แดนนิรมิตเทพ บทที่ 931
ครั้งนี้เมื่ออยู่ในยามวิกฤต หานทงไม่ได้จงใจซ่อนเสียงตัวเองไว้

ทันใดนั้นสายตาของทุกคนจ้องมองมาทางเขา

“หึ ที่แท้เสียงที่ถามเมื่อกี้คือเสียงของเขาสินะ ไอ้หมอนี่เจตนาไม่ดี!”

“ใช่ ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินโม่หวังดี แต่งนิทานเรื่องนั้นเพื่อเตือนใจ พวกเราเกือบโดนเขาใช้ประโยชน์แล้ว”

“ฉันรู้แล้ว คนนี้คือหานทงที่มหาวิทยาลัยตงหมิง เขามีพนันกับเฉินโม่ ถ้าใครแพ้ต้องก้มหัวยอมรับผิดกับอีกฝ่าย! มิน่าล่ะเขาจึงเอาแต่เล่นงานเฉินโม่ เป็นคนต่ำตมจริงๆ!”

คำพูดของหานทงไม่ได้ทำให้ทุกคนรู้สึกเห็นใจ กลับทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกต่อต้าน

แต่หานทงไม่ยอม ให้ทุกคนรู้สึกต่อต้านเขา ยังไงก็ดีกว่าเขาก้มหัวยอมรับผิดกับเฉินโม่

อีกทั้งถ้าเฉินโม่พูดประวัติความรู้ขั้นสูงออกมาไม่ได้ เขาจะได้ถือโอกาสแสดงความคิดเห็น ใส่ความเฉินโม่ ถึงขั้นที่พลิกกลับมาชนะได้

อานเข่อเยว่กับหมิงเจ๋อเซวียนจ้องเฉินโม่เขม็ง ถ้าหานทงไม่ถาม อันที่จริงหมิงเจ๋อเซวียนเตรียมถามคำนี้กับเฉินโม่เหมือนกัน

หานทงกัดฟัน ตัดสินใจลุกขึ้นมา เขาจ้องเฉินโม่แล้วถามแบบบีบให้ตอบ “พูดสิ ความรู้พวกนี้ของนายไม่มีในหนังสือเรียน นายเรียนมาจากที่ไหน”

ทุกคนมองหานทงอย่างเย็นชา รู้สึกว่าคนคนนี้ทำเกินไปแล้ว มีสิทธิ์อะไรไปถามเรื่องส่วนตัวของคนอื่น

เฉินโม่มองหานทงอย่างเย็นชา ความรู้สึกเย็นชาฉายขึ้นมาในแววตา

เสียงเฉินโม่ยังคงราบเรียบเหมือนเดิม แต่แฝงด้วยความรู้สึกหนาวเหน็บที่ทำให้จิตใจวูบไหว “ฉันจะทำอะไรในชีวิตฉัน ทำไมต้องอธิบายนายฟังด้วย!”

ฉันจะทำอะไรในชีวิตฉัน ทำไมต้องอธิบายนายฟังด้วย!

ประโยคนี้เหมือนสายฟ้าฟาด ดังสนั่นขึ้นข้างหูทุกคน

“ตอบได้ดุดันและเฉียบคมมาก! ฮ่าๆๆ คนที่มีความสามารถแบบนี้ ก็สมควรมีความดุดันแบบนี้แหละ! ดีๆๆๆ!”

หยางจื้อหนิงเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ หัวเราะด้วยความชื่นใจ แววตาที่มองเฉินโม่ เต็มไปด้วยความชื่นชม

คนอื่นก็แอบพยักหน้า มีความตกตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้า แม้คำตอบของเฉินโม่จะดุดัน แต่เมื่อประกอบกับความสามารถของเขา กลับไม่ทำให้คนรู้สึกต่อต้านสักนิด แต่กลับรู้สึกว่าเขาควรตอบแบบนี้

“ไอ้เด็กนี่ พูดอะไรไม่ไว้หน้าเลย แต่ทำให้คนหายหงุดหงิดจริงๆ!” ศาสตราจารย์เสิ่นหัวเราะออกมา แววตาที่มองเฉินโม่เต็มไปด้วยความเมตตา ราวกับเอ็นดูเฉินโม่เหมือนลูกของเขา

สีหน้าของพวกหวางเฉิงกับจางซินเหมิงไม่สู้ดี ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ชอบหน้าเฉินโม่มาตลอด พวกเขาคิดว่าท่าทีของเฉินโม่เย่อหยิ่งเกินไป แต่เห็นเฉินโม่ในตอนนี้ พวกเขาเพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้ว ท่าทีที่เฉินโม่มีกับพวกเขาดีมากพอแล้ว

หานทงมีความโมโหเต็มใบหน้า แต่ไม่รู้ทำไม เมื่อเขาเห็นดวงตาคู่นั้นของเฉินโม่ จู่ๆ ความหวาดกลัวผุดขึ้นมาในใจเขา

ความรู้สึกนี้ทำให้หานทงประหลาดใจมาก!

เฉินโม่ไม่เพียงแต่ไม่ตอบคำถามของเขา ยังพูดคำพูดที่เมินเฉยใส่เขาด้วย ว่ากันตามตรง นอกจากความโกรธ เขาไม่น่าจะมีความรู้สึกอื่น แต่ตอนนี้หานทงกลับรู้สึกกลัว เขากลัวเฉินโม่

หานทงหลบตาเฉินโม่ เขาไม่กล้ามองตาเฉินโม่ ไม่งั้นเขากลัวว่าจะสูญเสียความกล้าที่จะต่อต้านเฉินโม่

“ไอ้หนุ่ม ในเมื่อนายพูดจาฉะฉานกับทุกคนได้ แล้วทำไมถึงไม่กล้าพูดที่มาของข้อมูลความรู้พวกนี้ล่ะ ต้องมีอะไรแน่ๆ!” หานทงยังกัดไม่ปล่อย นี่เป็นโอกาสเดียวที่หานทงจะพลิกกลับมาชนะได้

แต่ไม่รอให้เฉินโม่ตอบ หยางจื้อหนิงลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าไม่สู้ดี กวาดตามองหานทงอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง แล้วพูดอย่างน่าเกรงขามว่า “เฉินโม่ไม่ตอบ นี่เป็นสิทธิ์ของเขา ทุกคนมีเรื่องส่วนตัวของตัวเอง นายไม่มีสิทธิ์ไปขอให้เขาพูด ถอยไปเถอะ!”