ตอนที่ 278 เปลี่ยนคน / ตอนที่ 279 ตัดสินใจเอง

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 278 เปลี่ยนคน 

 

 

ที่ถังเฉียนพูดเช่นนี้ไม่ใช่ไร้ว่าเหตุผล นางไม่เคยพบผังทงมาก่อน แต่นางรู้จักวีรบุรุษขนานแท้คนหนึ่ง ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของผู้กล้าสามัญชนจากปากของเขา จะเห็นได้ว่าคนผู้นี้ไม่ได้โดดเด่นเหนือพวกเดียวกัน ทั้งยังขาดความซื่อสัตย์และกล้าหาญ เมื่อคิดโยงเช่นนี้ คนพื้นๆ เช่นนี้ย่อมไม่อาจก้าวมาถึงตำแหน่งที่สูงเช่นนี้ เว้นแต่เขาจะรู้จักการไต่เต้าบนเส้นทางขุนนางอย่างลึกซึ้ง 

 

 

นี่คงเป็นพวกที่ไร้อุดมการณ์อย่างที่บิดานางเคยบอก 

 

 

ถังเฉียนไม่อยากพูดเรื่องผังทงไปมากกว่านี้อีกแล้ว นางได้รับข่าวจากหวังหยวนแล้ว องค์ชายสามตกลงที่จะพบนางพร้อมกับพานางออกจากเมืองหลวง พรุ่งนี้จะเป็นวันทำบุญวันเกิดให้พระมารดาซึ่งเสียชีวิตไปแล้วขององค์ชายสาม องค์ชายสามทูลขอพระราชานุญาติจากฮ่องเต้แล้ว จะไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พระมารดาที่วัดเสียงอวิ๋นนอกเมือง ฮ่องเต้ก็ทรงอนุญาต 

 

 

ครั้งนี้หวังหยวนติดตามไปกับคณะ เขาจะให้ถังเฉียนปลอมเป็นสาวใช้ตามออกไปนอกเมือง 

 

 

ถังเฉียนเล่าแผนนี้ให้ซูซินเหลียนฟัง นางเห็นด้วยกับแผนนี้ แต่ถังเฉียนไปไม่ได้ คนที่ต้องไปคือนาง 

 

 

“เจ้าเอาป้ายพยัคฆ์จากไปเช่นนี้ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะเอาไปให้ท่านอ๋อง ถึงตอนนั้นเจ้าจะเชิดป้ายพยัคฆ์หนีไป เอาไปให้คุณชายเถิงเฟิงคู่รักของเจ้า ข้ากับท่านอ๋องจะทำเช่นไร ข้าทรยศหนีออกมาจากตระกูล จะไม่ยอมตายอย่างไร้ที่กลบฝังเพราะเจ้าเด็ดขาด” 

 

 

ที่ซูซินเหลียนพูดเช่นนี้เพราะนางกลัวว่าถังเฉียนจะทิ้งนางไว้คนเดียวในเมืองหลวง กลัวว่าอันกุ้ยเฟยจะหานางเจอแล้วถูกฆ่าตาย อีกอย่างฮ่องเต้ทรงมอบป้ายพยัคฆ์ให้นาง ถ้านางไม่ยอมบอกว่าป้ายพยัคฆ์อยู่ที่ใด ถึงถังเฉียนจะออกไปได้แล้วจะทำสิ่งใดได้ 

 

 

“ได้ ข้ารับปากเจ้า ให้องค์ชายสามพาเจ้าออกไป ข้าอยู่ในเจาหยางเองก็ได้” 

 

 

หวังหลงรู้ว่าการตามองค์ชายสามออกนอกเมืองย่อมปลอดภัย แต่หวังหยวนไม่สามารถให้คนออกไปได้มากกว่านี้ ทำได้เพียงสาวใช้คนหนึ่ง อีกอย่างเขาก็อยากอยู่กับถังเฉียนเพราะซูซินเหลียนเป็นคนเจ้าเล่ห์ เห็นแก่ตัว เขาไม่กล้าขายชีวิตให้นาง 

 

 

ซูซินเหลียนมองดูถังเฉียน แล้วรู้สึกว่าตนเองตกลงเร็วเกินไป ราวกับว่ามีหลุมพรางรอนางอยู่ เวลานี้สถานการณ์ในเจาหยางย่ำแย่มาก นางต้องกำป้ายพยัคฆ์ในมือไว้ให้แน่นจึงจะเป็นวิธีเดียวที่จะเอาชีวิตรอดได้ สุดท้ายคนที่หวังหยวนมารับก็คือซูซินเหลียน 

