ตอนที่ 402 แน่นอนว่าเป็นห่วง
นายท่านผู้เฒ่านึกถึงที่มั่วเวิ่นซึ่งเป็นอาจารย์ของเฟิงฉี่ ทั้งโอสถทิพย์ของหลานชายตนมั่วเวิ่นก็เป็นคนหลอมขึ้น หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงผงกหัว “งั้นก็ทำตามความเห็นพวกเธอเถอะ”
ก่อนหน้านี้โรงพยาบาลใหญ่ทุกแห่งรักษาหลานชายตนไม่ได้ มีเพียงหมิงเย่ที่ลองรักษาอยู่ หลังจากนั้นก็มีโอสถทิพย์ที่สามารถทำให้เฉวียนหมิงยืนขึ้นได้ เขาจึงยอมเชื่อพวกเขา
เนื่องจากเวลานี้เขาไม่เชื่อวิธีอื่น วิธีเหล่านั้นแก้ปัญหาของเฉวียนหมิงไม่ได้
“เดี๋ยวผมจะแทงเข็มให้เขา แต่ว่าต้องให้อีลั่วเสวี่ยคอยช่วยอยู่ข้างๆ ท่านคิดว่า…” หมิงเย่กลอกตา พูดด้วยท่าทางจริงจัง
ถ้าสามารถช่วยเฉวียนหมิงได้ ขณะนี้นายท่านผู้เฒ่าไม่ปฏิเสธทั้งสิ้น ต่อให้เวลานี้มีคนบอกว่าถ้าจะช่วยเฉวียนหมิงต้องเอาเฉวียนกรุ๊ปมาแลกเปลี่ยน เขาก็ยินดีตกลง
“ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา พวกเธอไปจัดการเลย ต้องการอะไรก็บอกเหล่าเกา ไม่ บอกฉันก็ได้ ฉันจะจัดการให้” นายท่านผู้เฒ่าชี้ตัวเอง สีหน้าจริงจัง
หมิงเย่พยักหน้า แล้วขยิบตาให้เฟิงฉี่ตามออกมา จากนั้นก็ตรงไปที่ห้องของเฉวียนหมิง
“ปู่ไม่ได้โมโหใช่ไหม” พอเฉวียนหมิงเห็นหมิงเย่และเฟิงฉี่ ก็ยกมุมปากขึ้นแล้วถาม
หมิงเย่เปิดกระเป๋ายาพลางพูด “ฉันคุยกับปู่เธอแล้ว จะแทงเข็มให้เธอเหมือนครั้งก่อน แต่ต้องให้เธออยู่ในสภาพพักผ่อนเต็มที่ เดี๋ยวฉันจะให้ยานอนหลับเธอ”
เฉวียนหมิงพยักหน้า ไม่คิดอะไรมาก อีลั่วเสวี่ยถลกแขนเสื้อเฉวียนหมิงขึ้น เผยตำแหน่งที่หมิงเย่จะฉีดยา จากนั้นเฉวียนหมิงก็หลับอย่างรวดเร็ว
ส่วนเฟิงฉี่มองตาบิดา แล้วเดินย้อนกลับไปล็อคประตูห้อง “พี่ลั่วเสวี่ย ลงมือได้แล้ว ผมจะเฝ้าอยู่ข้างๆ ไม่ให้ใครมารบกวน”
“ต้องการอะไรก็เรียกฉันได้ มีเข็มเงินสะอาดชุดหนึ่งที่นี่แล้ว เธอใช้ได้เลย” หมิงเย่พูดจบก็ออกไปจากห้อง ไปนั่งรอที่ห้องรับแขกด้านนอก
อีลั่วเสวี่ยรอจนสองพ่อลูกออกไปแล้วจึงเดินมาที่ข้างตัวเฉวียนหมิง เห็นใบหน้าที่อิดโรยของเขา รู้สึกห่วงใย เขาคงลำบาใจไม่น้อยเพราะเรื่องของเธอกับปู่ของตน
“แม่คุณ เจ้าห่วงใยเขาแล้วสิ” ลูกบอลเงินลอยมาอยู่ข้างตัวอีลั่วเสวี่ยแล้วพูดขึ้น มันติดตามเธอมานานขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เห็นเธอมีความรู้สึกเช่นนี้ กลายเป็นผู้หญิงอย่างแท้จริงแล้ว แตกต่างจากเธอเมื่อก่อน
อีลั่วเสวี่ยพยักหน้าแล้วยิ้ม เธอไม่ปฏิเสธ “ใช่ เขาเป็นคนของฉัน จะไม่ให้ห่วงได้อย่างไร” เขาเก็บความทุกข์ไว้ในใจ ยังบอกเธอว่าเขาจัดการเองได้ บอกให้เธออย่าคิดมาก
