สามเสียงขู่ฟ่อดังก้องสะท้อนชวนให้ขนลุกชัน สองเสียงที่เกิดขึ้นนี้โดดเด่นกว่าเสียงอื่น และทุกคนที่อยู่ใน นครสวรรค์ใต้ สามารถได้ยิน
สองเสียง เสียงหนึ่งคล้ายกระเรียน และอีกเสียงคล้ายดั่งหมี ซึ่งเป็นฉายาของสอง ราชัญอสูรเชวียน กระเรียน และ หมีใหญ่
มีเพียงยอดฝีมือไม่มากที่รู้ว่าทั้งสองเป็นผู้ปลุกระดมการกบฏอสูรเชวียนนี้
มีเสียง วูด ดังขึ้น และ กระเรียนยักษ์บินขึ้นสู่ท้องฟ้าเบื้องบนทันที มันผ่านไปรายสายฟ้า มันกางปีกซึ่งยาวอย่างน้อย สิบห้าถึงสามสิบเมตร หงอนบันหัวของกระเรียนนั้นเปล่งสีแดง แจ่มจรัสท่ามกลางแสงตะวัน ปลายของมันคล้ายดั่งกระบี่คมที่หวกผ่านท้องฟ้า
ทุกคนเห็นว่า กระเรียนตัวนั้นมองลงมายังที่พักของเจ้าครองนครด้วยความเหยียดหยาม ปีกปกคลุมท้องฟ้า และทั่วทั้งโลกมืดมินในทันที ราวกับเมฆมหึมาปรากฏขึ้นในอากาศและหายไปอย่างรวดเร็ว
จากนั้น เงามหึมานั้นปรากฏขึ้นบนหุบเขาและเริ่มวิ่งไปด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า ไม่สำคัญว่าจะไปทางถนนหรือวิ่งฝ่าป่าไม้ ไม่มีสิ่งใดหยุดมันได้ มันชนเข้ากับต้นไม้ต้นใหญ่ และทำให้ต้นไม้หักครึ่ง แต่มันได้หายไป ในตอนที่ต้นไม้ล้มลง …
ลีจื้อเทียน เหาะขึ้นบนหลังคาทันที ไม่มีส่วนใดของร่างกายหรือแม้แต่เส้นผม ที่เคลื่อนไปแม้แต่น้อย เขาเหาะขึ้นจึงถึงหลังคา แต่ ท่าทางของเขานั้นดูเหมือนเขายังยืนอยู่บนพื้น มิได้เหาะขึ้นในอากาศ การเคลื่อนไหวของเขาไม่รีบร้อน
ทักษะของเขานั้นคล้ายดั่งเวทย์มนต์
” ราชัญเหม่ยผู้น่านับถือมาถึงแล้วหรือ ? ขออภัยที่ลี่จือเทียนมิได้มาต้อนรับ ! ”
ลีจื้อเทียนรวบรวมเชวียนทั้งหมดของเขา และใช้มันเพื่อส่งเสียงที่สง่างามของเขาให้ก้องไกล เขาขึ้นไปอยู่บนหลังคา และเปล่งเสียงคำรามนั้น เขากลัวที่จะเสียหน้าต่อ มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งราชัญเถียรฟา ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ยอมที่จะเสียเปรียบ
เสียงนี้พุ่งทะยานขึ้นท้องฟ้า และส่งไปทางใต้อย่างช้าๆและรุนแรง มันฟังดูอ่อนโยนมากสำหรับผู้ที่อยู่บนพื้น แต่ มันดังกึงก้องราวฟ้าป่าเมื่อมันไปถึง หุบเขาและสายน้ำ มันล่องลอยไปด้วยพลัง และ ศักดิ์ศรี
ก้องสะท้อนท่ามกลางป่าเขา เป็นเวลานอนก่อนจะหยุดลง
” …. ขออภัย … ที่ไม่ได้ต้อนรับ ….
“….. ไม่ได้ต้อนรับ…
“….ต้อนรับ
“…..ต้อนรับ…..
“…รับ…..”
เสียงตะโกนสะเทือนโลกาของลี่จือเทียนทำให้ อสูรเชวียนชั้นต่ำสั้นกลัว ท่ามกลางป่าเขา ยิ่งไปกว่านั้น มันก็ได้ทำให้เกิการตื่นตระหนกเล็กน้อย
เป็นที่ยอมรับได้ว่า เสียงตะโกนของ ลีจื้อเทียน นั้นอยู่ในระดับเดียวกันกับเสียงกรีดร้องของราชัญอสูรเชวียน ผลของมันแตกต่างกันมาก แต่แน่นอนว่ามันมิได้ต่ำต้อยกว่าเลย
เวลานเนินนานผ่านไป ….
จากนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงดังลากยาว ทุกคนบอกได้เลยว่าคนที่พูดอยู่นี้ห่างออกไปอย่างน้อย ห้ากิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เสียงนั้นทำให้ฟังดูราวกับกำลังยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
น้ำเสียงของคนผู้นี้แปลกประหลาดอย่างมาก มันงดงาม เที่ยงธรรม และอ่อนโยน ไม่มีผู้ใดบอกได้ชัดว่ามันคือเสียงของผู้หญิงหรือชาย
” ลีจื้อเทียน … เจ้าจริงหรือ ….? เจ้ามาถึงระดับที่ล้ำลึก ! ฮ่าฮ่า …! ไม่ประหลาดใจที่น้องชายข้ามีโทสะยิ่งนัก ! คนสามัญสามารถทำให้เขามองเช่นนี้ได้อย่างไร ? และ เอาชนะพวกเขาได้อย่างไร … ? ดี ! ดี ! เจ้าก้าวหน้า ลีจื้อเทียน ! เจ้าก้าวหน้าจริงๆ ! ”
ทุกคนมองหน้ากันอย่างท้อใจ พวกเขารู้สึกหัวจะระเบิด ลีจื้อเทียนนั้นเป็นยอดฝีมือสูงสุด เขาคือ ยอดปรมาจารย์อันดับสอง ในบรรดาเหล่ายอดปรมาจารย์ เขามิใช่คนสามัญ !
อย่างไรก็ตาม คนผู้นี้มิได้พูดกับเขาดั่งเช่นคนระดับเดียวกัน เขายังเอ่ยว่า ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่นั้น ก้าวหน้า …
คำชมเชยนี้คล้ายดั่งวาจาของอาจารย์ที่เอ่ยกับนักเรียนที่เชื่อฟัง ….
เด็กน้อย เจ้าก้าวหน้าไปมากยิ่งนัก ! ” เจ้าเป็นเด็กที่ดี ! ”
น้ำเสียงของ ลีจื้อเทียน นั้นไม่มีผู้ใดเทียบ อำนาจของมันนั้นไร้จำกัด แต่ เสียงของฝ่ายตรงข้ามนั้น ฟังดูน่าเบื่อและเรียบง่าย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้ฟังผู้ใดมิใช่ยอดฝีมือ ? พวกเขาจะบอกว่าคนผู้นี้ มีระดับวรยุทธสูงกว่าลี่จือเทียนได้อย่างไรหลังจากที่ได้ยินการพูดคุยนี้ ? อาจจะสูงส่งกว่า อีกระดับ …? หรือพวกเขาอาจอยู่ในระดับเดียวกัน … แต่กระนั้น ความแตกต่างของพวกเขานั้นอย่างน้อยจะพอๆกับ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และ ลีจื้อเทียน
พวกเขานั้นห่างไกลกัน เสียงของ ลีจื้อเทียน นั้นสามารถทำให้เกิดเสียงสะท้อนได้ แต่เสียงของอีกฝ่ายนั้น ทำให้รู้สึกเหมือนว่าเขายืนอยู่ใกล้ๆ ความจริง มันมิได้ก้องสะท้อนเลย พื้นที่นี้ล้อมไปด้วยหุบเขา ดังนั้นแม้แต่เสียงไอก็ดังก้องในพื้นที่ใกล้เคียง แต่เสียงคนผู้นี้ไม่เป็นเช่นนั้น … แม้นว่าเขาจะพูดอยู่ในระยะทางที่หายไปมากกว่า ห้ากิโลเมตร …
นี่คือการควบคุมแบบใดกัน ? การควบคุมเช่นนี้บอกได้อย่างง่ายดายว่าเป็นเลิศ มันไปถึงจุดสูงสุดอย่างแท้จริง !
