TQF:บทที่ 616 เส้นทางแห่งเลือด (3)

 

 

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงโหยหวนขึ้นอีกระลอกๆ ทหารยามเหล่านี้ไม่มีแรงจะต้านทาน รอยยิ้มบนใบหน้าผู้เฒ่ายังไม่ทันได้จางหายไปก็แข็งอยู่บนใบหน้าซะแล้ว

 

การฆ่าอย่างเหี้ยมโหด เป็นการฆ่าอย่างเหี้ยมโหดอีกครั้งที่ไม่สามารถจะต้านทานได้

 

ใจของผู้เฒ่าเริ่มสั่น เขาตะโกนออกมาเสียงดัง “หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้…”

 

“ไม่มีปัญหา”

 

หยูเฮงน้อยตอบรับอย่างอารมณ์ดี ไม้ตบยุงในมือฟาดไปยังทหารรับจ้างคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เสียงแผละดังขึ้นก่อนที่คนทั้งคนจะเละเป็นโจ๊ก ตายไปอีกคน

 

“เจ้า เจ้า พวกเจ้า…”

 

ผู้เฒ่าที่ทั้งตกใจทั้งโกรธชี้ไปยัง 4 คนตรงหน้าที่ดูเหมือนไม่มีพลังการต่อสู้อะไร แต่เพียงผู้ใหญ่ 1 เด็ก 1 ก็ทำให้คนของเขาตายจนเหลือแต่เขาที่เป็นผู้นำคนเดียวเท่านั้น

 

“พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว…”

 

“พรืดด”

 

หยูเฮงน้อยหัวเราะขึ้นอีก พัดในมือเล็กลงชี้ไปที่เขา “ตาเฒ่า เจ้านี่มันตลกจริงๆ เจ้าไม่ใช่เหรอที่สั่งพวกเขาให้ฆ่าเรา ทำไมกลายเป็นว่าพวกเราที่รังแกกันเกินไปได้ล่ะ จริงๆเจ้าไม่ใช่เหรอที่รังแกกันมากไป พวกเรายังไม่ทันจะพูดอะไรเลย เจ้าจะโวยวายไปทำไม”

 

“เจ้า….”

 

หยูเฮงน้อยทำให้เขาสะอึกไม่น้อย เป็นเขาเองจริงๆที่ไม่แม้แต่จะปล่อยให้อีกฝ่ายพูด สั่งลงมือฆ่าเลยทันที บัดนี้คนที่ตายกลับเป็นคนที่เขาพามา

 

“ดี ดี ดีมาก บังอาจมาฆ่าคนของพวกเราตระกูลฟาง พวกจ้าอย่าหวังว่าจะออกจากที่นี่ได้แม้แต่คนเดียว”

 

ความดุร้ายแวววาวอยู่ในสายา เขาตะคอกใส่คนตรงหน้าอย่างแค้นเคือง ขณะเดียวกันเขาก็รู้ว่าต้องรีบจัดการคนเหล่านี้ ไม่อย่างนั้นหากมีคนอื่นมา จะลงมือก็ยากแล้ว

 

คิดมาถึงตรงนี้เขาก็ตวัดมือขึ้น มีถุงสัตว์อมตะหลายถุงปรากฏอยู่ในมือเขา ก่อนจะสะบัดถุงออก แมงมุมเลือดหยกและสัตว์เกราะเหล็กเขาเดียวก็ปรากฏออกมา พลังลมปราณของพวกมันอยู่ระดับสัตว์อมตะแล้ว เรียกได้ว่าสัตว์อมตะ 10 กว่าตัวนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวสุดๆ

 

ถ้าหากเป็นคนอื่นเมื่อเห็นของพวกนี้ละก็ ต้องกลัวจนหนีไปแน่ๆ แต่กับพวกเฉิงเสี่ยวเสี่ยวแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับเห็นหมาเห็นแมว รู้สึกน่าสนใจยิ่งนัก

 

สัตว์อมตะก็ไม่ได้มีอะไรยิ่งใหญ่นี่ ในมิติของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวมีเป็นฝูง อยากจะมีเท่าไหร่ก็ได้ ฉะนั้นในสายตาพวกนาง สัตว์อมตะเหล่านี้ไม่ต่างอะไรกับหมาแมวเท่าไหร่

 

ขณะเดียวกันเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็รู้แล้วว่าทำไมตระกูลฟางถึงแข็งกร้าวได้ขนาดนี้ มีสัตว์อมตะถึง 10 กว่าตัวนี้เป็นการเพิ่มพูนพลังจริงๆ ไม่มีใครกล้ายุ่งกับคนของตระกูลฟาง

 

“ลุย ไปฆ่าพวกนางให้ข้าซะ” นัยน์ตาของผู้เฒ่ามีประกายแห่งความเหี้ยมโหด ต้องการให้ฆ่าพวกนางให้ตาย

 

บนใบหน้าของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยมีรอยยิ้มพิลึกพิลั่น

 

พลังจิตที่มองไม่เห็นหลั่งไหลเข้าไปในหัวของเหล่าสัตว์อมตะ พวกมันถูกสะกดไว้อย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถรับคำสั่งอะไรได้อีก

 

ผู้เฒ่ายังไม่รู้ถึงสถานการณ์ เขาออกคำสั่งอย่างรีบร้อนและสะใจ “เร็วเข้า ไปฆ่าพวกนาง….”