 

 

“เหตุใดเจ้าจึงไม่ไป ขืนอยู่ที่นี่ ถ้าอันกุ้ยเฟยเจอเจ้า เจ้าคง…” 

 

 

หวังหยวนดึงถังเฉียนมาอีกด้านหนึ่ง เขาเป็นห่วงถังเฉียนมาก แต่วันนี้ถังเฉียนต่างออกไป นางไม่ได้สวมชุดสีชมพูที่น่ารักนั้นแล้ว แต่สวมชุดดำทั้งตัว ยังมีผ้าแพรคลุมหน้า ถือหน้ากากบุปผาทองสองวงไว้ในมือ 

 

 

“ต่อให้พี่ไม่รู้ ก็คงเคยได้ยินว่าคนที่ช่วยชีวิตท่านอ๋องเป็นหมอผีนางหนึ่ง” 

 

 

ถังเฉียนสวมหน้ากาก เสี่ยวจินกับแมลงปีศาจตัวอื่นบินออกมาจากตัวนาง ชั่วพริบตาทำให้หวังหยวนตกใจ ถึงกับผงะถอย ไม่กล้าเชื่อว่าถังเฉียนก็คือหมอผีที่อันกุ้ยเฟยเคียดแค้น นางกลายเป็นหมอผีได้อย่างไร 

 

 

“พี่หวังหยวน ฐานะของข้ามีเพียงพี่เท่านั้นที่รู้ นอกจากพี่แล้ว ข้าไม่ได้บอกใคร ท่านอ๋องมองอุบายตื้นๆ ของข้าออก ข้าต้องตอบแทนบุญคุณท่านอ๋อง ส่วนนาง…” 

 

 

ถังเฉียนไม่จำเป็นต้องพูดจบ หวังหยวนก็รู้ว่านางต้องเป็นซูซินเหลียน บุตรีของมหาเสนาบดี 

 

 

“ได้ ถ้าหากเจ้ายินดีที่จะทำเช่นนี้ เจ้าย่อมมีเหตุผล เฉียนเอ๋อร์ ข้าเชื่อเจ้า” 

 

 

ถังเฉียนผงกศีรษะเล็กน้อย แล้วเรียกหวังหลงมาหา 

 

 

“ส่งพระชายารองออกไป” 

 

 

“ขอรับ ท่านหมออาหรูน่า” 

 

 

อาหรูน่า หวังหยวนรู้แล้วว่านางเปลี่ยนชื่อ ชื่อนี้ก็น่าฟังดี เขายื่นมือออกมาลูบคลำเส้นผมนางแล้วพูดว่า 

 

 

“รอข้ากลับมา ข้าย่อมหาวิธีส่งเจ้าออกไปให้ได้” 

 

 

ถังเฉียนพยักหน้า มองดูพวกเขาจากไป 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 279 ตัดสินใจเอง 

 

 

ถังเฉียนตัดสินใจที่จะไปยังจวนจินซิวอ๋องเอง เพื่อประกันว่าพวกเขาจะออกจากเมืองอย่างราบรื่น แล้วก็เป็นไปตามคาด นางตกอยู่ในอุ้งมือของอันกุ้ยเฟย คนเหล่านั้นล่ามโซ่นาง เตรียมพาเข้าวัง อาหรูน่าไม่ขัดขืน มีท่าทียินยอม ทำให้ไม่ถูกปฏิบัติอย่างโหดร้าย 

 

 

“เจ้าฟังที่พวกเราพูดไม่ออก ไม่มีใครมาเป็นล่าม แต่เจ้าร่วมมือดี ทำให้พวกเราไม่ต้องเหนื่อย” 

 

 

ถังเฉียนมาตามลำพังจึงต้องแสร้งฟังไม่ออก นางมีท่าทีโอนอ่อนผ่อนตาม แต่ไม่ยอมให้ใครแตะเนื้อต้องตัว คนเหล่านี้เห็นว่าข่มเหงนางได้ง่าย จึงยิ่งเหิมเกริมขึ้น 

 

 

ขณะที่เพิ่งออกจากประตู หวังหลงก็บุกเข้ามา 

 

 

“พวกเจ้าจะพาท่านหมอของเราไปที่ใด นางเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตจินซิวอ๋อง!” 

