TQF:บทที่ 617 เส้นทางแห่งเลือด (4)

 

แต่เหล่าสัตว์วิญญาณก็ยังหมอบอยู่ที่พื้นโดยไม่ขยับ กลับมีความหวาดกลัวอยู่ในแววตา ไม่โต้ตอบกับคำสั่งของผู้เฒ่า

 

“ฮ่าๆๆ ตาเฒ่า เจ้าเสร็จแน่ ฮ่าๆๆ…..” เสียงหัวเราะชอบใจของหยูเฮงน้อยดังกึกก้องไปทั่วฟ้า ใบหน้าเล็กๆมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม

 

“เจ้า นังเด็กอวดดี ข้าจะฆ่าเจ้าซะ….”

 

ถูกยัยเด็กน้อยเหยียดหยาม ใบหน้าของปรมาจารย์ฝึกสัตว์ที่วางตัวสูงส่งอยู่เสมอบิดเบี้ยว เขาคำรามด้วยความเหลืออด นัยต์ตาแคบลง ทั้งตัวมีรังศีอำมหิตเยือกเย็นแผ่ซ่านออกมา

 

“แกร่กๆ…”

 

หลังจากที่เขาคำรามอย่างเดือดดาล ตาแก่ที่ผอมโกรกตอนแรกก็ขยายตัวออก ข้อต่อกระดูกทั่วร่างของเขาส่งเสียงแกร่กๆ มีแสงสีเหลืองแผ่ซ่านออกมาจากทั้งตัว ราวกับเทพเจ้าเกราะทองที่จุติลงมายังพื้นดิน ท่าทางน่าเกรงขามและไม่อาจะต่อต้านได้

 

2 มือของเขาใหญ่ขึ้นราวภูเขา 2 ลูก พุ่งเข้าใส่หยูเฮงน้อยด้วยความเร็วราวฟ้าผ่า

 

“ชิ ข้าก็อยากจะฆ่าเจ้าทิ้งเหมือนกันนั่นแหละหน่า” เสียงใสๆของหยูเฮงน้อยสะท้านไปทั่วทุกสารทิศ ร่างเล็กๆส่งพลังลมปราณออกมาอย่างพรวดพราดราวกับต้องการกลืนกินฟ้าดิน

 

“ข้าจะฆ่าเจ้า…” เสียงตะโกนเกรี้ยวกราดดังขึ้นข้างหูทุกคนอย่างชัดเจนด้วยความเย็นยะเยือกที่หนาวถึงกระดูก

 

อีกฝ่ายมีวิทยายุทธระดับก้าวสู่เทพเทวา แต่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ได้เป็นกังวลแทนหยูเฮงน้อย อย่าว่าแต่นางเลย ต่อให้เป็นตัวเองก็เก็บเขาได้

 

 

“ดูซิว่าใครฆ่าใคร…”

 

น้ำเสียงของหยูเฮงน้อยเรียบง่ายและไม่ใส่ใจ ไม้ตบยุงในมือใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ภายใต้การลำเลียงพลังเซียนของหยูเฮงน้อย ไม้ตบยุงก็เปล่งแสงสีทอง น้ำหนักมากถึงหลายหมื่นตัน หากฟาดไปที่คนไม่ตายก็พิการ

 

“ตู้มมม..”

 

“แกร่กๆ….”

 

พัดของหยูเฮงน้อยไม่เคยพลาด เมื่อไม้ตบยุงฟาดไปที่ร่างเขาก็เกิดเสียงดังเหมือนพลุระเบิด ไม่ต้องบอกว่าที่หน้าอกอีกฝ่ายมีกระดูกหักไปกี่ซี่ เขาร้องอย่างโหยหวนพลางสำลักเลือดออกมาพรวดหนึ่ง หน้าอกบุบเข้า กระเด็นออกไปเหมือนว่าวที่ขาดออกจากด้ายกระแทกเข้ากับกำแพง เหลือเพียงรูที่มีรูปร่างคน

 

“หยุด…”

 

ในที่สุดก็มีคนมาถึงและตะโกนขึ้น มีตาแก่หลายคนปรากฏตัวออกมา ขณะเดียวกัก็มีคนวัยเยาว์หลายคนปรากฏตัวออกมาเช่นกัน บนใบหน้าของคนวัยเยาว์มีสีหน้าตกตะลึง

