่วนพูดอะไรกับพ่อเจ้า? นางพูดว่า นางจงใจเข้ามาใกล้ชิดกับเจ้า จงใจทำให้เจ้าหวั่นไหว จากนั้นก็จะทอดทิ้งเจ้าอย่างไร้เยื่อใย และสำหรับคนสำคัญของเจ้า นางจะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว ดังนั้นนางจึงฆ่าเสวี่ยเย่ ฆ่าอันเย่ ฆ่าผู้อาวุโสทุกคนที่เจ้านับถือและเลี้ยงดูเจ้ามาตั้งแต่ยังเด็ก”
“ข้าบอกให้เจ้าหุบปาก……”
ภายใต้ความโกรธ เหวินเส่าอี๋ยังคงดีดพิณในมือของเจ้าโจมตีไปทางฮวาอิ่งอย่างต่อเนื่อง
ยอมสละวรยุทธ์ที่เล่าเรียนมาเป็นเวลาหลายสิบปีเพื่อการโจมตีครั้งสุดท้าย
เวลานี้เขาไม่ได้นิ่งสงบและสง่างามเหมือนแต่ก่อน
ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารและความเกลียดชัง
ราวกับราชาปีศาจที่ออกมาจากส่วนลึกของขุมนรก
เยี่ยจิ่งหานและกู้ชูหน่วนโจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่มีเพื่อจัดการกับเหล่าโครงกระดูก พวกเขาพูดออกมาด้วยความเป็นห่วงว่า
“เสี่ยวหูเตี๋ย อย่าไปหลงกลนาง รีบสงบสติอารมณ์ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะถูกธาตุไฟเข้าแทรกจนเข้าสู่ห้วงมาร”
“ฮ่าฮ่าฮ่า……กู้ชูหน่วนไม่เคยรักเจ้ามาก่อน ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ นางก็เห็นเจ้าเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง ที่นางดีกับเจ้าทั้งหมดก็เพื่อแก้แค้น”
“ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะกำจัดกระดูกสะบักของเจ้าอย่างไร้ความรู้สึก และโยนเจ้าเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามเพื่อให้เจ้าเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง”
“นางแม่มดเฒ่า หุบปากเน่า ๆ ของเจ้าได้แล้ว ข้าไม่ต้องการที่จะฟังมัน”