TQF:บทที่ 618 กอดคอร้องไห้ (1)

 

 

 

 

อาหาร

 

คนของตระกูลฟางยังไม่ทันจะได้สติเมื่อได้ยินคำนี้ หยูเฮงน้อยก็โบกมือน้อยๆ มีสัตว์อมตะเป็นฝูงปรากฏออกมา แรดดำ เสือป่าเมฆาม่วง ช้างหยก ช้างสิงโต และอีกมากมายก่ายกองนับร้อยตัว ทุกคนอึ้งกันไปหมด

 

ทั้งหมดนี้คือสัตว์อมตะ

 

หยูเฮงน้อยยิ้มกระหยิ่งอย่างพอใจเมื่อมองไปที่สัตว์อมตะเหล่านี้ “คุณหนู ท่านพูดถูกจริงๆ สัตว์อมตะของพวกเราต่างหากที่ดูดี ของพวกเขาน่ะขี้เหร่เกินไป ยากจะรักได้ลง เหมือนกับเจ้านายของพวกมันนั่นแหละ ไม่น่าดู”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ้มอ่อนโยนพลางพยักหน้าเบาๆ

 

หยูเฮงน้อยหันไปสั่งเหล่าสัตว์อมตะด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ไอพวกตัวใหญ่ โชคมาถึงแล้วนะ เจ้าพวกอัปลักษณ์พวกนั้นพวกเจ้ากินได้ทั้งหมด ไม่ต้องเกรงใจ ห้ามเหลือด้วย เข้าใจมั้ย”

 

“โฮกกก”

 

“อ๊างงง”

 

เหล่าสัตว์อมตะถูกสั่งไว้ว่าห้ามพูดภาษามนุษย์ จึงได้แต่รอบรับด้วยเสียงคำรามของตัวเอง

 

จากนั้นก็พากันพุ่งเข้าใส่สัตว์วิญญาณและสัตว์อมตะที่หมอบอยู่ขยับไม่ได้ อ้าปากฉีกกัดพวกมัน

 

“อย่าาา”

 

1 ในตาแก่รีบร้องตะโกนขึ้น เหล่าสัตว์วิญญาณและสัตว์อมตะเป็นรากฐานของพวกเขาตระกูลฟาง ถ้าหากถูกกินหมดละก็ ฐานะและอำนาจของพวกเขาตระกูลฟางต้องถูกกดขี่ลงไปเป็นแน่ พวกเขาจะยอมได้อย่างไร

 

แต่ก็ไม่มีใครสนใจเสียงร้องตะโกนของเขา โดยเฉพาะเหล่าสัตว์อมตะที่เมินเฉยจนถึงที่สุด ตั้งใจฉีกกัดเหล่าสัตว์วิญญาณและสัตว์อมตะที่ถูกสะกดอยู่

 

“กรี๊ดดด” ศิษย์หญิงอายุน้อยคนหนึ่งอดกรี๊ดไม่ได้เมื่อเห็นฉากนี้ รีบหันหน้าไปอีกทาง ไม่กล้ามองดูภาพที่สัตว์กินกัน

 

ตาแก่ที่อายุมากที่สุดมองเด็กรุ่นหลังที่เคยเฉิดฉายด้วยแววตายากจะบอกถึงความรู้สึก กล่าวขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “ยัยซูหยุน เจ้าจะล้างบางพวกเราตระกูลฟางเลยหรือไง”

 

“เหอะๆ ที่แท้ยังมีคนรู้เหรอว่าข้าคือฟางซูหยุน ข้านึกว่าคนที่รู้จักข้าตายกันไปหมดแล้วซะอีก แม้แต่จะกลับบ้านยังต้องปูทางด้วยเลือด ไม่คิดเลยว่ายังมีคนรู้จักชื่อข้า รู้ว่าข้าเป็นคนตระกูลฟาง คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงจริงๆ”

 

สีหน้าฟางซูหยุนตลกตัวเอง มองไปยังคนที่ตัวเองสามารถเรียกได้ว่าอาจารย์ปู่ด้วยสายตาเย็นเฉียบ นางไม่เชื่อว่าการมาของตัวเองจะไม่มีใครรู้

 

มีคนไม่น้อยที่รู้ว่านางกลับมาตั้งแต่เมื่อคืน คิดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีแบบนี้ต้อนรับนาง

 

“ซูหยุนเอ๋ย นี่น่ะ นี่เป็นการเข้าใจผิด….” 1 ในผู้เฒ่าฉีกยิ้มโกหกหน้าตาย นึกก่นด่าเจ้าบ้านในใจ นี่มันเรื่องอะไรกัน

 