แต่เพราะเรื่องนี้เขาคงลำบากใจแน่นอน แต่เธอกลับไม่อยู่เป็นเพื่อนเขาเผชิญกับเรื่องเหล่านี้ ทำให้เธอนึกเสียใจ
อีลั่วเสวี่ยตั้งสติแล้วเปิดกระเป๋ายา หยิบเข็มเงินออกมา ครั้งนี้เธอไม่ได้ใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ แต่ใช้ไฟทิพย์แทน หลังจากฆ่าเชื้อเข็มเงินแล้ว ก็ถอดเสื้อผ้าเฉวียนหมิงออก เริ่มแทงเข็มให้เขา
ขณะที่ลงมือทำเธอมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ครึ่งชั่วโมงผ่านไป บนร่างเฉวียนหมิงเต็มไปด้วยเข็มเงิน ส่วนเธอต้องพักบ้าง
อีลั่วเสวี่ยถอนหายใจ แล้วเริ่มเดินพลังทิพย์ถ่ายทอดเข้าสู่ภายในร่างเฉวียนหมิงผ่านตำแหน่งที่แทงเข็ม ก่อนหน้านี้ที่เขาดูกระฉับกระเฉงก็เพราะได้ประโยชน์จากพลังทิพย์ที่เธอถ่ายทอดให้ ไม่เช่นนั้นเขาคงมีอาการเช่นนี้ก่อนแล้ว ไม่ต้องรอจนถึงเดี๋ยวนี้
ขณะที่เธอส่งพลังทิพย์ให้ ใจจะวอกแวกไม่ได้เลย เธอส่งพลังทิพย์เข้าสู่ร่างเฉวียนหมิงทีละน้อยอย่างช้าๆ ตัวเขาไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเพียร ถ้าได้รับพลังทิพย์อย่างกะทันหันอาจทำให้ร่างกายบาดเจ็บ คล้ายกับการกินอาหารเสริมมากเกินไป อาจมีอันตรายถึงชีวิต
ตอนที่ 403 รู้แล้วว่าต้องเป็นคุณ
ในระหว่างการส่งพลังทิพย์ อีลั่วเสวี่ยไม่ได้สังเกตว่านิ้วมือเฉวียนหมิงขยับเล็กน้อยแล้ว ยังคงถ่ายทอดพลังออกไปทีละน้อย
เจ้าลูกบอลเงินสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเฉวียนหมิง เดิมทีคิดจะพูดอะไรบ้าง แต่พอมันนึกถึงเรื่องบางอย่าง ก็รู้สึกว่าแกล้งทำเป็นไม่เห็นจะดีกว่า
“ข้าไม่รบกวนเจ้าแล้ว ออกไปข้างนอกดีกว่า” ลูกบอลเงินพูดแล้วลอยทะลุผนังห้องออกไป มันไม่อยากให้อีลั่วเสวี่ยโทษมันภายหลัง แฮ่แฮ่
หลังจากที่อีลั่วเสวี่ยถ่ายทอดพลังทิพย์ส่วนหนึ่งแล้ว เธอจึงถอนเข็มเงินส่วนหนึ่งออก แล้วเดินพลังต่อ ทำเช่นนี้ซ้ำๆ กัน
สุดท้ายเธอดึงเข็มเงินบนตัวเฉวียนหมิงออก ฆ่าเชื้อเสร็จก็มาอยู่ข้างตัวเขา ยื่นมือออกไปลูบใบหน้าที่หล่อเหลาเบาๆ จากนั้นเล็งที่จุดแทงเข็มบนใบหน้าแล้วแทงลงไป
แต่ในขณะนั้นเองเธอก็ประสานสายตาเข้ากับดวงตาที่ดูลึกล้ำและเปี่ยมด้วยความรัก ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสน่หา พอมองเข้าไปในดวงตาคู่นี้ทำให้เธอรู้สึกเหมือนหลงเข้าไปอยู่ในนั้น
เดี๋ยวก่อน ดวงตา? พออีลั่วเสวี่ยตั้งสติได้ก็ใจหายวาบ ยืดตัวขึ้น จ้องใบหน้าเฉวียนหมิงที่ดูเหมือนกำลังยิ้ม เขาฟื้นขึ้นมาตั้งเมื่อไหร่?