 

“พอได้แล้ว เลิกโวยวายได้แล้ว”

 

หยูเฮงน้อยโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ หันไปถามเขา “ตาเฒ่า มีอีกมั้ยเนี่ย สัตว์อมตะ 10 กว่าตัวของเจ้านี่ไม่พอชมจริงๆ เรียกมาเยอะกว่านี้หน่อยมั้ย เจ้าดูสิ พวกมันไม่เชื่อฟังคำสั่งเจ้าเลย หรือว่าเจ้าไปขโมยสัตว์เลี้ยงคนอื่นเขามา ถึงไม่มีใครเชื่อฟังคำสั่งเจ้า”

 

“เหลวไหล เหลวไหลทั้งเพ…”

 

ผู้เฒ่าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สัตว์อมตะที่เชื่อฟังมาโดยตลอดกลับไม่ตอบโต้อะไร ทำให้ปรมาจารย์ฝึกสัตว์อย่างเขาอับอายขี้หน้า

 

เขาเรียกถุงสัตว์อมตะออกมาอีกหลายถุงจากแหวนมิติ หลังจากนั้นก็ปล่อยสัตว์วิญญาณออกมาอีก 10 กว่าตัว

 

“เอ๋ สัตว์วิญญาณเหรอ? เสือฟันดาบ หมาป่ามารพายุ เสือดาวราตรี มดบินเนตรทอง ไม่เลวนี่ ถือว่ามีของสะสมอยู่บ้าง”

 

หยูเฮงน้อยวิพากษ์วิจารณ์ราวกับเป็นเพื่อนสนิทเขามานานหลายปีอย่างยิ้มแย้ม “ตาเฒ่า สัตว์เลี้ยงของเจ้านี่ท่าทางไม่เลวเลย แต่ว่าสัตว์อมตะยังไม่กล้าขยับเลย สัตว์วิญญาณก็ยิ่งไม่กล้าขยับเลยน่ะสิ”

 

ณ ที่นี้กำลังมีฉากฝึกสัตว์ นายท่านรองที่นั่งอยู่ในห้องหนังสือมาตลอดก็เริ่มใจตุ้มๆต่อมๆ แม้จะไม่ได้ตั้งใจไปสืบดูด้วยจิต แต่เสียงโหยหวนที่ดังขึ้นเรื่อยๆเขาก็ได้ยินหมด

 

ไม่ใช่แค่เขาที่ได้ยิน เกือบจะทุกคนในบ้านตระกูลฟางล้วนได้ยินหมด เพียงแต่ทุกคนได้รับคำสั่งจากนายท่านรองไม่ให้ทำอะไรตามอำเภอใจ

 

ตอนนี้ทุกคนรู้หมดแล้วว่าปรมาจารย์ฝึกสัตว์ในบ้านปล่อยสัตว์วิญญาณและสัตว์อมตะออกมาจนหมด สถานการณ์จะเป็นอย่างไร

 

โดยเฉพาะคนที่ได้รับข่าวตั้งแต่เมื่อคืนก็ยิ่งอยากดูฉากสนุกๆ ถึงตอนนี้พวกเขาถึงได้เข้าใจว่าฉากสนุกนี้อาจจะไม่ง่ายเท่าไหร่ที่จะดู

 

ในบ้านที่อยู่หลืบสุดของบ้านตระกูลฟาง คนทั้งครอบครัวนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก พวกเขาได้รับแจ้งมาตั้งแต่เช้าว่าจะมีคนใหญ่คนโตมาที่บ้านตระกูลฟาง ไม่อนุญาตให้ใครเพล่นพล่านตามอำเภอใจ ขณะเดียวกันก็อาจต้องให้ทุกคนไปออกงาน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องอยู่ในบ้านของตัวเอง

 

เพียงแต่เมื่ออากาศเหนือบ้านตระกูลฟางมีเสียงโหยหวนดังขึ้นเป็นระลอกก็ทำให้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกงุนงง แต่ก็ยังไม่มีใครออกมาดู

 

แต่ในที่ต้องห้ามบ้านตระกูลฟาง พวกปีศาจเฒ่าอยู่กันไม่สุขเท่าไหร่ พวกเขารู้สึกได้ว่ามีผู้แข็งแกร่งมาเยือนบ้านตระกูลฟาง กำลังคิดอยู่ว่าจะออกหน้าดีมั้ย

 

“ลุย ลุยให้หมด…” ขณะนี้ เสียงตะโกนรวมถึงหนวดเคราต่างสั่นเทาไปหมด ในตามีประกายเย็นๆและความโกรธเคือง

————————