กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 957
แคลร์รีบขึ้นว่า “ไม่ต้องกังวลนะคะ คุณนายลูอิส ชาร์ลีดูแลหนูได้ดีมาก”
แล้วเธอก็หน้าแดงและกล่าวขอโทษ “คุณนายลูอิสคะ ฉันต้องขอโทษที่ไม่สามารถไปเยี่ยมคุณได้ที่อีสต์คริฟฟ์ หนูไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณฟื้นและกลับมาที่โอลรัส ฮิลล์แล้วถ้าชาร์ลีไม่บอกหนู หนูต้องขอโทษด้วยนะคะ…”
“โอ้ ไม่ ได้โปรดอย่าเลยที่รัก พวกเธอช่วยไว้มากแล้ว พวกเธอดูแลฉันในโรงพยาบาลเมื่อฉันป่วยหนัก ฉันอาจเสียชีวิตจากความเจ็บป่วยแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอสองคนที่ช่วยฉันด้วยเงิน…”
ดวงตาของคุณนายลูอิสแดงก่ำด้วยน้ำตาและเธอก็สำลัก “ฉันขอบคุณหนูมากนะแคลร์ หนูต้องดูแลเรื่องตระกูลวิลสันเช่นเดียวกับเรื่องของฉัน มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับหนูมาก ฉันรู้สึกขอบคุณและรู้สึกผิดมากในเวลาเดียวกัน ฉันเป็นภาระของพวกเธอทั้งคู่ ควรเป็นฉันที่พูดขอโทษ!”
แคลร์จับมือเธอแน่นแล้วพูดว่า “คุณนายลูอิส อย่าลืมว่าหนูเป็นภรรยาของชาร์ลี! คุณคือนางฟ้าแม่ทูนหัวของเขา ซึ่งหมายความว่าคุณเป็นนางฟ้าแม่ทูนหัวของหนูด้วยนะคะ!”
คุณนายลูอิสหลั่งน้ำตาอย่างซาบซึ้งต่อคำพูดของแคลร์และเธอรู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนเล็กน้อยเมื่อเธอพบเธออีกครั้งในครั้งนี้
แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่แคลร์มากับชาร์ลีเพื่อไปเยี่ยมเธอในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่ก่อนหน้านี้ พวกเขามักมีความรู้สึกแปลกแยก และเย็นชาระหว่างพวกเขาซึ่งบ่งบอกว่าพวกเขาไม่มีความรู้สึกต่อกัน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อเธอพบพวกเขาอีกครั้งในครั้งนี้ พวกเขาจับมือกันและดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะดีขึ้นมาก
ในอดีต คุณนายลูอิสมักได้ยินข่าวลือที่น่าเป็นห่วงมากมายเกี่ยวกับพวกเขาที่ทำให้เธอกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา โดยกลัวว่าสักวันหนึ่งชาร์ลีจะถูกไล่ออกจากตระกูลวิลสันเมื่อพวกเขาหย่าร้างกัน
ในที่สุดเธอก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นพวกเขายังอยู่ด้วยกัน
ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจเมื่อได้ฟังการสนทนาของพวกเขา
ตอนนี้ทุกคนได้รู้เกี่ยวกับสิ่งที่ชาร์ลีและภรรยาของเขาทำเพื่อคุณนายลูอิสตอนที่เธอล้มป่วย
ชาร์ลีก็อ่อนน้อมถ่อมตนเช่นเคย เขาจริงใจในการช่วยเหลือคุณนายลูอิสเพื่อตอบแทนความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของเธอ เขาไม่เคยคิดจะทำสิ่งนี้เพื่ออวดคนอื่น
ดูเหมือนว่าแม็กซ์จะเศร้ามากในตอนนี้!
เขาถือได้ว่าเป็นเจ้าภาพในการจัดงานครั้งนี้ นั่นจึงเป็นเหตุให้ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อเยี่ยมคุณนายลูอิสในวันนี้!
เขาคิดเสมอว่าในฐานะผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ เขาสามารถสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองต่อหน้าคนอื่น ๆ ในระหว่างการกลับมาพบกันอีกครั้ง พร้อมทั้งยังได้คบหากับสเตฟานี
แต่โดยไม่คาดคิด ชาร์ลีมาจากไหนก็ไม่รู้และขโมยซีนของเขาไป ทำให้เขาดูเหมือนป้ายโฆษณาที่ไม่มีความสำคัญอะไรเลย!
แม็กซ์จ้องชาร์ลีด้วยความขุ่นเคือง
คุณนายลูอิสตบมือแคลร์แล้วพูดว่า “แคลร์ หนูกับชาร์ลีไม่เด็กแล้วนะ ถึงเวลาที่จะต้องมีลูกแล้ว ชาร์ลีเป็นคนเดียวที่แต่งงานท่ามกลางเด็ก ๆ ที่ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าพร้อม ๆ กัน ที่เหลือยังเป็นโสด เร็วเข้า ฉันรอไม่ไหวที่จะได้กอดหลาน ๆ ตัวน้อยของฉัน!”
แคลร์หน้าแดงอย่างเขินอาย
เธอกับชาร์ลีแต่งงานกันมาสามปีแล้ว แต่ไม่มีใครกระตุ้นให้พวกเขามีลูก ทั้งครอบครัวของเธอของเธอดูถูกเขาและสวดอ้อนวอนขอให้เธอหย่ากับชาร์ลีสักวันหนึ่ง ไม่มีใครอยากให้พวกเขามีลูกด้วยกันด้วยซ้ำ ยกเว้นคุณปู้ของเธอ
อย่างไรก็ตาม ขณะที่คุณนายลูอิสเสนอความคิดให้แคลร์ นอกจากแคลร์จะเขินอายแล้ว แต่เธอยังมีความรู้สึกแปลก ๆ บางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในตัวเธออีกด้วย
อีกไม่นานแคลร์ก็จะอายุ 26 ปี ซึ่งเป็นอายุที่เหมาะสมที่สุดในการมีลูก ในวัยนี้ ความรู้สึกของความเป็นแม่เริ่มก่อตัวขึ้นในตัวเธอ
แม้แต่ตอนที่เธอเห็นคนอื่นมีลูก ความรักของความเป็นแม่ก็ยังเอ่อล้นอยู่ในใจและเธอก็เริ่มสงสัยว่าเมื่อไหร่ที่เธอจะมีลูกเป็นของตัวเอง
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เรื่องครอบครัวที่ซับซ้อนของเธอขัดขวางไม่ให้เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย
แคลร์จึงพูดอย่างเขินอายว่า “คุณนายลูอิส เรายังไม่มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยค่ะ หนูเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจและตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ยุ่งที่สุด”