ตอนที่ 682 อุบัติเหตุ
ในบรรดาผู้คนที่มา มีบางคนที่ห่างไกลจากคุณสมบัติไปมากจนน่าขำ ยกตัวอย่างเช่น บรรดาคุณยายที่อายุเกินสี่สิบห้าและสาวๆ ที่อยู่ในวัยสิบกว่า หรือมีแม้กระทั่งผู้ชาย!
กลุ่มของแซมอดที่จะคิ้วขมวดไม่ได้เมื่อเห็นกลุ่มคนพวกนี้ที่ทำตัวย้อนแย้งกับสามัญสำนึกเพียงเพื่อเงิน
“พวกเราทั้งสี่คนก็เป็นเด็กกำพร้า ถ้าไม่มีข้อกำหนดว่าต้องถูกโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วละก็ฉันเดาว่าพวกเราคงได้อยู่แถวหน้าสุดแน่” แซมพูดติดตลก
“มันก็ระบุไว้ว่าลูกสาวของตระกูลเฉินอายุประมาณสี่สิบห้า แล้วคนพวกนี้อ่านหนังสือไม่ออกหรือไงกัน” อาลิย่นคิ้ว
ซิงเหอตอบอย่างนุ่มนวล “พวกเขาอ่านออก แต่พวกเขาแค่ไม่อาจทนนิ่งเฉยกับความโลภที่อยู่ในตัวได้”
ความโลภสามารถปิดบังสามัญสำนึกได้ นี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ หลายคนที่มาที่นี่เพื่อเสี่ยงโชคได้เผยตัวตนให้เห็นตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มการตรวจ แต่แม้เวลาจะผ่านไปแล้วสองวันแล้วก็ยังไม่พบคนที่มีดีเอ็นเอเข้ากันได้ ทว่าจำนวนผู้สมัครกลับพุ่งสูงทะลุไปถึงเลขสามหลักแล้ว…
พูดตามหลัก การค้นหาที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ควรได้ผลลัพธ์อะไรสักอย่าง แต่นี่กลับไม่มีอะไรเลย แม้แต่ตำรวจก็ยังไม่มีความคืบหน้า
นี่อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของซิงเหอ เธอไม่คิดว่าการค้นหาคนเพียงคนเดียวจะยากลำบากขนาดนี้
ในวันที่สาม ผู้คนที่มาเพื่อทำการตรวจดีเอ็นเอลดลงเหลือเพียงเลขหลักเดียว พูดได้ว่าคนที่ต้องการจะมาได้มากันหมดแล้ว
เว้นเสียแต่ว่าลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินจะอาศัยอยู่ในที่ที่ปิดกั้นข่าวสารจากภายนอกโดยสมบูรณ์เท่านั้น หรืออาจมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ ไม่เช่นนั้นเธอควรจะได้เห็นข่าวและมาเพื่อทำการตรวจ ความจริงที่คนคนนั้นไม่ได้มาทำให้ซิงเหอเชื่อว่าอาจมีเหตุบางอย่างเกิดขึ้นกับคนคนนั้น
…
แม้แต่เฮ่อหลานฉีเองยังประหลาดใจกับความไม่คืบหน้า
“ใครจะคิดว่าทั้งที่มีคนมาสมัครมากมายแต่กลับไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย คุณเซี่ยคิดว่าคุณเฉินอาจจะออกไปจากประเทศ R เลยไม่ได้เห็นข่าวนี้หรือเปล่า หรือจะเป็นเพราะสวรรค์กลั่นแกล้งและมีบางอย่างไม่ดีเกิดขึ้นกับเธอ” เฮ่อหลานฉีเสนอแนะพร้อมใบหน้าที่ขมวดย่นอย่างมาก เขาทำให้รู้สึกว่าเขาใส่ใจกับเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง
ตลาดช่วงเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด นี่ทำให้ข้อสงสัยของซิงเหอที่มีก่อนหน้านี่ได้รับการพิสูจน์ ตระกูลเฮ่อหลานจะเป็นผู้บริสุทธิ์จริงได้อย่างไร
เหตุผลอื่นใดอีกที่ทำให้เฮ่อหลานฉีช่วยเหลือพวกเธอมากถึงขนาดนี้ เขายินดีที่จะช่วยพวกเธอโดยไม่มีขีดจำกัด
แต่สัญชาตญาณของเธอกำลังบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเรื่องทั้งหมดนี้ แต่เธอไม่อาจบอกได้แน่ชัดว่าเป็นอะไร
ซิงเหอมองไปยังอีกฝ่ายและแววตาของเธอสั่นเทาเล็กน้อย “ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ การค้นหาจะต้องดำเนินต่อไป นี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เราจะไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ”
เฮ่อหลานฉียิ้ม “แน่นอน ไม่ต้องกังวลนะ เราจะขยายขอบเขตการค้นหาออกไปอีก ผมจะช่วยคุณทำภารกิจนี้ให้สำเร็จต่อให้มันต้องแลกกับชีวิตของผมก็ตาม”
“ขอบคุณคุณเฮ่อหลานที่ช่วยค่ะ ฉันรู้สึกขอบคุณจริงๆ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรในอนาคต พวกเราจะตอบแทนความเมตตาของคุณอย่างแน่นอน” ซิงเหอตอบอย่างสุภาพ
เฮ่อหลานฉียิ้มอย่างช่วยไม่ได้แต่ก็ยังดูทรงเสน่ห์ “ซิงเหอ คุณยังทำเหมือนผมเป็นคนแปลกหน้าอยู่เลยนะ ผมสัญญาว่าผมกำลังช่วยคุณด้วยความจริงใจของผมเอง ดังนั้นอย่ารู้สึกกดดันไปเลยนะ”
ตอนที่ 683 หมดความอดทน
“ถึงยังไงฉันก็มาที่นี่ในฐานะตระกูลเฉินและพวกเรารู้สึกขอบคุณในความช่วยเหลือของคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ” ซิงเหอพูดเพื่อสร้างระยะห่างระหว่างตัวเธอเองกับอีกฝ่ายและเมินเฉยต่อท่าทีเจตนาที่เขาพยายามสร้างความดีความชอบกับเธอ ความพยายามของเขาในช่วงหลายวันที่ผ่านมาไม่ได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติที่ซิงเหอมีต่อเขาได้ เธอยังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงราวกับเขาเป็นคนแปลกหน้าที่เธอเดินผ่านบนท้องถนน
เฮ่อหลานฉีให้เวลาตัวเองเต็มที่สามวันในการชนะใจซิงเหอ แต่เธอช่างดื้อรั้น ความอดทนของเฮ่อหลานฉีมาถึงจุดสิ้นสุดและความเย็นชากับความใจร้อนเริ่มก่อตัวขึ้น แต่ก็เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
“ถ้างั้นผมจะหาทางอื่นเพื่อช่วยคุณ ถ้าทางคุณมีความคืบหน้าอะไรช่วยบอกผมด้วยแล้วกัน” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ
“โอเคค่ะ” ซิงเหอพยักหน้าเล็กน้อย ดวงตาของเธอส่องประกายใสซื่อราวกับกระจก เธอมองเห็นความเย็นชาในดวงตาของเฮ่อหลานฉีได้อย่างชัดเจน ในที่สุดก็หมดความอดทนแล้วงั้นเหรอ
ซิงเหอศึกษาการถอยรนของอีกฝ่ายและแววตาของเธอเองกลับมาดำมืดอีกครั้ง
แซมเดิมเข้ามาหาซิงเหอจากด้านข้างอย่างเงียบๆ และบ่นด้วยความรำคาญ “หมอนั่นจะหัวทึบไปไหน ไม่เห็นหรือไงว่าซิงเหอไม่สนใจ ทำไมถึงได้ยังดื้อด้านขนาดนี้”
“ใช่ ซิงเหอก็แสดงออกว่าจะชัดเจนว่าไม่สนใจในตัวเขา เขาควรจะเลิกรุกอย่างออกหน้าออกตาได้แล้วนะ” อาลิเสริมพร้อมขมวดคิ้ว
ที่จริงแล้วพวกเขาไม่คิดว่าจะเฮ่อหลานฉีจะมีอะไรที่ผิดปกติ แต่พวกเขาแค่ทนเห็นผู้ชายคนนี้ยืนกรานที่จะยื้อยุดซิงเหอไม่ได้ พวกเขาไม่ได้ต่อต้านไม่ให้ใครเข้าหาซิงเหอแต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขารู้สึกได้ว่าเฮ่อหลานฉีคนนี้มีแรงจูงใจซ่อนเร้นบางอย่างแอบแฝงอยู่ภายใต้การกระทำต่างๆ ของเขา