“อาเสวี่ย แทงเข็มสิ ผมไม่ร้องหรอก” สีหน้าเฉวียนหมิงดูอดกลั้น พูดจบยังดึงมืออีลั่วเสวี่ยที่ถือเข็มเงินไว้
อีลั่วเสวี่ยรู้สึกสึกสับสน นึกสงสัย พอเฉวียนหมิงตื่นขึ้นก็เห็นคนยืนถือเข็มเงินจะแทงตนทั้งยังเป็นคนป่วยที่กระตือรือร้นขอให้เธอแทงเข็มต่อ เขาทำอะไรของเขานะ?
“อาเสวี่ย เป็นอะไรไป โทษที่ผมตื่นขึ้นงั้นหรือ? ก็ได้ ผมจะนอนต่อ” เฉวียนหมิงพูดจบก็หลับตาลง ทุกอย่างเหมือนอีลั่วเสวี่ยตาฝาดไปเอง ราวกับเขาไม่เคยตื่นขึ้น แน่ล่ะ แต่ต้องมองข้ามมือที่เขากุมมืออีลั่วเสวี่ยไว้
“คุณจับมือฉันไว้ แล้วฉันจะแทงเข็มได้ยังไง?” อีลั่วเสวี่ยมองจากมุมสูงลงมาบนใบหน้าที่คมสันของเฉวียนหมิง แล้วพบว่าเขาก็มีด้านที่เจ้าเล่ห์แสนกลเช่นกัน
พอเฉวียนหมิงได้ยินเช่นนั้นก็ลืมตาขึ้น เอนหัวมาเล็กน้อย แล้วปล่อยมือเธอ “มิน่า ผมเองก็แปลกใจว่าทำไมกล้ามเนื้อบนใบหน้าผมถึงได้อ่อนลง ที่แท้คุณเอง ผมรู้อยู่แล้ว”
ก่อนหน้านี้คนที่แทงเข็มให้เขาในคฤหาสน์ไม่ใช่หมอหมิง แต่เป็นเธอ ดังนั้นตอนที่ตัวเขาไม่ได้ใส่กางเกง แววตาหมิงเย่จึงดูแปลกๆ คำพูดที่เขาอ้างก็ผิดปกติ
หมิงเย่เป็นหมอประจำตัวของเขา บางครั้งเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องตรวจร่างกายเขาอย่างละเอียด แต่หมิงเย่ก็ไม่เคยมีท่าทีแบบนี้ เพราะเป็นความจำเป็นในการรักษา
ต่อมาบนเกาะ เขาก็รู้สึกสบายตัวมาก แล้วภายหลังสังเกตเห็นร่องรอยการแทงเข็มบนตัว ตรงกับตำแหน่งการแทงเข็มที่คฤหาสน์ซึ่งหมิงเย่บอกว่าเขาเป็นคนแทงเข็มให้
แต่ตอนนั้นหมิงเย่ไม่ได้อยู่บนเกาะ เขาจึงเริ่มสงสัย แต่เลือกที่จะไม่พูดอะไร เพราะเขาค้นทั่วคฤหาสน์แล้ว ไม่เจอของอย่างเข็มเงิน
จนกระทั่งวันนี้เกิดความรู้สึกที่คุ้นเคยนี้เกิดขึ้นอีก เขาจึงดิ้นรนบังคับทำให้ตัวเองฟื้นขึ้น แล้วพบว่าเป็นเธอจริงๆ เขาไม่รู้ผู้หญิงคนนี้แอบช่วยเขาทั้งหมดนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่
“คุณถูกฉีดยานอนหลับไม่ใช่หรือ ทำไมฟื้นเร็วจัง?” ฐานะอีลั่วเสวี่ยถูกเปิดเผยแล้วเธอจึงไม่ปิดบัง เพราะอย่างไรเธอเองก็หาโอกาสตลอดมาที่จะบอกกับเฉวียนหมิง
เฉวียนหมิงยิ้มที่มุมปาก ขยับตัวขึ้น ดึงมือเธอไว้ “เพราะพลังในตัวคุณทำให้ผมฟื้นเร็วขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อน ยาพอเพียงกับสภาพร่างกายของผม แต่ตอนนี้ร่างกายผมมีความต้านทานต่อยาเพิ่มขึ้น บวกกับพลังจากตัวคุณ ไม่อยากตื่นก็ทำไม่ได้”
อีลั่วเสวี่ยทำตาขวาง แล้วพึมพำ “รู้อย่างนี้น่าจะบอกให้หมอหมิงฉีดยานอนหลับให้มากหน่อย” ทำไมเธอจึงลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปได้
“อาเสวี่ย ถ้าวันนี้ผมไม่ได้พบเห็น คุณตั้งใจจะปิดบังไปถึงเมื่อไหร่ ทำไมคุณถึงไม่บอกผม?” เฉวียนหมิงจ้องตาเธอไม่วางตา