จากนั้น ลีจื้อเทียน ส่งเสียง
” เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะน้องชายทั้งสองของเจ้า โจมตี มณฑลฉือฮั่น ของข้าอย่างไร้เหตุผล ข้า ลีจื้อเทียน เพียงบอกถึงที่มาของสถานการณ์ บอกข้า … นั้นคือความผิดของข้า ? และสำหรับการสูญเสีย … เป็นไปได้ไหมที่ เหม่ยผู้น่านับถือไม่สามารถมองเห็นได้ว่าใครคือผู้สูญเสียที่แท้จริง ? ไม่ใช้ มณฑลฉือฮั่นของข้า … งานที่ข้าทำมาทั้งชีวิต ก็กลายเป็นเถ้าถ่าน ! ข้าอยากถามว่า เหม่ยผู้น่านับถือ จะเอ่ยเช่นไรในเรื่องนี้ …..? “
น้ำเสียงของ ลีจื้อเทียน เต็มไปด้วยการตำหนิ เขารู้ดีถึงความแข็งแกร่งที่แตกต่างของเขากับฝ่ายตรงข้าม อย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจถูกสบประมาทได้ในฐานของ ยอดปรมาจารย์อันดับสอง
จากนั้นเสียงที่หางไกลดังคันอย่างชัดเจน
” ลีจื้อเทียน ! เจ้ากำลังบอกข้าว่า เจ้าต่อสู้กับน้องชายทั้งสองของข้า และพ่ายแพ้ ? เช่นนั้น เหตุใดถึงได้กล่าวหาว่าข้าพาล ? ลีจื้อเทียน ! เจ้ามั่นใจหรือว่าไม่ได้กำลังฝัน ? ”
หัวใจของทุกคนสั่น
คนผู้นี้ปกปิดความผิดและการกระทำอย่างไร้เหตุผลของลูกชาย และตอนนี้ เขาเบิกตา เขาปกป้องลูกชายและ เพิกเฉยต่อเรื่องน่ารำคาญ แต่นั้นนี้ เขากำลังโต้เถียงกับผู้ที่ไร้เหตุผลยิ่งกว่า ข้าไม่รู้ว่าเป็นกรรม หรือสวรรค์ลงโทษ ….
จวินโม่เซี่ย ยกคางขึ้นขณะ รู้สึกขอบคุณในใจ
ดีมาก ! นิสัยของคนผู้นี้คล้ายกับข้า ! ข้าสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของคนผู้นี้ได้ในภายหลัง !
“เหตุใดเจ้ากล้า ?! “
ลีจื้อเทียน คำรามทางจมูก
” ดังคำที่กล่าวว่า … ความยุติธรรมเป็นเสรีของผู้คน …ทุกสิ่งต้องมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง เจ้าไม่อาจกระทำการไร้ยางอายได้แม้นว่าจะเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดภายใต้สวรรค์ ! ”
อีกผู้หัวเราะ
” เจ้ากำลังเอ่ยสิ่งใด ? เรื่องตลกของเด็กไม่น่าฟัง ลีจื้อเทียน เจ้ายึดมั่นกับคำพูดนี้มาตลอดชีวิตหรือ ? เหตุใดเจ้าถึงเอ่ยว่าตอนนี้ เรื่องนั้น ไม่สูงกว่าเจ้า และคู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่าเจ้า …. ? ความยุติธรรมเป็นเสรีกับผู้คน … เจ้าเพิ่งพูดคำนั้น ยอดปรมาจารย์ ลีจื้อเทียน … แต่ตัวเจ้าผู้เป็นเลิศเชื่อเรื่องนั้นจริงหรือ ? ! “
วาจาเหล่านั้นเหน็บแนมอย่างมาก กฏของโลกมีผลเพียงผู้ที่สามัญเท่านั้น มันไร้ผลต่อผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
จะบอกว่า ความยุติธรรมเป็นเสรีกับผู้คน เป็นเพียงคำพูดที่ไร้ความหมายสำหรับผู้ที่ทรงพลัง
เฉพาะผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถตัดสินความยุติธรรมในโลกได้
คำพูดเหล่านั้นของฝ่ายตรงข้ามเป็นเพียงวาจาไร้เหตุผล แต่เป็นความจริง การเหน็บของ ลีจื้อเทียน นั้นทำให้ จวินโม่เซี่ย รู้สึกพึงพอใจ เขารู้สึกราวกับ กำลังชี้นิ้วไปยัง ยอดปรมาจารย์ และเอ่ยว่า
” เจ้าชั่ว ! เจ้าสั่งสอนเรื่อง ความยุติธรรม และเจตจำนงเสรี แต่ มันมีเหตุผลหรือ ? มันสมเหตุสมผลหรือที่ลูกชายของเจ้า ฉกตัวสะใภ้ของสกุลอื่น ? เจ้าจำมันมิได้หรือ ? “
คนชั่วติดกับดักตัวเองอย่างแท้จริง !