ความสนใจของเขาที่มีต่อซิงเหอนั้นเกินกว่าคำว่าความรักใคร่ที่บริสุทธิ์ไปแล้ว แม้แต่กลุ่มของชายหนุ่มที่แทบไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักยังรู้สึกได้ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องบอกก็รู้ว่าซิงเหอเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน กำแพงของวิงเหอถูกตั้งขึ้นหลังจากที่เธอสัมผัสได้ถึงจุดมุ่งหมายที่ซ่อนเร้นอยู่ของเขา แม้กระทั่งตอนนี้ซิงเหอยังรู้สึกได้ว่าเขากำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ แม้ว่าภายนอกเขาดูใจดีที่จะช่วยเหลือพวกเธอในการค้นหา
“ซิงเหอ นี่มันผ่านมาสามวันแล้ว เธอคิดว่าลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินจะปรากฏตัวออกมาไหม” อาลิเอ่ยถามด้วยความรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง
แคร์นเอ่ยด้วยความลังเล “ที่จริงผมคิดว่าการค้นหานี้มันไม่มีประโยชน์”
“ฉันเห็นด้วย” วูลฟ์ผู้ซื่อตรงพนักหน้า มันไม่ผิดที่พวกเขาจะรู้สึกเช่นนั้น ข่าวได้รับการเผยแพร่ไปทั่วประเทศแต่ยังไม่พบร่องรอยของคนคนนั้นเลย ดังนั้นโอกาสที่เธอจะปรากฏตัวนั้นจึงต่ำมาก
ซิงเหอออกความเห็น “ฉันไม่คิดว่าพวกคุณผิด มาเถอะ รออยู่ที่นี่ก็ไม่ช่วยให้พวกเรามีความคืบหน้าอะไร”
ซิงเหอลุกขึ้นยืนเพื่อจะออกไปแต่ในขณะนั้นเอง ชายร่างกำยำคนหนึ่งเดินตรงเข้ามายังห้องลงทะเบียน ความตกตะลึงโจมตีซิงเหอทันทีที่เธอเห็นชายคนนั้น!
“งั้นก็เป็นคุณเองสินะ” ชายคนนั้นพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มเห็นฟันเมื่อเขาเห็นซิงเหอ
ซิงเหอประหลาดใจจริงๆ เมื่อพบอีเฉินอยู่ที่นั่น!
นับตั้งแต่ปีที่แล้วที่เธอไม่สามารถหาที่อยู่ของเขาได้ เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะปรากฏตัวอีกครั้งที่ประเทศ R
“ทำไมคุณอยู่ที่นี่” ซิงเหอถามด้วยความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
อีเฉินหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ผมก็อยากจะถามคุณเหมือนกัน อันที่จริง คุณเซี่ยสนใจจะออกไปดื่มกาแฟกับผมหน่อยไหม ไปคุยกันในฐานะเพื่อนเก่าสักหน่อย”
“แน่นอน ไปกันตอนนี้เลย” ซิงเหอตอบรับคำเชิญอย่างง่ายดายเพราะเธอมีหลายสิ่งที่อยากถามเขาอยู่เช่นกัน!
พ่อแม่ของอีเฉินเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์กาแล็กซี ดังนั้นการปรากฏตัวของเขาอาจช่วยเธอยืนยันความเกี่ยวโยงของตระกูลเฮ่อหลานกับโปรเจกต์กาแล็กซีได้
ยิ่งไปกว่านั้น ในความคิดของเธอ อีเฉินยังเป็นคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับโปรเจกต์กาแล็กซีมากที่สุด ในเมื่อเธอได้รับโอกาสนี้ เธอจะล้วงเอาข้อมูลมาจากเขาให้ได้