 

ฟางซูหยุนก็ได้เห็นเหล่าใบหน้าอันคุ้นเคย แต่นางไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่จ้องเขม็งไปยังผู้เฒ่าเหล่านั้น

 

แม้ว่าเมื่อกี้นางจะไม่ได้ลงมือ แต่นางก็อยู่ในเหตุการณ์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นนางก็มีส่วนร่วม ตั้งแต่เข้าประตูมาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะมีคนมาปรากฏตัว ทำไมถึงเป็นแบบนี้คนฉลาดอย่างนางจะไม่รู้ได้อย่างไร

 

ในสายตาไม่มีความรู้สึกอะไรนอกจากเคียดแค้น ต่อให้นางจะกลับมาแล้ว อาแท้ๆของตัวเองก็ยังต้องการกำจัดนางโดยไม่สนสิ่งอื่นใด

 

จะไม่ให้แค้นได้อย่างไร

 

เริ่มมีคนตระกูลฟางออกมาเรื่อยๆ ทั้งคนแก่ ผู้ใหญ่และเด็กๆ ไม่นานก็มีคนมารวมตัวถึง 100 คน

 

โดยเฉพาะบางคนที่จำฟางซูหยุนได้ ตกใจจนตาแทบจะถลนออกมา

 

ที่สำคัญกว่านั้นคือข้างกายฟางซูหยุนมีเด็กสาวคนหนึ่งที่หน้าเหมือนนางเปี๊ยบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแน่ๆ

 

คนที่ทึ่งที่สุดน่าจะเป็นพวกตาแก่ พวกเขาจ้องมองฟางซูหยุนและเฉิงเสี่ยวเสี่ยวโดยไม่ปกปิดความตกใจเลยแม้แต่น้อย

 

ฟางซูหยุนที่เพิ่งจะอายุ 50-60 เท่านั้นกลับมีวิทยายุทธระดับปรากฏเทพเทวา เทียบเท่ากับปีศาจเฒ่าอย่างพวกเขาที่มีชีวิตมาเกือบพันปี จะไม่ให้พวกเขาตะลึงได้อย่างไร

 

ต่อให้เป็นเจ้าบ้านของตระกูลฟางก็ยังอยู่แค่ระดับก้าวสู่เทพเทวาเท่านั้น ส่วนเด็กสาวข้างกายนางที่หน้าเหมือนกันกับนางก็เพิ่งจะมีอายุได้ 19-20 ปีเท่านั้น กลับมีวิทยายุทธถึงระดับก้าวสู่เทพเทวา

 

พวกเขาอึ้งกันไปหมด ตั้งแต่ออกมาจนถึงตอนนี้ไม่มีใครในพวกเขาพูดอะไร เพียงแค่ยืนมองพวกนางย่าหลานนิ่งๆ

 

กับการปรากฏตัวของคนตระกูลฟาง หยูเฮงน้อยเมินถึงที่สุด เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเพียงแต่กวาดตาครั้งเดียวเท่านั้นก็ถือซะว่ามองไม่เห็น ไม่มีท่าทีอยากจะพูดอะไรแม้แต่น้อย

 

“คุณหนู สัตว์วิญญาณและสัตว์อมตะเหล่านี้จะทำอย่างไรดี หรือว่าพวกเราจะเก็บไว้” สายตาของหยูเฮงน้อยมองไปยังสัตว์วิญญาณและสัตว์อมตะที่หมอบอยู่ที่พื้นนิ่ง

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเหลือบมองตามก่อนจะส่ายหัว “หน้าตาขี้เหร่เกินไป พวกเราอย่าเก็บไว้เลย”

 

“ไม่เอาเหรอ ก็ได้”

 

หยูเฮงน้อยยิ้มสดใส เดินไปข้างๆนางพลางเอ่ยยิ้มๆ “คุณหนู เหลือไว้ให้คนอื่นก็ไม่ดี อย่างไรซะก็เป็นอนุสรณ์ชัยชนะของพวกเรา เก็บไว้เป็นอาหารให้สัตว์อมตะของเราดีมั้ย”

 

 

———————