ไม่ว่าจะมีความแค้นอะไรกับฟางซูหยุน อย่างไรซะตอนนี้วิทยายุทธของนางก็อยู่ระดับปรากฏเทพเทวาแล้ว อีกอย่างข้างกายนางยังมีก้าวสู่เทพเทวาอีกคน ถ้าหากตระกูลฟางได้ 2 คนนี้ละก็พลังที่มีอยู่ก็ยิ่งจะเพิ่มมากขึ้น แต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

 

จิตใจชั่วช้าจริงๆ มีเรื่องกับญาติตัวเองที่เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถเพราะความแค้นส่วนตัว น่าสังหารซะจริง

 

ที่สำคัญกว่านั้นคือในหมู่พวกนางมีปรมาจารย์ฝึกสัตว์อยู่ด้วย ดูสัตว์อมตะที่พวกนางปล่อยออกมาสิ ล้วนเป็นสายพันธุ์สูงส่งทั้งนั้น แล้วยังมีโอกาสเปลี่ยนเป็นสัตว์สวรรค์ได้อีกด้วย

 

คิดมาถึงตรงนี้ตาแก่พวกนี้ก็รู้สึกจิตใจรุ่มร้อนขึ้นมา ไม่รู้สึกปวดใจอีกแล้วเมื่อมองไปยังสัตว์อมตะที่กัดกินอยู่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ให้พวกสัตว์อมตะกินเถอะ อย่างไรซะก็ยังมีสัตว์อมตะอยู่ที่ตระกูลฟางก็พอแล้ว

 

เจ้าพวกตาแก่พวกนี้หน้าด้านหน้าทนกล้าพูดคำแบบนี้ออกมา แต่หยูเฮงน้อยกลับหัวเราะพรืดออกมาอย่างไม่เกรงใจ ชี้ไปที่พวกเขา “ฮ่าๆๆ เข้าใจผิด เข้าใจผิดจริงๆเหรอ ถ้าพวกเราไ่ม่มีฝีมือปกป้องตัวเองพอคงจะถูกพวกเจ้ากำจัดทิ้งไปแล้ว ฮูหยินฟางก็แค่กลับบ้านตัวเองเท่านั้น แต่กลับต้องมาเจอกับการล่าสังหารจากพวกเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า บอกชื่อไปก็ไม่มีประโยชน์ ตาแก่ เจ้าพูดได้อย่างไม่อายปาก แต่พวกเราน่ะอายแทนเจ้า น่าขายหน้าจริงๆ”

 

คำพูดมากมายพรั่งพรูออกจากปากหยูเฮงน้อย ความดูถูกเหยียดหยามบนใบหน้าเล็กๆนั่นทำให้ตาแก่เหล่านี้อายจนหน้าแดง

 

ความจริงก็เป็นแบบนี้ แต่จะให้พวกเขายอมรับหรือไง

 

แน่นอนว่าต้องไม่ยอมรับอยู่แล้ว

 

“แค่กๆๆ”

 

ตาแก่ชุดน้ำตาลที่ยังไม่ได้พูดอะไร นัยต์ตาที่เริ่มมัวหมองมองไปยังฟางซูหยุนที่สวยไม่น้อยลงเลยก่อนจะหันไปมองสาวสวยอีก 2 คน เขาหันไปตะคอกเสียงเย็นกับคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง “เจ้าบ้าน นี่มันเรื่องอะไรกัน”

 

สายตาของทุกคนมองไปที่นายท่านรองทันที นายท่านรองที่ปรับสีหน้าเป็นปกติแล้วยิ้มเฝื่อนๆ ประสานมือตอบ “ท่านอาปู่ พวกทหารยามไร้มารยาท ผู้อาวุโสอันไม่รู้ว่าซูหยุนกลับมาจึงลงมือไป นี่ นี่มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดจริงๆ”

 

“ถุย…” หยูเฮงน้อยทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป อดมองบนไม่ได้ ไม่มีคนที่ไร้ยางอายที่สุด มีแต่คนที่ไร้ยางอายกว่า

 

คนของตระกูลฟางรู้ดีอยู่แก่ใจว่านี่มันเรื่องอะไร ศึกชิงอำนาจบ้านรองเป็นผู้ชนะ ทุกคนย่อมเข้าใจว่าทำไมนายท่านรองถึงทำแบบนี้

 

ดังนั้นจึงไม่มีใครพูดอะไรออกมา นอกจากให้อาจารย์ปู่ที่เก็บตัวอยู่มาจัดการเรื่องนี้

 

หากตอนนั้นอาจารย์ปู่แทรกแซงละก็ บ้านใหญ่ก็คงไม่แพ้อย่างอนาถขนาดนี้ ตอนนี้ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในบ้านโทรมๆ

——————————-