ลีจื้อเทียนคำรามทางจมูกและตอบอย่างรุนแรง
” เหม่ยผู้น่านับถือ ข้าทึกทักว่าท่านมิได้สนใจถูกผิด และยังคงปกป้องคนชั่วต่อไป ? “
ลีจื้อเทียน คือ อันดับสองใน แปดยอดปรมาจารย์ และ จิตสำนึกของเขาไม่ยอมให้สนทนาเรื่องดังกล่าว เช่นนั้น เจ้าจึงไม่สนใจเรื่องที่น่ารำคาญนี้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ยอดฝีมือระดับโลกเกินกว่าครึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับเขา เหม่ยผู้น่านับถือ แม้แต่ เหม่ยผู้น่านับถือ ก็จักต้องพบกับความยากลำบากที่ต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังเช่นนั้น … แม้นว่าความแข็งแกร่งของเขาจักสูส่งถึงสรวงสวรรค์
น้ำเสียงของอีกฝ่ายรุนแรงและเยือกเย็นยิ่งขึ้น
” ลีจื้อเทียน แปดเซี่ยนผู้ยิ่งใหญ่นั้นมีชื่อในเรื่องความแข็งแกร่งของเขา แต่เจ้ายังไม่คู่ควรในสายตาข้า นึกถึงสิ่งที่เจ้าเพิ่งพูด และจำให้ได้ว่าจ้ากำลังคุยกับใคร ! ”
ฝ่ายตรงข้ามหยุดลง ดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น จากนั้น เขาตะโกนอีกครั้งด้วยโทสะ
” ลีจื้อเทียน เมื่อไหร่กันที่เจ้าตัดสินใจไปยัง โลกเซียนอมตะ ? เจ้าทำให้น้องชายคนที่สี่ของข้าบาดเจ็บสาหัส ! เจ้ากล้าอย่างแท้จริง ! ”
เสียงคำรามนี้ทรงพลังสะเทือนโลก มันเกือบก่อให้เกิดพายุบนท้อฟ้า ชัดเจนว่า ราชัญแห่งเถียรฟานั้นเดือดดาลอย่างมาก เหมือนว่า หมีใหญ่ ปรากฏตัว และแสดงรอยแผลบนร่างของเขา
จวินโม่เซี่ย คิด
โลกเซียนอมตะ ? เหตุใดข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ?
เขามองหน้าของคนรอบๆ พวกเขาก็ได้แสดงสีหน้า งุนงงเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านั้นไม่รู้เกี่ยวกับสถานที่นี้
ทุกคนสงสัยในสิ่งที่พวกเขาได้ยิน แต่ จวินโม่เซี่ย ครุ่นคิดล้ำลึก เขาอาจจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ โลกเซียนอมตะ …อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่า ลีจื้อเทียน ได้ทำให้ ร่างของราชัยอสูรเชวียนยาดเจ็บอย่างรุนแรงนั้นน่างตกใจยิ่งนัก มันสำคัญที่ได้รู้ว่า ร่างกายของ หมีใหญ่ นั้นน่าอัศจรรย์ และ เหนือกว่าร่างกายของมนุษย์ หมีใหญ่ คือ อสูรเชวียนที่น่าเกรงขาม ยิ่งไปกว่านั้น เขาเคยเผชิญหน้ากับเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว และ ฉีฉางเซี่ยว แต่เขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยในเวลานั้น และ เขาได้ถอยไปโดยที่ร่างกายไม่ได้บาดเจ็บแม้แต่น้อย เช่นนั้น ผู้ใดสามารถจิตนาการถึงความแข็งแกร่งของร่างกายเขาได้
อย่างไรก็ตาม ลีจื้อเทียนใช้ วิชา กระบี่แยกหัวใจ เพื่อสร้างความเจ็บปวดให้เขา ด้วยเหตุนี้ ผู้ใดก็สามารถคาดการถึงความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างง่ายดาย …
” มีบางสิ่งที่เราไม่ควรพูดถึง เหม่ยผู้น่าเกรงขามไม่ควรดึงดูดหายนะจากสวรรค์มาสู่ตัวเองด้วยโทสะ ”
น้ำเสียงของ ลีจื้อเทียน นั้นฟังดูระมัดระวัง
” เจ้าอาจดึงดูดความไม่พอใจของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้หากเสียงดังเกนไป ข้าคิดว่า เหม่ยผู้น่าเกรงขาม และรอบรู้สามารถ พิจารณาเรื่องนี้ได้ ? “
เขาแนะนำอีกฝ่ายให้ไม่เอ่ยถึงเรื่องการเข้าสู่ “โลกเซียนอมตะ”
” ฮ่าฮ่าฮ่า …. ”
เสี่ยงหัวเราะที่น่าหวัดกลัวพุ่งขึ้นสรวงสวรรค์ และยังคงก้องต่อไปชั่วขณะ จากนั้น ฝ่ายตรงข้ามตอบ
“เจ้าพยายามขู่ข้าด้วย ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หรือ ลีจื้อเทียน ? “