 

 

หวังหลงผลักคนพวกนั้นออกไป มาอยู่ตรงหน้าถังเฉียน ตอนเช้านางไม่ได้บอกเขา เพียงแต่ขอให้หวังหลงรออยู่ที่นี่รอจนท่านอ๋องเข้าเมือง แต่ถังเฉียนเพิ่งออกไป เขาก็ตามหลังมาติดๆ ขณะนี้ถ้าทั้งสองไม่ได้มาปรากฏตัว หวังหยวนจะพาซูซินเหลียนออกจากเมืองย่อมยากขึ้น เนื่องจากถ้าไม่มีใครปรากฏตัวเลย แสดงว่าทุกคนกำลังหาทางหนีไป แต่ถ้ามีคนออกมาแล้ว ก็จะทำให้อันกุ้ยเฟยหันมาสนใจพวกเขา 

 

 

“เอ๊ะ นี่หวังหลงไม่ใช่หรือ? คุมตัวไปด้วย!” 

 

 

ถังเฉียนคว้าไหล่หวังหลงไว้ แล้วบอกเขาว่า 

 

 

“พวกเขาเป็นคนร้ายหรือ” 

 

 

“ขอรับ แต่ท่านหมอวางใจเถอะ ผู้น้อยไม่ยอมให้พวกนี้พาท่านไปเด็ดขาด” 

 

 

ถังเฉียนมองดูรอบๆ นางวางมือไว้บน**บยาใบเล็กที่เอว ค่อยๆ เปิด**บยาออกพลางพูดว่า 

 

 

“ข้าไม่ตามคนพวกนี้ไปหรอก หลีกทางให้หมด ใครขวางต้องตาย!” 

 

 

ทั้งหมดนี้ถังเฉียนพูดด้วยภาษาเซวียนกั๋ว หวังหลงยังจำเหตุการณ์ครั้งแรกที่พบนางได้ พลังอำนาจของนางทำให้เขาตกตะลึง เวลานี้เขาจึงเบาใจลงมาก ขอเพียงมีถังเฉียนกับเสี่ยวจิน พวกตนยังต้านได้ระยะหนึ่ง 

 

 

“เราต้องดึงกำลังของพวกนั้นมา ทำให้พวกนั้นส่งคนทั้งหมดมาที่นี่ คนที่คอยตรวจสอบที่ประตูเมืองย่อมลดลง ประกันให้พระชายารองหนีออกไปได้” 

 

 

ถังเฉียนกระซิบข้างหูหวังหลงเช่นนี้ หวังหลงจึงรู้ว่าที่นางตัดสินใจมาที่นี่ก็เพื่อช่วยให้ซูซินเหลียนหนีออกไป 

 

 

“ท่านหมอ วางใจเถอะ ผู้น้อยเข้าใจแล้ว!” 

 

 

หัวหน้าทหารราชองครักษ์สังเกตเห็นทั้งสองพูดกระซิบกระซาบกัน คนผู้นี้ก็คือผังทงซึ่งหวังหลงเอ่ยถึง เขาไม่เพียงไม่ช่วยเหลือ ยังแว้งกัด คอยเฝ้าดูอยู่รอบๆ จวนจินซิวอ๋อง เพื่อจับคนที่อันกุ้ยเฟยต้องการตัว 

 

 

ผังทงเห็นทั้งสองคุยกันก็ตะโกนห้าม แล้วใช้สันดาบฟาดใส่หลังถังเฉียน 

 

 

ร่างถังเฉียนเซถลาไปข้างหน้า หวังหลงรีบคว้าแขนนางไว้ ไม่รอให้ผังทงลงมืออีก เสี่ยวจินบินไปอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ชั่วพริบตาก็แทงทะลุแขนเขาเจ็ดรู จากนั้นก็แทงทะลหลังมืออีกเจ็ดรู  

 

 

หวังหลงพยุงถังเฉียนยืนอยู่กับที่ เห็นเลือดไหลอาบมือผังทง ทั้งแขนแดงฉาน เสื้อผ้าขาดกระจุยแล้ว 

 

 

“บังอาจทำร้ายท่านหมอ ตายเสียเถอะ!” 

 

 

หวังหลงตะโกนใส่ มีคนบุกออกมาจากในจวนจินซิวอ๋องไม่น้อย ห้อมล้อมทั้งสองไว้ ถังเฉียนใช้แขนข้างหนึ่งเกาะหวังหลงไว้ นางกระซิบบอกเขาสองสามประโยคแล้วหมดสติไป 

 

 

ผังทงกับพวกคิดจะคุมตัวหวังหลงและถังเฉียนไป แต่คนของจวนจินซิวอ๋องไม่ยอม คนของจวนย่อมไม่ยอมให้ใครคุมตัวถังเฉียนไป 

 

 

“กลับไปก่อน”