ฐานะของหยางจื้อหนิง แม้แต่ศาสตราจารย์ฮั่วที่มหาวิทยาลัยตงหมิงเชิญมา ก็ยังต้องนอบน้อมเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนักเรียนที่ไม่อยู่ในสายตาอย่างหานทง

ถ้าตามปกติ ถึงหานทงมีความกล้ามากมายแค่ไหน หานทงก็ไม่กล้าขัดความคิดของหยางจื้อหนิง แต่วันนี้ไม่เหมือนกัน ถ้าเขาแพ้ เขาต้องก้มหัวยอมรับผิดกับเฉินโม่!

หานทงจ้องหยางจื้อหนิง แววตาวูบไหวเล็กน้อย แต่กลับไม่ยอมสักนิด “ท่านหยาง นี่ไม่ใช่ความลับส่วนตัวของเขาแล้ว ข้อมูลความรู้ที่เขาพูดบรรยายออกมา เพียงพอที่จะทำลายความรู้ความเข้าใจของมนุษย์ที่มีต่อนิเวศวิทยาเลยนะครับ ต้องรู้ที่มาอย่างชัดเจน ไม่งั้นกลัวว่าจะก่อตัวเป็นหายนะได้!”

หานทงเริ่มพูดให้ผู้อื่นตกใจ แต่หยางจื้อหนิงไม่ใช่นักเรียนที่กระตุ้นได้ง่ายๆ ลูกไม้พวกนี้ของหานทง ไม่มีผลอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

“ฉันให้นายถอยไป!” เสียงของหยางจื้อหนิงดังขึ้นมาก สีหน้ายิ่งเย็นชาเข้าไปอีก

“แต่……” หานทงอยากจะพูด แต่โดนหยางจื้อหนิงพูดตัดบทว่า “มาไล่เขาออกไป!”

แม้ที่นี่เป็นสนามของวิทยาลัยชิงหวา แต่จากฐานะและตำแหน่งของหยางจื้อหนิง ไม่มีใครกล้าคัดค้าน พนักงานรักษาความปลอดภัยสองคน รีบเดินเข้ามาด้วยใบหน้านิ่ง หิ้วหานทงออกจากหอประชุมใหญ่ทันที

“อย่า พวกนายมีสิทธิ์อะไรถึงทำกับฉันแบบนี้! อย่าบอกนะว่าฉันพูดผิด ข้อมูลความรู้ที่เขาพูดออกมา ไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่นิเวศวิทยาของดาวไอกา เขาพูดที่มาที่ไปไม่ได้ ต้องมีอะไรแน่นอน……”

เสียงตะโกนของหานทงค่อยๆ หายไป แม้คนจำนวนมากอยากรู้ที่มาข้อมูลของเฉินโม่เหมือนกัน แต่เมื่อเห็นสีหน้าอึมครึมของหยางจื้อหนิง ก็ไม่มีใครกล้าถามเรื่องที่สงสัยออกมาสักคน

เพราะหานทงเป็นตัวอย่างให้แล้ว

เหมือนหยางจื้อหนิงรู้ความคิดในใจของทุกคน กวาดตามองทุกคนอย่างเย็นชา สีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ผลการวิจัยอย่างหนึ่งมักใช้เวลาหลายปีหรือหลายสิบปี ถ้ามีคนยอมเอาผลการวิจัยนี้ออกมาแบ่งปันกับทุกคน ก็ถือว่าใจกว้างมากแล้วแต่เรากลับเอาแต่ถามซักไซ้ นี่เป็นการไม่เคารพผู้วิจัยเลย!”

“อีกอย่าง ทุกคนล้วนมีเรื่องส่วนตัวของตัวเอง ในเมื่อเฉินโม่ไม่อยากพูด ไม่ว่าใครคนไหนก็ไม่มีสิทธิ์บีบบังคับให้เขาตอบ”

“นักเรียนของมหาวิทยาลัยตงหมิงคนนั้นเจตนาไม่ดี โดนฉันไล่ออกไปแล้ว ในเมื่อมหาวิทยาลัยตงหมิงส่งนักเรียนที่ไม่มีแม้แต่บรรทัดฐานของความเป็นคน มาร่วมงานประชุมแลกเปลี่ยน ฉันคิดว่าต่อไปมหาวิทยาลัยตงหมิงก็ไม่ต้องร่วมงานประชุมแลกเปลี่ยนแล้ว ฉันจะเสนอให้ยกเลิกคุณสมบัติผู้เข้าร่วมของมหาวิทยาลัยตงหมิง”

ทุกคนสีหน้าตกตะลึง หยางจื้อหนิงโกรธจริงๆ แล้ว แม้เขาไม่ได้เพิกถอนสิทธิ์การเข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยน ของมหาวิทยาลัยตงหมิงโดยตรง แต่จากฐานะและตำแหน่งของเขา ไม่มีใครกล้าหักหน้าเขา

ศาสตราจารย์ฮั่วกับนักเรียนที่เหลืออีกสองสามคน ของมหาวิทยาลัยตงหมิง สีหน้าซีดเหมือนตายทันที พวกเขาคิดไม่ถึงว่าหยางจื้อหนิงจะโกรธแทนเฉินโม่ขนาดนี้

หยางจื้อหนิงพูดต่อ “แม้งานประชุมแลกเปลี่ยน มีจุดประสงค์เพื่อให้ทุกคนยกระดับความรู้ได้เร็วขึ้น แต่ก็มีเงื่อนไขความประพฤติของคนเหมือนกัน ถ้าคนไม่มีคุณธรรมมีข้อมูลความรู้ ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตของมนุษย์ได้ นั่นไม่เพียงแต่จะไม่มีผลดีอะไรกับมนุษย์ กลับกลายเป็นระเบิดเวลาลูกหนึ่ง ทำให้มนุษย์มีความเสี่ยงที่จะล่มสลาย”

หยางจื้อหนิงกวาดตสมองทุกคน สีหน้าจริงจังเคร่งขรึม “ดังนั้นฉันหวังว่าต่อไปจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก ฉันหวังต่อไปมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงต่างๆ ตอนเลือกคนที่มีความสามารถ อย่าให้ความสำคัญแต่ความรู้ และละเลยพฤติกรรมของคน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องมีงานประชุมแลกเปลี่ยนดีกว่า!”

“ครั้งนี้ถือว่ามหาวิทยาลัยตงหมิง เป็นคำเตือนให้ทุกคนก็แล้วกัน!”

แม้ว่าการจัดการมหาวิทยาลัยตงหมิงของหยางจื้อหนิงในครั้งนี้ จะมีความคิดทำเพื่อเฉินโม่ไปหน่อยก็เถอะ แต่หยางจื้อหนิงเห็นถึงอันตรายจริงๆ ชนชาติที่ไม่ให้ความสำคัญกับความประพฤติของคน ให้ความสำคัญแค่ผลประโยชน์ สุดท้ายจุดจบไม่สวยทั้งนั้น